7 พรรคฝ่ายค้าน เตรียมลุยตรวจสอบ “บิ๊กตู่” และรัฐบาล

ประเด็นน่าสนใจ

หลังจากจบสิ้นการประชุมคณะกรรมการบริหาร 7 พรรคฝ่ายค้านนำโดย พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย / นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรค ร่วมแถลงข่าวหลังประชุมหารือทิศทางการทำงานร่วมกันในฐานะฝ่ายค้านได้ทำการแถลงข่าวเพื่อสร้างความเข้าใจกับสื่อมวลชน ที่เกี่ยวข้องกับความชัดเจนจากมติในที่ประชุมนั้น

ซึ่งเน้นไปที่การตรวจสอบอำนาจและการทำงานของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. และสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ก่อวิกฤตและปัญหาในสังคมตอนนี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทั้ง 7 พรรคมีมติแต่งตั้งวิปฝ่ายค้านที่มาจาก ส.ส. ของแต่ละพรรค โดยจะมีการประชุมหารือร่วมกันพรุ่งนี้ เพื่อกำหนดตัวบุคคล รวมถึงมีมติตั้งคณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยให้แต่ละพรรคส่งตัวแทนพรรคละ 2 คน และให้พลตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานกรรมการ เพื่อประสานงานกับประชาชน สถาบันด้านวิชาการ และภาคประชาชน ในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นประชาธิปไตยของรัฐธรรมนูญที่ถูกร่างโดยผู้มีอำนาจเดิม

นอกจากนี้ยังมีการวางแนวทางร่วมกันหลายเรื่อง เช่น การตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล การตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส. ส.ว. และคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ฝ่ายค้านสามารถร่วมกันได้ซึ่งหลังจากนี้ จะประชุมกันทุกสัปดาห์ เพื่อนำประเด็นใหญ่ๆ มาตัดสินใจร่วมกัน

ส่วนความคาดหวังในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ยังไม่ได้มองถึงขั้นนั้น โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ปัญหาของรัฐธรรมนูญก่อน ส่วนว่าจะแก้ประเด็นอะไร และมาตราใดบ้างต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นการบ้านสำคัญที่คณะกรรมการต้องหารือกัน

นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ที่ปรึกษานโยบายพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกระแสที่ออกมาหาว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านทำการเมืองบนท้องถนน และทำการล้มรัฐบาลนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีเจตนาเช่นนั้น แต่พยายามที่จะสร้างมติใหม่ในการทำงาน ฝ่ายค้ทนพยายามที่จะผลักดันสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ในระยะเปลี่ยนผ่านโดยสันติวิธี เชื่อมโยงการทำงานทั้งในและนอกสภา

รวมทั้งภาคสังคมส่วนต่างๆ ซึ่งจะผลักดันประเด็นสำคัญไปในทิศทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการจัดการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์แบบที่ผ่านมา จะต้องตรวจสอบองค์กรที่รับผิดชอบให้รับผิด รวมถึงการใช้อำนาจของรัฐบาล ที่มี คสช. เป็นผู้กุมอำนาจโดย ม.44

นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า เราจะตรวจสอบรัฐบาล โดยร่วมกับภาคประชาชน ในส่วนของตนนั้น จะเน้นในการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการควบอำนาจของ คสช. ซึ่งผิดต่อมาตรา 113 สมาชิกสภาจะต้องไม่อยู่ใต้อำนาจของใคร แต่ที่ผ่านมา สว. 250 คน โหวตเลือกในทิศทางเดียวกัน และขัดต่อมาตรท 114 ส.ส. และ ส.ว. ไม่มีการครอบงำและปราศจากผลประโยชน์ การสรรหา ส.ว. ครั้งนี้ควรจะเป็นโมฆะ รวมถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน

นายสุพจน์ อาวาส รองโฆษกพรรคประชาชาติ เผยว่า จะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่มีเสียงข้างน้อย และการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่มีข้อร้องเรียนค้างอยู่หลายฉบับ ซึ่งการทำงานของทั้ง 7 พรรค เป็นการทำงานแบบแนวดิ่ง ที่จะปิดช่องว่าง โดยนำเครือข่ายภาคประชาชน เข้ามาร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศ

นายปิติพงษ์ เต็มเจริญ โฆษกพรรคเสรีรวมไทย ได้กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ไม่ใช่ที่คาดหวังของประชาชน ทางพรรคจึงจะทำงานให้เห็นว่า 7 พรรค จะเป็นที่พึ่งได้ ทำงานให้เต็มที่ พรรคได้ทำการตรวจสอบรัฐบาล และนายกฯ ไปแล้วบางส่วน ตนยืนยันว่า การทำงานทั้งหมดไม่มีผลประโยชน์ และข้อต่อรองใดๆ แต่ทำเพื่อประเทศ และอยากให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ร่วมกับ 7 พรรค

ทั้งนี้ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังเผยอีกว่า ในการประชุมวันนี้ ยังไม่มีมติในส่วนประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งจะชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (18 มิถุนายน 2562) เพราะพรรคการเมืองทั้ง 7 พรรค มีจุดประสงค์และนโยบายเป็นของตัวเอง แต่เรามีแนวทางในการทำงานร่วมกันเป็นแนวขนานกับสภา ซึ่งการทำงานวิปฝ่ายค้านจะต้องรอให้สรุปมติก่อน แต่คณะทำงานชุดนี้ได้ทำการจัดตั้งแล้ว