ประเด็นน่าสนใจ
- ทางการท้องถิ่นในรัฐออริกอน ตัดสินใจกำจัดหมีดำ มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป โดยออกมานั่งรอขออาหารจากนักท่องเที่ยว, ผู้ที่ผ่านไปมา
- จนท. ยืนยันว่า ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว สำหรับหมีตัวนี้ หลังเคยพยายามพลักดันกลับเข้าป่า แต่สุดท้ายก็กลับมาอีก
- ประชาชนต่างรู้สึกไม่พอใจกับการดำเนินการของทางการ เพียงเพราะการที่มันออกมาขออาหาร
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสำนักงานนายอำเภอวอชิงตัน เคาน์ตี้ ได้ทวีตข้อความเตือน ให้ประชาชนอยู่ห่างหมีดำ (American Black Bear) ตัวหนึ่ง หลังจากที่เจ้าหมีเคราะห์ร้ายตัวนี้ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปจากธรรมชาติ
โดยก่อนหน้านี้ หมีดำเคราะห์ร้ายตัวนี้ได้เปลี่ยนพฤติกรรมจากการหาอาหารกินเอง มารอขออาหารจากประชาชนที่ผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าว ซึ่งในระยะหลังยังเข้าใกล้ชิดคนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายคนที่ผ่านไปมา สามารถเข้าใกล้ได้ ถ่ายรูปมันได้อย่างใกล้ชิดขึ้นเรื่อย
และบริเวณดังกล่าวนั้น เป็น Henry Hagg Lake พื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาตั้งแคมป์ หลายคนก็เลือกที่จะให้อาหาร หรือวางอาหารไว้ให้มัน ยิ่งทำให้มันเปลี่ยนพฤติกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ
จนท. ตัดสินใจ “กำจัด” ทิ้ง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามผลักดันให้เจ้าหมีดำตัวนี้ กลับสู่ธรรมชาติ แต่มันก็ยังคงกลับมานั่งรออาหารเช่นเดิม ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจกำจัดมัน ก่อนที่จะเปลี่ยนไปทำร้ายผู้คน
โดยทางการท้องถิ่นระบุว่า
มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากมากของผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า สำนักงานสัตว์ป่าและประมงออริกอน ที่จะต้องทำให้เกิดความปลอดภัยแก่ทุกๆ คน การย้ายที่อยู่ของมันไม่ใช่ทางเลือกในกรณีนี้
มนุษย์ไม่ควรให้อาหารหมีเหล่านี้ มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าที่สุด
@WCSO Oregon
หลังจากข้อความดังกล่าวได้ถูกทวีตออกมา หลายคนก็ออกมาแสดงความเสียใจ และรู้สึกไม่ดีกับการดำเนินการดังกล่าวของทางการท้องถิ่น โดยระบุว่า การกระทำครั้งนี้เป็นการกระทำที่โหดร้าย รุนแรงเกินกว่าเหตุ และเหตุผลเพียงแค่การปกป้องมนุษย์ก็ไม่ควรที่จะเลือกการฆ่าหมีตัวนี้ ซึ่งทางการท้องถิ่นก็ได้ให้คำตอบคล้ายเดิมว่า มนุษย์ไม่ควรให้อาหารสัตว์
การให้อาหารสัตว์ป่า = ทำลายชีวิตสัตว์!
สำหรับในด้านการจัดการสัตว์ป่าแล้ว พฤติกรรมของมนุษย์ที่ให้อาหารสัตว์ป่านั้นถือเป็นการทำลายชีวิตสัตว์ป่าโดยอ้อมโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากพฤติกรรมของสัตว์ป่าโดยทั่วไปแล้ว จะเรียนรู้การหาอาหารกินเอง ดำรงชีวิตด้วยตนเอง
เมื่อมีผู้ให้อาหารสัตว์ ไม่ว่าจงใจหรือไม่ก็ตาม เช่น ตั้งใจเทเศษอาหารไว้ให้, การทิ้งขยะไม่ถูกต้อง หรือแม้กระทั่งการไม่จัดเก็บอาหารที่วางอยู่ในบริเวณเต็นท์ ทำให้สัตว์ออกมารื้อกิน สิ่งเหล่านี้จะทำให้สัตว์เรียนรู้ว่า จุดใด บริเวณใด ที่สามารถหาอาหารได้ง่ายที่สุด
เมื่อสัตว์ได้เรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะ “เลิก” การออกออกหาอาหารในแบบเดิม และหันมานั่งร้องขออาหารแทน รื้อค้นอาหารจากขยะ ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบหลายอย่างเช่น
- อันตรายต่อสัตว์โดยตรงเช่น ถุงพลาสติกติดหลอดอาหาร, ถูกรถเฉี่ยวชน (กรณีมานั่งรอริมถนน)
- มีโอกาสในการติดเชื้อระหว่างคนสู่สัตว์ป่า, สัตว์ป่าสู่คน หรือสัตว์เลี้ยงสู่สัตว์ป่าได้
- พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง เช่น ก้าวร้าวขึ้น แย่งอาหาร ขโมยสิ่งของ
- ระบบนิเวศวิทยาของสัตว์เปลี่ยน
ตัวอย่างในประเทศไทย
ในประเทศไทยเอง มีปัญหาคล้ายคลึงกันนี้ในหลายที่ด้วยกัน เช่น ปัญหาการให้อาหารปลาในทะเลไทย ทั้งโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือจงใจล่อปลามาเพื่อถ่ายรูป ที่หลายครั้งทำให้พฤติกรรมของปลาก้าวร้าวขึ้น ปลาบางชนิดมีจำนวนมากผิดสมดุลธรรมชาติ สุดท้ายส่งผลกระทบต่อปะการัง
หรือจากข้อมูลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รายงานการพบสัตว์ป่า โดยเฉพาะลิง เสียชีวิตจากการโดนรถชนบนถนนมากขึ้น ซึ่งสาเหตุหนึ่งมากจาก เมื่อการให้อาหาร-ทิ้งขยะเศษอาหารริมทาง ทำให้สัตว์ออกมาหากินริมถนนแทนที่จะเป็นด้านในป่า เพียงเพราะความสงสาร