พรรคอนาคตใหม่

พรรคอนาคตใหม่ ชวนจับตา! ครบ 7 วัน หลังชวนยื่นเรื่อง 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ

พรรคอนาคตใหม่ ชวนจับตา ครบ 7 วันแล้ว หลังประธานสภายื่นเรื่อง 41 ส.ส. ถือหุ้นสื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลจะรับคำร้องและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามมาตรฐานเดียวกับกรณี “ธนาธร” หรือไม่ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน…

Home / NEWS / พรรคอนาคตใหม่ ชวนจับตา! ครบ 7 วัน หลังชวนยื่นเรื่อง 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ

พรรคอนาคตใหม่ ชวนจับตา ครบ 7 วันแล้ว หลังประธานสภายื่นเรื่อง 41 ส.ส. ถือหุ้นสื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลจะรับคำร้องและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามมาตรฐานเดียวกับกรณี “ธนาธร” หรือไม่

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ วาโย อัศวรุ่งเรือง, ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, และเอกภพ เพียรพิเศษ ทีมรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าว โดยณัฐชา กล่าวถึงกรณีที่ทีม ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นหนังสือต่อชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการนำเรื่องส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไปเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา

ในกรณีการถือหุ้นสื่อของ 41 ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาล ที่มีลักษณะเดียวกันกับกรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งสองรายที่ถูก กกต.ตัดสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้ คือ ภูเบศวร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร และอดีตผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย จ.ลพบุรี นั้น

สิ่งที่อยากขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันจับตามอง คือ กระบวนการที่จะเกิดขึ้น จะเป็นไปตามเงื่อนไขเวลาแบบเดียวกันกับกรณีของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ทาง กกต.ได้ส่งเรื่องไปทางศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาในวันที่ 23 พฤษภาคมใช้ระยะเวลา 7 วัน

“ในกรณี 41 ส.ส.นี้ หากเป็นการพิจารณาคดีที่มีกระบวนการเดียวกัน เราตั้งข้อสังเกตว่าควรจะมีผลการพิจารณาคดีออกมาภายใน 7 วัน นั่นก็คือวันที่ 19 มิถุนายน หรือหากนับอย่างช้าที่สุด คือวันที่ 20 มิถุนายน 2562 เพราะฉะนั้น เราอยากให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนร่วมกันสังเกตการณ์ตรวจสอบการพิจารณาคดีครั้งนี้ ว่าผลการพิจารณาจะออกมาหรือไม่ ในทิศทางไหน” ณัฐชากล่าว

ด้านวาโยกล่าวเสริมกรณี 41 ส.ส. ถือหุ้นสื่อนั้นที่จริงแล้วพรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นด้วยกับการใช้หนังสือบริคนสนธิในการตัดสินว่าบุคคลใดถือหุ้นสื่อหรือไม่ เพราะเป็นการผิดต่อเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมาย แต่พรรคต้องการให้ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนออกมาร่วมกันจับตาตรวจสอบว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันหรือไม่