“ศักดิ์สยาม” ตรวจความพร้อม “รถไฟฟ้าสายสีแดง” เปิดทดลอง ก.ค.นี้

ประเด็นน่าสนใจ

วันนี้ (27 ม.ค.64) ที่ สถานีกลางบางซื่อ กรุงเทพมหานคร นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานีในโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการในเดือน ก.ค.64 และบริการแบบเชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย.64 พร้อมกับสถานีกลางบางซื่อ และโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต

พร้อมนำสื่อมวลชนทดลองนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสถานีกลางบางซื่อไปยังสถานีตลิ่งชัน เพื่อติดตามความคืบหน้างานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า และดูการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ ก่อนนั่งรถไฟฟ้ากลับสถานีกลางบางซื่อ โดยเยี่ยมชมภายในอาคารสถานีกลางบางซื่อ เพื่อดูพื้นที่ที่จะให้บริการเชิงพาณิชย์ และพื้นที่จำหน่ายสินค้าโอทอปด้วย

ตั้งเป้าให้ ร.ฟ.ท. มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ กล่าวว่า ครั้งนี้ได้มอบนโยบายเรื่องพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพราะต้องการให้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีรายได้เพียงพอที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการบริการสถานี ซึ่งจากข้อมูลเดิมที่มีการศึกษา ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา 1.4 พันล้านบาท

ซึ่งเป็นค่าบริหารสถานีและค่าบำรุงรักษา ซึ่งที่ผ่านมาจากผลการศึกษาโครงการดังกล่าวฯ ของ ร.ฟ.ท. ก่อนที่จะเปิดให้มีการร่วมลงทุนระหว่างภาค รัฐ และ เอกชน (พีพีพี) พบว่า ร.ฟ.ท. จะมีรายได้อยู่ที่ 267 ล้านบาท โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้ ร.ฟ.ท. ทบทวนผลการศึกษาใหม่ ได้ตั้งเป้าให้ ร.ฟ.ท.มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทต่อปี

โดยได้สั่งการให้ ร.ฟ.ท. และกรมขนส่งทางราง (ขร.) หารือถึงแนวทางการบริหารรายได้ในโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) รวมถึงการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ครอบคลุมรายจ่าย โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับผลการศึกษาเดิมของ ร.ฟ.ท. ที่จะทำให้องค์กรขาดทุน และไม่ควรคาดหวังให้กระทรวงคมนาคมขอเงินอุดหนุนจากภาครัฐ (พีเอสโอ) ตนมองว่ารัฐวิสาหกิจควรมีกำไร ซึ่งร.ฟ.ท.จะต้องเสนอแนวทางดังกล่าวต่อกระทรวงคมนาคมให้รับทราบภายใน 7 วัน

จัดพื้นที่ให้ประชาชนนำสินค้ามาขาย

พร้อมจัดพื้นที่ให้กับประชาชนนำสินค้าโอท็อปเข้ามาจำหน่าย โดยศึกษาข้อมูลจากงานจัดแสดงสินค้าโอท็อปที่เมืองทองธานี และนำมาปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ในสถานีกลางบางซื่อ โดยจะต้องหารือร่วมกับกรมพัฒนาชุมชน และกระทรวงมหาดไทยว่าสินค้าใดที่เหมาะสมจะนำมาจำหน่ายที่สถานีกลางบางซื่อ และสร้างมูลค่าเพิ่มได้ นายศักดิ์สยาม กล่าว

อย่างไรกตาม ส่วนประเด็นการปิดสถานีหัวลำโพงนั้น นายศักดิ์ สยาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ ร.ฟ.ท.ไปศึกษาหาแนวทางการปิดให้บริการสถานีรถไฟฯ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชน โดยหลังจากเปิดให้บริการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ในเดือน พ.ย. 64 ไม่ควรนำขบวนรถไฟเข้าไปให้บริการภายในสถานีหัวลำโพงแล้ว

หากมีความจำเป็นให้ ร.ฟ.ท. ปรับเวลาการเดินรถ เป็นหลัง 22.00-04.00 น. ส่วนพื้นที่บริเวณ หัวลำโพง ได้สั่งการให้ ร.ฟ.ท.หาแนวทางในการพัฒนา พื้นที่เป็นศูนย์กลาง การพัฒนา พื้นที่ของ ร.ฟ.ท. เพื่อให้มีรายได้ล่อเลี้ยงองค์กร รวมทั้งช่วยให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ ในการประกอบอาชีพ บริเวณพื้นที่ดังกล่าว

ภาพ : วิชาญ โพธิ