ประเด็นน่าสนใจ
- อนุทิน เผยวางเป้าหมาย เตรียมพัฒนากัญชาพันธุ์ไทยเป็น ‘เมดิคัลเกรด’
- ชี้เสถียรภาพของรัฐบาล ต้องขึ้นอยู่กับผลงาน และไม่มีข่าวเสียหาย
วันนี้ (21 มิ.ย.62) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายปากท้องหากมีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขตามโผ ว่านโยบายกัญชา เป็นนโยบายที่เราจะทิ้งไม่ได้ เราเริ่มนโยบายนี้ จากตัวเราเอง และพูดคุยกับประชาชน พบว่าคนไทยจำนวนมาก เมื่อเข้าสู่วัยหนึ่งจะมีอาการปวดหัว ปวดตัว
ต่อมาเราศึกษาพบว่าในทางการแพทย์แผนไทย สามารถใช้กัญชารักษาได้ ตรงนั้นคือตัวจุดประกายความคิด ก่อนที่เราจะลองไปพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆ ซึ่งล้วนเห็นด้วยว่าควรผลักดันกัญชา ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ และพืชทางการแพทย์ แม้กระทั่งทางรัฐบาลก็เริ่มต้นเรื่องกัญชา แต่กฎหมายมีข้อจำกัดมากไป เราจะเข้าไปผ่อนปรน ให้ประชาชนได้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเท่าเทียม
ที่สุดแล้วพรรคจึงบรรจุเรื่องนี้เป็นนโยบายหาเสียง ในอนาคต ตนอยากให้ใครก็ตามที่ปวดหัว นอนไม่หลับ ทานลำบาก เมื่อคุณมีใบรับรองแพทย์ คุณไปซื้อน้ำมันกัญชากับเภสัชกรได้เลย
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า กัญชาพันธุ์ไทย เป็นหนึ่งในพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก แต่เราต้องพัฒนาสายพันธุ์ให้ดียิ่งขึ้นไป ให้เป็นพันธุ์ที่อยู่ในระดับของ “เมดิคัลเกรด” หรือเป็นพันธุ์ที่เหมาะแก่การใช้ทางการแพทย์ ซึ่งตนคิดว่าสมควรให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญไปดูแลรับผิดชอบ จากนั้นแจกจ่ายให้ชาวบ้านไปปลูก เป็นยาประจำบ้าน และเป็นรายได้เสริมของประชาชนอีกช่องทางหนึ่ง
ต่อคำถามว่ากังวลหรือไม่ว่าประชาชนจะติดกัญชา ในฐานะของยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องมีกฎหมายมาจัดการเรื่องนี้ การปลูก การแปรรูป การซื้อขายต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ แต่ไม่ใช่ไปเอื้อให้บางคนบางกลุ่มเข้ามาผูกขาด
นอกจากนี้ตนมั่นใจว่าคนไทยมีความรู้ผิดชอบ รู้ว่าควรใช้ปริมาณเท่าไร จึงจะเหมาะสม นอกจากนั้น เรามองในเรื่องของการพัฒนาสินค้าจากกัญชงด้วย เนื่องจากมีสรรพคุณทางการแพทย์คล้ายกับกัญชา และยังสามารถใช้เส้นใยมาผลิตสินค้าอื่นได้ด้วย ในส่วนของกัญชง เราสนับสนุนให้เป็นวิสาหกิจชุมชน
“ตนเพิ่งลงพื้นที่ไปโรงพยาบาลละงู จ.สตูล เห็นผู้ป่วยติดเตียง ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าผู้ป่วยได้ยากัญชา คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจะดีขึ้นหรือไม่ สำหรับประชาชน ถ้าเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้น ชีวิตของพวกเขาน่าจะดีขึ้น เพราะมีราคาถูกกว่ายาแผนปัจจุบัน”
นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนโยบายการยกระดับ อสม. ว่า ประเทศไทย มี อสม. เป็นหลักแสนคน เราควรจะพัฒนาเขา ให้เข้าเข้ามาอุดช่องโหว่ด้านการสาธารณสุข สามารถดูแลชาวบ้าน ในระดับเบื้องต้นได้ เป็นทางเลือกแรก ก่อนที่ประชาชนจะต้องเสียเงิน เสียเวลาเข้าไปหาหมอในเมือง นโยบายของตน และของพรรคเป็นนโยบายที่เราศึกมาอย่างดี ยึดหลักของความเป็นไปได้ และทำได้ทันที จึงไม่ใช่การขายฝัน
เมื่อถามถึงเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลทำดีมีผลงาน ไม่มีข่าวเสียก็อยู่ได้ หลักการทำงานก็ขอให้พูดคุยกัน ประคองกันไปทำงานให้ประชานถูกใจ ส่วนตัวไม่เน้นเรื่องแตกหักขัดแย้งอยู่แล้ว แต่อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันนำพาบ้านเมืองสู่ความเจริญ ประชาชนอยู่ดีกินดี