พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาตรการ

เคาะเยียวยา ผลกระทบโควิด-19 เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิปลายเดือนม.ค.นี้

ลดค่าไฟ-ค่าน้ำประปา แจกเงิน 3,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือน พร้อมเดินหน้าวัคซีน

Home / NEWS / เคาะเยียวยา ผลกระทบโควิด-19 เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิปลายเดือนม.ค.นี้

ประเด็นน่าสนใจ

  • ลดค่าไฟ-ค่าน้ำประปา แจกเงิน 3,500 บาท ระยะเวลา 2 เดือน เลื่อนสอบกพ.เร็วขึ้น เปิดโอกาสคนจบใหม่ว่างงาน พร้อมเดินหน้าหาวัคซีน ยันคนไทยได้รับการฉีดฟรี!

วันนี้ ( 12 ม.ค. 64) ที่ ทำเนียรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ตนได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในมาตรการเศรษฐกิจที่จะช่วยบรรเทาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยมี มาตรการลดค่าใช้จ่ายประชาชน โดยตัดสินใจร่วมกับ ครม.ให้มีส่วนลดค่าไฟฟ้าในระยะเวลา 2 เดือนตามใบแจ้งหนี้เดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2564 สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรกแต่หากใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือนก็จะมีส่วนลดค่าไฟฟ้าตามเงื่อนไขที่กำหนด

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดเล็กไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 50 หน่วยแรก และลดค่าน้ำประปาลงร้อยละ 10 สำหรับบ้านที่อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ตามใบแจ้งหนี้เดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2564 สำหรับค่าอินเตอร์เน็ต โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กสทช.และผู้ประกอบการ โดยมีมติให้เพิ่มความเร็วและความแรงของเน็ตบ้านและมือถือพร้อมลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ใช้บริการได้ใช้อินเตอร์เน็ตได้ดียิ่งขึ้นเพื่อสนับสนุนการ work from home และให้ประชาชนสามารถโหลดแอพพิเคชั่นหมอชนะฟรีไม่คิดค่าดาต้าระยะเวลา 3 เดือน

เปิดคนละครึ่งเฟสใหม่ 1 ล้านสิทธิ

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะที่โครงการคนละครึ่งจากการประเมินผล ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ จึงจะให้มีการเปิดลงทะเบียนเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ ปลายเดือนมกราคมนี้ ขณะที่เรื่องอื่นๆ ตน มีนโยบายให้เยียวยารายได้กับผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่มครอบคลุมเหมือนที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระและเกษตรกร โดยเบื้องต้นให้ไปพิจารณาจำนวนเงินที่เหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาท ต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน ซึ่งให้กระทรวงการคลังเสนอ ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยให้คำนึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต ดังนั้นวันนี้จึงขอแค่ 2 เดือนก่อน

เพิ่มสภาพคล่อง – เปิดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ปัจจุบันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่อง ของธนาคารของรัฐยังมีวงเงินเหลืออยู่ประมาณกว่า 2 แสนล้าน โดยให้กระทรวงการคลังประสานธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยเหลือในเรื่องหนี้สินและการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการและประชาชนโดยเร็ว เช่น สินเชื่อธนาคารออมสิน 10,000-15,000 บาทต่อราย อัตตราดอกเบี้ยต่ำ 0.1-0.35 ต่อเดือน อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือต่างๆ อาจจะไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็บรรเทาความเดือดร้อนไปได้ระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนการช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้แรงงานในระบบประกันสังคม เช่นการลดหย่อนเงินสมทบนายจ้างและผู้ประกันตน การเยียวยากรณีว่างงานให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษารวมถึงค่าใช้จ่ายโดยไม่ต้องสำรองเงินไปก่อน เพราะมาตรการส่งเสริมการจ้างงานรักษาระดับการจ้างงานโดยมอบหมายกระทรวงแรงงานไปแล้ว และการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน โดยต้องเร่งพิจารณาปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงพิจารณามาตรการดูแลแรงงานนอกระบบประกันสังคมด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การสอบราชการประจำปีในให้สำนักงาน กพ.ให้มีการสอบเร็วขึ้นจากทุกครั้ง เพื่อทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุไป และในส่วนของน้องๆหลานๆที่จบจากมหาวิทยาลัยที่ยังไม่มีงานทำได้มีโอกาสมาสอบคัดเลือกในส่วนนี้ ซึ่งมี 2 ซึ่งมีสองส่วน ได้แก่ การสอบทั่วไปจำนวนหนึ่งและอีกส่วนก็จะมีสัดส่วนในการสอบเฉพาะคุณสมบัติตามวิชาชีพ จึงขอให้ทุกคนเตรียมกันไว้ด้วย และให้รอฟังการประกาศจากสำนักงานกพ.ต่อไปเมื่อมีความพร้อม ซึ่งตนคิดว่าหลายคนก็มีความคิดอยากเป็นข้าราชการอยู่รวมถึงคนรุ่นใหม่

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลผลักดันให้มีการช่วย ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนเพิ่มเติม ซึ่งตนเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน และอีกเรื่องที่ได้มีการอนุมัติไปแล้วคือการขยายเวลาการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากปีที่ผ่านมาโดยลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90 % และยกเว้นการโอนค่าธรรมเนียมอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เร่งเสนอกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้องกับ ครม. ต่อไป

เรงจัดหาหน้ากาก-อุปกรณ์ให้เพียงพอ

อย่างไรก็ตามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังเปิดเผยว่ากระทรวงสาธารณสุข ได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิด 19 โดยการจัดหาหน้ากากอนามัย และหน้ากากผ้าให้เพียงพอและควบคุมพื้นที่กลุ่มเสี่ยง พร้อมขอบคุณประชาชนที่มีความเชื่อมั่นและเชื่อฟังมาตรการของรัฐบาลหลายคนมีการหยุดอยู่บ้าน

ส่วนการจัดหาและกระจายวัคซีน นั้น รัฐบาลยืนยันว่า คนไทยทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีน โดยได้เร่งรัดให้กระทรวงสาธารณสุข จัดทำแผนในการกระจายวัคซีนให้กับโรงพยาบาลอย่างทั่วถึง และเพียงพอ เนื่องจากวัคซีนมีการทยอยมา จึงต้องทยอยฉีดให้ตามความจำเป็นเร่งด่วนตามลำดับ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้กับภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนได้ แต่จะต้องได้รับการรับรองผ่านมาตรฐาน อย. ทั้งจากต่างประเทศและของไทยเอง

อีกทั้งนายก​รัฐมนตรี​ กล่าวว่า การจัดหาวัคซีนในขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือ เพราะรัฐบาลจำเป็นต้องจัดระเบียบ โดยมอบหมายให้ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนงานให้มีความชัดเจน เมื่อรับเข้ามาเวลาใด ควรย้ายอย่างไร และส่งผลต่ออย่างไร เพื่อสร้างการรับรู้ว่าประชาชนจะสามารถเข้าถึงทั้งประเทศอย่างแน่นอน


ภาพ : วิชาญ โพธิ