ศาลพระพรหมเอราวัณ หรือ เทวสถานท่านท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เป็นจุดหมายปลายทางที่ช่วงปกติมีทั้งประชาชนชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติต่างเดินทางมาเคารพสักการะขอพรจำนวนมาก โดยท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ระลอกสอง ยังไม่ได้มีการปิดเหมือนครั้งแรกที่ต้อง ปิดตัวไปช่วงหนึ่ง
ทั้งนี้ จากการสำรวจของทีมข่าว MThai พบว่าที่นี่ผู้คนบางตาไปมาก มีคนไทยเพียงจำนวนหนึ่งที่เข้ามากราบไหว้ขอพร และว่าจ้างคณะละครชาตรี เพื่อรำแก้บน และยังปรับเปลี่ยนเวลาปิดสถานที่ จากเดิมปิดเวลา 23.00 น. เปลี่ยนเป็นปิดเร็วขึ้น คือเวลา 21.00 น. ส่วนเวลาเปิดยังเหมือนเดิมคือ 06.00 น.
โดยเจ้าหน้าที่ เล่าให้ฟังว่า จำนวนคนที่มาก็น้อยลงกว่าเดิมมาก ก่อนการแพร่ระบาดระลอกที่สองนั้น สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ ณ ตอนนี้ สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิมมาก หลากหลายอาชีพได้รับผลกระทบ ทั้งๆ ต้นเหตุสำคัญของในการระบาดของโรค คือ การลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าประเทศ และพวกการเล่นพนันในโกดัง แต่ที่นี่นางรำแก้บน และทุกคนยังคงสู้อยู่ ซึ่งประชาชนที่จะเข้ามา ต้อง เช็คเอาท์ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดไทยชนะ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่ต้องตรวจอย่างเข้มงวดมากขึ้น
สำหรับจำนวนคนที่มาสักการะท่านท้าวมหาพรหมเป็นคนไทยส่วนใหญ่ และชาวต่างชาติที่ยังอยู่อาศัยในไทย ซึ่งจากการนับจำนวนของเจ้าหน้าที่ประจำศาลท้าวมหาพรหมนับจำนวนได้ว่าวันธรรมดา เหลือเพียง 300-500 คนต่อวัน จากเดิมเคยมีเฉลี่ยวันละ 7,000- 10,000 คน
อย่างไรก็ตามส่วนค่าจ้างคณะรำแก้บนนั้น ยังเป็นค่าบริการเดิม คือ นางรำ 2 คน 260 บาท 4 คน 360 บาท 6 คน 610 บาท และ 8 คน 710 บาท ขณะเดียวกันขอให้ผู้ที่มาที่นี่มั่นใจในมาตรการป้องกัน เพราะนางรำทุกคนจะใส่อุปกรณ์ป้องกัน คือ Face Shield ขณะทำการแสดง และใส่หน้ากากอนามัยในช่วงพักการแสดง และใช้แอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เสมอ
ภาพ – วิชาญ โพธิ