ศรีสุวรรณ โต้ นิพนธ์ เอาสีข้างเข้าถู ชี้เอกสารความเห็นของกฤษฎีกาปี 61 แค่ตอบคำถามเรื่องโครงการแข่งขันวอลเล่ย์บอลชายหาดของ อบจ.สงขลา ไม่เกี่ยวกับการใช้อำนาจเกินขอบเขตและเบิกงบกีฬาผิดระเบียบที่ สตง.มีมติ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รอง หน.พรรคประชาธิปัตย์ และนายก อบจ.สงขลา และว่าที่ รมช.มหาดไทย ได้นำเอกสารความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ อบจ.สงขลา ยื่นไปขอความเห็นมาแถลงตอบโต้การที่สมาคมฯได้ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าการทวงเงินคืนจากอบจ.สงขลาที่ได้เบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้สมาคมกีฬาจังหวัดสงขลาว่าไม่เป็นไปตามระเบียบนั้น
ทั้งนี้ ในเอกสารความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุชัดว่า เป็นการพิจารณาเฉพาะเรื่อง การตรวจสอบโครงการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลชายหาดนานาชาติ ปี 2556 และปี 2557 ของ อบจ.สงขลาเท่านั้น ที่ อบจ.สงขลา สามารถจัดแข่งขันได้ ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับเรื่องที่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินมีมติเมื่อ 17 ม.ค.60 ที่ระบุไว้ชัดว่า อบจ.สงขลาใช้งบอุดหนุนเงินงบประมาณด้านกีฬาต่างๆ เกินอำนาจหน้าที่และเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การจ่ายเงินฯ พ.ศ.2543 ใน 4 ประเด็น คือ
1) กรณีการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะ ค่ากรรมการตัดสิน ค่าชุดกีฬา สำหรับการฝึกซ้อมการคัดเลือกนักกีฬาเพื่อการแข่งขันระดับจังหวัด ระดับภาค และระดับชาติ 14,231,168 บาท
2) ภารกิจดังกล่าวเกินขอบเขตการส่งเสริมกีฬาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นภาพรวมที่มุ่งต่อประโยชน์ชองท้องถิ่นหรือประชาชนโดยรวม กรณีค่าใช้จ่ายในโครงการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน 4,659,326 บาท
3) กรณีเงินอุดหนุนที่สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลาได้รับจากอบจ.สงขลา ไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะนำเงินงบประมาณไปอุดหนุนให้แก่หน่วยงานหรือองค์กรอื่น ๆ ต่อ 3,525,998 บาท และ 4)กรณีค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดกีฬาในการจัดการแข่งขันฟุตบอลยุวชนคัพและค่าใช้จ่ายในการบำรุงทีม 354,000 บาท ไม่สามารถทำได้ เป็นต้น
กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นว่านายนิพนธ์กำลังสับสนระหว่างความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกากับมติของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ที่พยายามโยงความเห็นและมติมาแถเป็นเรื่องเดียวกันเพื่อแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนละเรื่องคนละสาระกัน ขนาดตีความเรื่องความเห็นและมติของหน่วยงานทั้งสองยังตีความไม่ถูก ประสาอะไรที่จะไปเป็นเสนาบดีบริหารกิจการบ้านเมือง จะมิทำให้งานแผ่นดินเกิดปัญหาสับสนอลหม่านกันไปมากกว่านี้หรือ