ประท้วง ผู้สนับสนุน สภาคองเกรส สหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์

สหรัฐฯ ป่วน ผู้สนับสนุนทรัมป์ประท้วง บุกสภาคองเกรส

โดยผู้สนับสนุนทรัมป์ ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา

Home / NEWS / สหรัฐฯ ป่วน ผู้สนับสนุนทรัมป์ประท้วง บุกสภาคองเกรส

ล่าสุด

  • สภาคองเกรส สามารถกลับมาลงคะแนนรับรองการเลือกตั้ง-ประธานาธิบดีได้แล้ว
  • มีการประกาศเคอร์ฟิว ในเขต Columbia และในขณะนี้ เจ้าหน้าที่เริ่มควบคุมตัวผู้ฝ่าฝืน
  • กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐฯ หรือ National Guard เข้าพื้นที่บริเวณอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ แล้ว พร้อมชุดควบคุมฝูงชน

ในการประชุมสภาคองเกรสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อประกาศรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยข้อสรุปของผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนั้น ไบเดน เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ

โดยในระหว่างการประชุมสภาร่วมระหว่างสภาผู้แทนราษฏร์ และวุฒิสภา เพื่อยืนยันผลคะแนนโหวตจากคณะผู้เลือกตั้ง กลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อเหตุจราจล โดยบุกเข้าไปยังในพื้นที่ของสภาคองเกรส สหรัฐฯ ทำให้การรับรองผลการเลือกตั้งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นต้องหยุดชะงัก

ทรัมป์ ทวีตชวนผู้สนับสนุนรวมตัว

ในช่วงเมื่อวานนี้ มีหลายข้อความบนทวีตเตอร์ของโดนัล ทรัมป์ ได้มีการทวีตข้อความในการเชิญชวน ให้ผู้สนับสนุนมารวมตัวกันที่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านการรับรองผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น

ท่าทีของทรัมป์ ในช่วงที่ผ่านมา แสดงออกถึงการปฏิเสธผลการเลือกตั้ง และระบุว่า เป็นการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต มีการโกงการเลือกตั้ง ซึ่งทรัมป์ และบรรดาคนรอบตัวทรัมป์ ต่าง เชิญชวนให้กลุ่มผู้สนับสนุน มารวมตัวกัน โดยระบุว่า “we will stop the steal”

นอกจากนี้ ไม่ว่า จะเป็นทรัมป์, ไมค์ เพนซ์ รวมถึงลูกชายคนโตของทรัมป์ด้วย ก็ได้กล่าวถึงประเด็นในการประชุมสภาเพื่อรับรองผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนี้ ไปในทิศทางเดียวกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะพรรครีบลิคกันนั้น อ่อนแอ ลงอย่างมาก น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ยังได้กล่าวบนเวทีว่า

พรรครีพับลิกันในขณะนี้ ไม่ใช่ พรรครีพับลิกัน เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่นี่เป็นพรรครีพับลิคกันของทรัมป์

ผู้ชุมนุมลุกฮือ – บุกคองเกรส

ผู้สนับสนุนทรัมป์จำนวนมากได้มารวมตัวกันบริเวณด้านหน้า อาคารรัฐสภา เพื่อประท้วงไม่ให้มีการรับรองผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นกันเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งตะโกนระบุว่า “พวกเราต้องการทรัมป์” อยู่เป็นระยะ ๆ

ในเวลาต่อมามีการผลักดัน รั้วกั้นด้านหน้าอาคารรัฐสภา ระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าระวังพื้นที่อยู่ นำไปสู่การปะทะกัน ในบริเวณแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ มีการใช้สเปรย์แก๊สน้ำตา ฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ดันรั้วเหล็ก

สถานการณ์เริ่มตึงเครียดมากขึ้น ทำให้จำเป็นต้องมีการอพยพผู้ที่อยู่ในอาคารรัฐสภาบางส่วน ออกไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมทั้งมีการปิดกั้นอาคารเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงบกเข้ามาภายใน

สุดท้ายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและมีผู้ชุมนุมเป็นจำนวนมาก ทำให้ในที่สุด กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ได้บุกเข้าไปยังพื้นที่ของอาคารรัฐสภาได้ในที่สุด แม้ว่าภายในอาคารจะมีเจ้าหน้าที่ปิดประตู กั้นอยู่เป็นระยะ ๆ รวมถึงมีการใช้แก๊สน้ำตา เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ประท้วงแล้วก็ตาม

ทรัมป์ขอให้ ชุมนุมโดยสงบ

แม้ว่า ทรัมป์จะระบุ ถึงการชุมนุมอย่างสันติก็ตาม แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ดูเหมือนว่า ผู้ชุมนุมจะยังคงอยู่ในอารมณ์โกรธ และไม่พอใจ จึงยังคงมีการลุกฮือบุกเข้าไปในอาคาร

ซึ่งในเวลาต่อมา มีรายงานว่า ทรัมป์ ได้มีคำสั่งเรียก กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐฯ หรือ National Guard เพื่อให้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

สภาคองเกรสประกาศ ให้สวมหน้ากากกันแก๊ส

หลังจากที่มีการใช้แก๊สน้ำตา ภายในอากาศรัฐสภา สหรัฐฯ ก็ทำให้แก๊สฟุ้งกระจายไปเป็นบริเวณกว้าง จนต้องมีการสั่งให้สมาชิกสภาที่อยู่ในห้องประชุม เตรียมหน้ากากกันแก๊สพิษ มาสวมป้องกันแก๊สน้ำตาที่มีการใช้กับกลุ่มผู้ประท้วงด้วย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีรายงานผู้บาดเจ็บจำนวนหนึ่ง และกลุ่มผู้ประท้วงสามารถบุกเข้าไปในพื้นที่ของสภาคองเกรส พร้อมกับตะโกนว่า “ทรัมป์ ชนะในการเลือกตั้ง”

ไบเดน ระบุ ทรัมป์ยุติเหตุการณ์นี้

โจ ไบเดน ได้ทวีตข้อความถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่สภาคองเกรสในวันนี้ เป็นกลุ่มหัวรุนแรงบางส่วนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความเห็นต่าง แต่เป็นความผิดปรกติ ที่เกิดจากการปลุกระดม และมันควรจะต้องจบลงได้แล้ว

ไบเดน ยังเรียกร้องให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมในครั้งนี้เสีย เพราะวิถีแห่งประชาธิปไตยคือความถูกต้องตามกฎหมาย การเคารพซึ่งกันและกัน

กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ตะโกนขับไล่ มิตต์ รอมนีย์

มิตต์ รอมนีย์ สมาชิกวุฒิสภาจาก พรรครีพับลิกัน ซึ่งอยู่พรรคเดียวกับทรัมป์ และเคยยกมือโหวตในการออกมติถอดถอนทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง ถูกตะโกนขับไล่ บนเครื่องบินระหว่างการเดินทางมายังวอชิงตัน ดี.ซี.

โดยกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ บนเครื่องได้ตะโกนว่า “คนทรยศ” เป็นเวลาหลายนาที จากความไม่พอใจที่นายมิตต์ รอมนีย์ แสดงท่าทีไม่สนับสนุนทรัมป์ ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา รวมถึงประเด็นการโหวตถอดถอนทรัมป์ทึ่เกิดขึ้นด้วย

Twitter / Facebook ลบโพสต์ของทรัมป์

ทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ้ค พร้อมใจกันลบข้อความ และคลิปวิดีโอของโดนัล ทรัมป์ หลายข้อความ โดยระบุว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวผิดกฎ รวมถึงในสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นนี้ จำเป็นต้องควบคุมไม่ให้มีการปลุกปั่น หรือกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น เพื่อรักษาสมดุลของการแสดงออก และข้อมูลต่าง ๆ

และในเวลาต่อมา ทวิตเตอร์ ประกาศระงับบัญชีของ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการช่วงคราว 12 ชม. สืบเนื่องมาจากปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

https://twitter.com/TwitterSafety/status/1346970430062485505

หลายฝ่ายต่างวิตกกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เลขาธิการนาโต้ นาย เย็นส์ สต็อลเตินบาร์ก ได้แสดงความวิตกกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ในขณะว่า รู้สึกตกใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า ทุกฝ่ายควรเคารพหลักประชาธิปไตย

เช่นเดียวกับ เปโดร ซันเชซ นายกฯ ของสเปน ก็ระบุว่า รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่ยังคงมั่นใจในระบอบประชาธิปไตย และมั่นใจว่า ไบเดน จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้