ในการประชุมใหญ่พรรคแรงงานแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้กล่าวเปิดการประชุมครั้งที่ 8 ของพรรคแรงงานฯ โดยได้กล่า่วถึงสถานการณ์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่า
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานับถือว่า ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ มีอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ที่พรรคแรงงานฯ ต่อสู้เพื่อชัยชนะให้ได้
การบริหารจัดการทางด้านเศรษฐกิจมีข้อผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแผน เพื่อปรับปรุงพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้น ทั้งจากการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ ที่หยุดชะงักและล่าช้าอย่างมาก แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติที่ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว เกือบทุกส่วนยังคงไม่บรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้
อีกทั้งความล่าช้าที่เกิดขึ้น ทำให้สมาชิกทุกคนต้องช่วยกันทบทวนความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ร่วมมือกันวิเคราะห์ข้อผิดพลาด และแก้ไขปัญหาต่อไปในอนาคต
สะท้อนภาพความย่ำแย่ของสถานการในเกาหลีเหนือ
หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่คำกล่าวเปิดการประชุม ของผู้นำเกาหลีเหนือ ถึงการยอมรับข้อผิดพลาด และความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ทำให้นักวิเคราะห์ในเกาหลีใต้ต่างตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายคิม จองอึน กล่าวยอมรับกลางที่ประชุมถึงความล้มเหลว และข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมานั้น เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก
และนั่นยิ่งทำให้ต้องกังวลถึงสถานการณ์ในเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่า ย่ำแย่เพียงใดถึงทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือ ถึงกับต้องกล่าวยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้นตรง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัญหาที่รุมเร้าเกาหลีเหนือ
จากในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ของเกาหลีเหนือดูจะย่ำแย่ลง จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา และเกาหลีเหนือ เป็นประเทศแรกๆ ในโลกที่ใช้นโยบาย “ปิดประเทศ” ทำให้ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือพอสมควร
ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯ มีท่าที่ที่ย่ำแย่ลง หลังจากการเจรจาในเรื่องของการปลดอาวุธนิวเคลียร์ไม่ประสบความสำเร็จ นำไปสู่มาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
และแนวโน้มก็มีทิศทางที่ยังไม่สู้ดีนัก เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งของผู้นำสหรัฐฯ จากโดนัลด์ ทรัมป์ ไปสู่โจ ไบเดน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์ และคิม จองอึน เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะช่วงก่อนที่จะมีการเจรจาเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ของเกาหลีเหนือ ซึ่งทำให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ได้ไปเหยียบแผ่นดินเกาหลีเหนือ
อีกทั้งปัญหาความไม่ลงรอยกันระหว่าง เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ จนนำไปสู่เหตุการณ์ตัดความสัมพันธ์ และระเบิดอาคารสำนักงานร่วมเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้การค้า-การลงทุนที่เกิดขึ้นระหว่างสองเกาหลีหายไป ทั้งจากการค้าระหว่างเกาหลีเหนือกับจีนก็หดตัวลง จากการปิดประเทศของเกาหลีเหนือจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 มาตลอดระยะเวลาราว 1 ปีแล้ว
| เกาหลีเหนือระเบิดอาคารสำนักงานร่วมเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ >>>