โควิด-19

รายงานเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ จากอังกฤษ ที่พบใน SQ ไทย-เวียดนาม

โดยทั้งไทย-เวียดนาม พบในผู้ที่เดินทางมาจากอังกฤษ ทั้ง 2 ประเทศ และยังไม่มีรายงานพบในประเทศ

Home / NEWS / รายงานเชื้อโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ จากอังกฤษ ที่พบใน SQ ไทย-เวียดนาม

หลังจากที่อังกฤษมีรายงานการพบเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งมีการกลายพันธุ์ เป็นสายพันธุ์ใหม่  (VOC 202012/01 หรือ B.1.1.7) ที่นักวิจัยเชื่อว่า เชื้อกลายพันธุ์ชนิดนี้ สามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่า สายพันธุ์ดั้งเดิม ที่เราพบกันก่อนหน้านี้

ซึ่งในวันนี้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผยว่า ในประเทศไทย ได้มีการพบเชื้อชนิดดังกล่าวแล้ว ในสถานที่กักตัวของรัฐ โดยเป็นเชื้อที่มากับครอบครัวชาวอังกฤษ ที่เดินทางมาจากเมือง Kent สหราชอาณาจักร เมื่อหลายวันก่อน [อ้างอิง]

(ภาพจากเฟซบุ้ก นพ.ยง ภู่วรวรรณ)

ในขณะเดียวกับ ที่ประเทศเวียดนาม ก็ได้มีรายงานการพบเชื้อชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 สายพันธุ์อังกฤษที่กลายพันธุ์ แล้วเช่นกัน โดยพบในหญิงชาวเวียดนาม ที่เดินทางกลับมาจากอังกฤษ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา และถูกกักตัวอยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐเช่นกัน

เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ต่าง ๆ

นับตั้งแต่มีการค้นพบเชื้อไวไรรัสไวรัสโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ก็มีการพบเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 นี้ ในหลาย ๆ สายพันธุ์ย่อย กระจายไปทั่วโลก โดยในการจัดกลุ่มสายพันธุ์ตามศูนย์ข้อมูลสากล GISAID มีทั้งหมด 7 สายพันธุ์ คือ L, O, V, S, G, GH และ GR

โดย สายพันธุ์ดั้งเดิม ที่พบที่อู่ฮั่นคือ สายพันธุ์ L และหลังจากนั้นก็กลายเป็นสายพันธุ์ S, V, G และสายพันธุ์ ก็แตกสายเป็น GH, GR เพิ่มเติม

ซึ่งในกลุ่มก้อนที่สมุทรสาคร และกลุ่มที่ติดเชื้อจาก 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมาร์ ก็เป็นเชื้อในสายพันธุ์ GH เช่นเดียวกันทั้ง 2 ตัว โดยในช่วงของการระบาดในช่วงแรกของไทยนั้น พบ มี 3 สายพันธุ์หลัก คือ S, G และ V

วิวัฒนาการของ SARS-CoV-2 (ภาพ – อนันต์ จงแก้ววัฒนา)

เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ในอังกฤษ

สำหรับเชื้อโควิด-19 ที่มีรายงานการพบเป็นสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ในอังกฤษนั้น คือ VOC 202012/01 หรือ lineage B.1.1.7 ซึ่งคำว่า VOC นั้นมาจาก Variant of concern หรือแปลเป็นไทยว่า สายพันธุ์ที่กังวล เนื่องจากมีการกลายพันธุ์ในตำแหน่งของหนามโปรตีนของไวรัสที่ใช้จับตัวกับเซลล์ของมนุษย์ (N501Y) การกลายพันธุ์ที่จุดตัดของสไปค์โปรตีน (P681H) ตำแหน่งอื่นๆที่ขาดหายไป (Spike 69-70 Deletion) รวมถึงการการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อีก

ภาพเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่เกาะอยู่กับเซลล์ที่ได้รับความเสียหายของผู้ป่วย
( PHOTO : NIAID)

ผลจากการกลายพันธุ์ดังกล่าวนี้ ทำให้นักวิจัยมั่นใจว่า เชื้อในสายพันธุ์นี้ จะมีความสามารถในการจับตัวกับเซลล์มนุษย์ได้ดีขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการระบาดของเชื้อมากขึ้น

แต่ยังไม่พบรายงานว่า เชื้อดังกล่าวมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งรวมถึงเชื้อในสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ค้นพบแล้วด้วยเช่นกัน

พบแล้วที่ไหนบ้าง?

ซึ่งหลังจากที่มีรายงานการค้นพบเชื้อในสายพันธุ์กลายพันธุ์นี้ เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการค้นคว้าเพิ่มย้อนกลับไปพบว่า เชื้อที่กลายพันธุ์นี้ถูกเก็บตัวอย่างมาตั้งแต่ราว ปลายเดือน กันยายน 2563 ที่เมือง Kent ของสหราชอาณาจักร เป็นชุดแรก ๆ

จากตัวอย่างที่พบในผู้ป่วยราว 1 พันเคส ในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ก่อนที่จะมีการพบในกลุ่มตัวอย่างที่ สก็อตแลนด์ ตามมาในช่วง พ.ย. 2563 ในลอนดอน และหลังจากนั้นในเดือน ธ.ค. 2563 ผู้ป่วยโควิด-19 ราว 60% ในลอนดอน เป็นการติดเชื้อในสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์นี้

หลังจากนั้นในช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2563 ก็มีรายงานการพบในต่างประเทศ เช่น เดนมาร์ก, เนเธอแลนด์ ออสเตรเลีย อิตาลี ไอซ์แลนด์ สิงคโปร์ อิสราเอล เยอรมนนี สวิตเซอร์แลนด์

หลังจากนั้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2563 ก็มีรายงานการพบเพิ่มเติมใน ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น แคนาดา สเปน เลบานอน สวีเดน เกาหลีใต้ ชิลี อินเดีย ปากีสถาน บราซิล จีน และอีกหลายประเทศ

รวมถึงเคสในโคโรลาโด, สหรัฐฯ ที่ผู้ป่วยที่พบเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์นี้ ไม่มีประวัติการเดินทางไปยังอังกฤษแต่อย่างใด

ในขณะที่ทั้งไทย และเวียดนาม มีรายงานในวันนี้ เป็นการพบในสถานที่กักตัว ยังมีรายงานการพบเชื้อกลายพันธุ์นี้ ในผู้ป่วยในประเทศแต่อย่างใด

Novel Coronavirus SARS-CoV-2 / PHOTO : NIAID

ทำไมถึงต้องกังวลกับการกลายพันธุ์

ทุก ๆ 1 เดือนของการพัฒนา-กลายพันธุ์ของไวรัส เป็นสิ่งที่นักวิจัยต้องติดตาม ค้นหาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากโอกาสที่จะกลายพันธุ์มีเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งในการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะส่งผลต่อ

อัตราการระบาด

โดยพบว่า ในสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่พบในช่วงหลังนี้ ส่งผลต่ออัตราการระบาดมากขึ้น ในหลายประเทศ

การรักษา

ในขณะนี้ วัคซีนโควิด-19 ที่กำลังเร่งการผลิตกันออกมานั้น ยังคงเป็นการอ้างอิงจากเชื้อในชุดแรก ๆ ที่มีการถอดรหัสพันธุกรรมได้ แม้ว่าจะยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ในระดับที่จะทำให้วัคซีนไม่ได้ผล แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง