ประเด็นน่าสนใจ
- ศาลจังหวัดตลิ่งชัน นัดฟังคำพิพากษาคดี ‘เสี่ยเบนซ์’ ซิ่งชน “รองผกก.ป จนเสียชีวิต 31 ก.ค.นี้
- เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เม.ย.62 โดยเหตุในครั้งนั้นทำให้ พ.ต.ท.จตุพร รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป. เสียชีวิตพร้อมภรรยา
วันนี้ (30 มิ.ย.62) นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงการพิจารณาข้อหาเมาแล้วขับที่มีการเสนอไม่ควรนำเรื่องการรอการลงโทษมาใช้ ว่าการรอลงอาญา ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ เห็นว่าการจำคุกระยะสั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร
โดยแทนที่จะให้เขากลับตัวเป็นคนดีและเยียวยาชดใช้ให้สังคมกับการลงลงโทษ เพื่อแก้แค้นทดแทนเราต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ต้องคิดว่ากลไกกฎหมายเรื่องการใช้ดุลย์พินิจรอการลงโทษตามประมวลความอาญา มาตรา 56 มีไว้ก็เพื่อสร้างความสมดุล ในการพิจารณาแต่ละเรื่องซึ่งเราไม่สามารถที่จะพิจารณาลงโทษคนตามกระแสตามความสะใจของแต่ละคนนั้นเป็นไปไม่ได้
สำหรับกรณีเมาแล้วขับคดีล่าสุดมีการพูดถึงเรื่องปรับบทลงโทษ แจ้งข้อหาหนักฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 นอกจากนี้ข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาตรา 291 นั้น คือกรณีที่ นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของโรงงานขับรถเบนซ์สปอร์ต ซิ่งชนประสานงานกับ รถส่วนตัวของ “พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล” รอง ผกก.สอบสวน กก.2 บก.ป.ที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวจน พ.ต.ท.จตุพรเสียชีวิตพร้อมภรรยา ส่วนลูกสาวคนเล็ก ได้รับบาดเจ็บนั้น ที่แขวงทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 11 เม.ย.2562 ที่ผ่านมา
ล่าสุด พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง “นายสมชาย” เป็นจำเลย รวม 3 ข้อหา โดยอัยการสั่งไม่ฟ้องความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ ตามที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนแจ้งข้อหาดังกล่าวมาด้วย เพราะพิจารณาแล้วพฤติการณ์ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดทางกฎหมาย
ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้ว จึงเห็นสมควรให้มีการสืบเสาะและพินิจจำเลยก่อนมีคำพิพากษา โดยให้พนักงานคุมประพฤติรายงานผลการสืบเสาะนั้นให้ศาลทราบภายใน 15 วัน และให้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น.