แคทรียา อิงลิช นักร้องนักแสดงมากความสามารถที่ไม่ค่อยได้เห็นออกมาเปิดเผยเรื่องความรักบ่อยนัก ล่าสุดออกมาเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร ถึงเส้นทางความรักสุดช้ำ เจอแต่ผู้ชายเจ้าชู้ ซ้ำยังเคยตกอยู่ในสถานะรักสามเส้ามาแล้ว ลั่นชีวิตนี้ไม่คิดแต่งงาน
ถามเรื่องความรัก อายุ 13 ก็มีคนมาขายขนมจีบแล้ว ?
แคท : ใช่ค่ะ ช่วงเข้าวงการใหม่ๆเลย
แต่คนนี้ไม่ได้เรื่อง เพราะว่าเขาจีบซ้อน ?
แคท : เป็นพระเอกคนแรกในชีวิตที่จีบ เราก็มีความรู้สึกปลื้ม ตอนนั้นคุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัว เขาก็คอยเตือนตลอด เขาซื้อดอกไม้ให้เราทุกเช้า แต่หารู้ไม่เขาก็ซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงอีกคนทุกเช้าเหมือนกัน
แล้วคู่นั้นเขาได้คบกันไหม ?
แคท : ได้คบแป๊บนึง คือจะบอกว่าแคทคบกับเขาแบบแฟนหรือเปล่าก็ไม่เชิงนะ เหมือนแค่จีบๆ แต่คนนั้นเขาก็จีบแล้วก็คบกันแป๊บนึงเหมือนกัน
สรุปไม่ได้คบกับพระเอก ได้คบกับนักร้อง ได้คบกันระยะหนึ่งแต่ต้องเลิกไป ตอนนี้ถ้าได้เจอกันได้ร่วมงานกันคุยกันปกติไหม ?
แคท : คุยกันปกติค่ะ จริงๆ แล้วสนิทกับภรรยาเขามากกว่า
ตอนนั้นคบกันกี่ปี ?
แคท : 5 ปีค่ะ
แล้วเลิกกันเพราะอะไร ?
แคท : ไม่หยุดที่เรา
แสดงว่าเจอผู้ชายเจ้าชู้คนที่ 2 แล้ว ?
แคท : ใช่ แต่ว่าตอนนั้นก็ยังวัยรุ่นกันอยู่ อาจจะเป็นช่วงที่กำลังเห่อความมีชื่อเสียงของตัวเอง แล้วก็ยังไม่พร้อมที่จะหยุด
แสดงว่าตอนนั้นที่อายุ 20 สำหรับเราอาชีพการงานสำคัญกว่าความรัก ?
แคท : พอๆ กันมั้งคะ
ตอนนั้นตัดง่ายมั้ย ?
แคท : ไม่ง่าย แต่ว่าแคทเป็นคนที่เด็ดขาดคือถ้าเราจับได้คาหนังคาเขาคือจบ
อะไรคือที่ทำให้เราตัดสินใจสุดท้ายเลยว่าขอเลิก ?
แคท : ก็นั่นแหละค่ะ จับได้ ทางมือถือด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ก็คือจบ แคทเป็นคนที่ไม่พูดคำว่าเลิก แต่คือเดินออกมาเลย ไม่ต้องคุยกันเลย ไม่ต้องสื่อสารกันอีกแล้ว
แล้วไม่คุยกันนานไหม จนกลับมาร่วมงานกัน ?
แคท : 15 ปีค่ะ
ถ้าเจอหน้าช่วง 15 ปีทักไหม ?
แคท : คือหลีกเลี่ยง เขาก็พยายามติดต่อมาเหมือนกันก่อนที่เขาจะแต่งงาน เขาก็พยายามติดต่อมาช่วงหลังที่เลิกกันแล้ว จริงๆ 2 ครอบครัว ทั้งของแคทและของเขาสนิทกันมากๆ เลย อย่างที่บอกว่าตอนนั้นก็ช่วงวัยรุ่นเราก็ไม่ถือสา ตอนนี้เราก็โตๆ กันแล้ว ก็ผู้ใหญ่แล้ว พอเขาแต่งงานมีครอบครัวมันเหมือนกับว่าเราสามารถที่จะกลับมา คือยังไงเราก็อยู่วงการเดียวกัน เพราะฉะนั้นมันก็ต้องเจอกันบ้าง เราก็เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนตอนเป็นแฟนแล้ว คือเราเป็นพี่น้องกันได้ เราก็มีความรู้สึกว่าครอบครัวเขาก็น่ารักกับเราแล้วเราจะเสียเพื่อนไปทำไม เรามาสนิทกับภรรยา ให้ภรรยาเขาสบายใจว่าไม่ต้องห่วงเลยนะ จริงๆ มีงานที่ถามมาทางเขาว่ามาร้องเพลงด้วยกันได้ไหม แต่เป็นภรรยาเขาโทรมาหา แล้วก็มีงานที่พยายามจะติดต่อมาทางเขา เราก็โทรถามภรรยาเขาเหมือนกัน
ภรรยาเขารู้ไหมว่าเราคือแฟนเก่า ?
แคท : รู้ค่ะ
หลังจากเรื่องนี้ผ่านไปพี่แคทก็มาเจอกับเรื่องรักสามเส้าอีก เกิดขึ้นได้ยังไง ?
แคท : เขาเหมือนชื่นชมมานานก็เลยมาจีบ เราก็คิดว่าเขาก็โสดก็เลยติดต่อกันคุยกัน คอนเสิร์ตเขาก็มาดู ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้คิดอะไรก็คิดว่าเพื่อนกันไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ทำไปทำมาก็จีบ
คบกันนาน 5 ปีเลยหรอ ?
แคท : คบกัน 5 ปีค่ะ
แล้วแคทไปรู้ตอนไหนว่าเขามีอีกคนหนึ่ง ?
แคท : ประมาณปีนึง
แล้วที่เหลืออีก 4 ปี ?
แคท : เราอยู่ของเรา
อะไรทำให้เรายอมรับได้ตอนนั้น ?
แคท : คือจริงๆ แล้วเรามีความรู้สึกว่าไม่น่าเลย เราน่าจะถอยออกไปเลย แต่มันเหมือนกับว่า ถ้าคนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้อยู่ในจุดนั้นอาจจะไม่เข้าใจ ทนอยู่อย่างนั้นทำไม เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนอบอุ่น นิสัยดี จริงๆ แล้วเขาเป็นคนดี แต่ว่าคือเราก็ไม่รู้ว่าเขามีอีกคนนึง
ใน 4 ปีเรียกว่าหลอกตัวเองไปวันๆ ได้ไหม ?
แคท : ก็หลอกตัวเองนะ แต่ไม่ได้หวังว่าเขาจะมาเป็นของเรา เราก็มีความรู้สึกว่าเขาก็มีปมของเขาเหมือนกัน ขาดความรัก ขาดความอบอุ่น เราเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่นมาก คือเราพร้อมที่จะให้คนที่ขาด แล้วมันมีความรู้สึกว่าเราซ่อมเขาได้ มันกลายเป็นว่าซ่อมไปซ่อมมา แต่เหมือนเขารับในสิ่งที่เราให้เขาไม่เป็น หรือสิ่งที่เราให้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรือเปล่า แต่เราพร้อมที่จะให้ เราศรัทธาในความรักมากๆ เป็นความรักที่โอลด์สคูลมากๆ
เชื่อว่าช่วงนั้นคนรอบข้างเตือนเยอะมากๆ ใครเตือนบ้าง ?
แคท : เยอะค่ะ ไม่ว่าจะเพื่อนหรือครอบครัว ออกมาเหอะ อย่าเจ็บกว่านี้เลย ถามว่าเจ็บไหม มันมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกเสียใจมากๆ ทำไมเขาไม่ปกป้องเรา ไม่ต้องถึงขนาดออกตัวปกป้อง แต่คืออย่างน้อยก็ไว้หน้าเราบ้าง หรือให้เกียรติเราบ้าง เราไม่ได้เป็นคนที่เข้าหาเขา เขาเป็นคนที่เข้าหาเรา ในเมื่อคุณมาจีบเราแล้วทำไมไม่รับผิดชอบในส่วนที่เป็นของเรา อย่างที่บอกว่าเราเป็นคนที่ให้อย่างเดียวจนรับไม่เป็น
ตอนที่มีคนเตือน เพื่อนก็เตือน คนในวงการก็เตือน นอกวงการก็เตือน ?
แคท : ถามว่าเรารับฟังมั้ย รับฟัง แต่พร้อมที่จะตัดมั้ย เราก็แบบทนอีกสักหน่อยเหอะ เดี๋ยวเขาก็กลับมาเป็นคนเดิมที่เรารักตอนนั้น แล้วมันเป็นการหลอกตัวเอง คือจะเรียกว่าช่วงโปรโมชั่นก็ได้ที่เรามีความรู้สึกว่าเขาจะกลับไปเป็นช่วงนั้นเหมือนเดิม มันก็เลยหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ พอถึงลิมิต มีแต่คนบอกว่า โคตรอดทน เราเป็นคนที่อดทนมากๆ แต่เพื่อความรักที่เรามีให้เขา เราก็ทนไปเรื่อยๆ พอถึงลิมิต ตัดเลย
แล้วจุดแตกหักคืออะไร ?
แคท : ไม่ให้เกียรติแคท ต่อหน้าแคทเลย แล้วต่อหน้าคนอื่นด้วย ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย แต่ครั้งนี้คือหยามใจเรามากๆ จนเราแบบ โอเคพรุ่งนี้ไม่ต้องเจอกันแล้ว แล้วเราก็ไม่ได้บอกเขาด้วยนะ เราเดินออกมาของเราเองเลย เขาก็ถามถึงว่าหายไปไหน พี่คนนั้นเขาก็บอกว่าแคทไปแล้ว
งั้นแสดงว่าแคทไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย คือหันหลังแล้วเดิน ?
แคท : ใช่ คือเราออกเลย ออกจากชีวิตเลย
ทางเขาง้อเราไหม ?
แคท : ไม่ แต่รู้ว่าเขาถามถึง แต่เราก็ถึงลิมิตแล้วจริงๆ
จากวันนั้นที่เราเดินออกมาจนถึงวันนี้นานเท่าไหร่แล้ว ?
แคท : ประมาณ 2 ปีกว่า
ทำใจได้ยัง ?
แคท : ทำใจตั้งแต่วันนั้นเลย ก็คุยกันได้ แต่ถ้าจะกลับมาคบกันอีกทีต้องเคลียร์กันเยอะ ค่อยว่ากันอีกที แต่ปกติแคทถ้าเลิกก็คือเลิกเลยแล้วไม่ต้องกลับมาคบกันอีกเลย
แต่แคทบอกว่าถ้าจะคุยกันจริงๆ ต้องเคลียร์หลายอย่างมาก แสดงว่ายังเปิดใจอยู่ ?
แคท : ค่อยว่ากัน (หัวเราะ)
ตอนนี้ถอยออกมาแล้วใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองได้แล้ว อยากให้พี่แคทบอกอะไรกับคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกัน ?
แคท : เข้าใจเลยนะ คือมีเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างพยายามเตือนเรา ถามว่าเราฟังไหม รับฟัง แต่ก็อยู่ที่ตัวตนของคนคนนั้น คือถ้ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่ออนาคตของตัวเอง ไม่ได้ทำให้อนาคตของเราดี ก็พยายามตัดใจ พร้อมเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ตัดวันนี้อาจจะตัดไม่ได้ ตัวของคุณรู้อยู่แล้วว่าลิมิตของคุณแค่ไหน จุดไหน ทำใจได้ปุ๊บ ถ้าไม่มีอนาคตกับคนคนนั้น หรือมันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่าเสียเวลา ชีวิตของเราสั้น เราจะอยู่อีกนานแค่ไหนไม่รู้ เราควรที่จะโกบโกยความสุขให้ตัวของเราเอง
ปัจจุบันปิดตายเรื่องความรักหรือยัง ?
แคท : ไม่ เราเจอเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดี เราก็ถือเป็นประสบการณ์ของเราก็แล้วกัน ถามว่าทำเราเปลี่ยนมั้ย เราก็ไม่เปลี่ยน ถ้าถามว่าจะแต่งงานไหม เรามีความรู้สึกว่า อายุขนาดนี้แล้ว มันเป็นแค่กระดาษแผ่นนึง ปัจจุบันความสำคัญของชีวิตคู่มันเปลี่ยนไปเยอะจากสมัยก่อน การแต่งงานมันไม่ใช่ทุกอย่าง การที่เราอยู่เป็นชีวิตคู่ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เคียงข้างกันไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้ายอะไรก็แล้วแต่เราจะอยู่เคียงคู่กัน
แล้วถ้าอนาคตมีคนที่ใช่สำหรับเรามากเลย แล้ววันนึงเขาคุกเข่าขอแต่งงาน แต่งไหม ?
แคท : ไม่ปิด ไม่ปิดว่าจะไม่แต่งงานเลย แต่อย่างที่บอกว่าสิ่งที่สำคัญคือจิตใจของเราสองคน มันไม่ใช่แค่มีงานแต่งงานแล้ว อีกปีสองปีหย่ากัน คู่ของเราต้องเป็นเหมือนเพื่อนของเรา ไม่โกหกกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง
ยังทุ่มเทกับความรักอยู่ไหม ?
แคท : ทุ่มเทค่ะ
หนุ่มแบบไหนที่จะจีบแคทได้ ?
แคท : ขอความจริงใจ ไม่ชอบคนอวดโน่นอวดนี่ จริงใจตรงๆ ไม่เอาโปรโมชั่น
ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama