Lexus ประกาศเปิดตัว 2022 Lexus NX คอมแพ็คครอสโอเวอร์เจนเนอเรชั่นที่สองที่ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ TNGA-K ผสานด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยใหม่ รวมถึงเป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่จะได้รับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดใหม่ล่าสุด
Lexus NX มาพร้อมกับการปรับดีไซน์ใหม่รอบด้าน โดยเฉพาะกระจังหน้า Spindle grille ที่มีการปรับบุคลิกเล็กน้อย แต่ภายในตะแกรงกระจังหน้าสีดำเงาจะมีการออกแบบลวดลายที่ให้มิติโดดเด่นขึ้น รวมถึงโคมไฟหน้า และไฟ LED Daylight ทรงใหม่
สำหรับด้านข้างตัวถังมาพร้อมเส้นสายตัวถัง และเส้นไหล่ที่โดดเด่น รวมถึงไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่อันโดดเด่น พร้อมโลโก้ Lexus ที่เป็นรูปแบบอักษรเรียง แทนการใช้ทรง L แบบเดิม
สำหรับภายในก็ได้มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด ที่จะมอบทั้งความทันสมัย ความสะดวกสบาย และความหรูหรา โดยออพชั่นที่น่าสนใจภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นเรืองไมล์จอดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว, ระบบ Lexus Interface พร้อมจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9.8 และ 14 นิ้ว ตามรุ่นย่อย
มอบความสะดวกสบายด้วยเบาะหนังคู่หน้าดีไซน์ใหม่ที่มีพื้นที่วางขาและพื้นที่พิงศีรศะที่มากขึ้น รวมถึงระบบฮีทเตอร์อุ่นเบาะ และพื้นที่เก็บสัมภาระเป็นออพชั่นมาตรฐาน
สำหรับออพชั่นอื่น ๆ ได้แก่ หลังคาพาโนรามิคมูนรูฟ กระจกมองหลังแบบดิจิทัล, จอ Head-up Display ขนาด 10 นิ้ว, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย, ฮีทเตอร์อุ่นเบาะนั่งด้านหลัง, ไฟส่องสว่างที่สามารถเลือกธีมลูกเล่นแสงทั้งแสงฝนตก แสงน้ำตก แสงพระอาทิตย์ตกดิน และอื่น ๆ อีก 14 ธีม รวมถึงไฟส่องรอบห้องโดยสารที่เลือกได้ถึง 64 สี
Lexus NX เจนเนอเรชั่นที่สองนี้ เป็นรุ่นแรกของแบรนด์ที่ได้รับระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดภายใต้ชื่อรุ่น NX 450h+ ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร พร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน มอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลัง ซึ่งได้รับการต่อยอดจาก Toyota RAV4 Prime
ทางบริษัทเปิดเผยว่า เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจะให้สมรรถนะเทียบเท่ากับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แม้จะยังไม่เผยตัวเลขสมรรถนะเต็ม ๆ แต่ข้อมูลอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ทำได้เร็วถึง 6.0 วินาที ส่วนประสิทธิภาพการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้านั้นจะอยู่ที่ 58 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งเหมาะกับการขับขี่ในเมือง
ด้านประสิทธิภาพการชาร์จนั้น หากชาร์จผ่านเครื่องชาร์จมาตรฐาน 3.3 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 0-100% ภายในเวลา 4.5 ชั่วโมง ขณะที่ใช้เครื่องชาร์จ 6.6 กิโลวัตต์ ก็จะใช้เวลาเพียง 2.5 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนี้ใน NX 450h+ จะมาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ full-time AWD ที่ได้รับการพัฒนาการกระจายแรงบิดแต่ละล้อให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ ซึ่งรายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่เปิดเผยในเวลานี้
รวมถึงได้รับระบบ Predictive Efficient Drive ที่ช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่, คาดการณ์สภาพจราจรด้านหน้า และวิเคราะห์รายงานการจราจรแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จและการคายประจุของแบตเตอรี่ไฮบริด รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการกู้คืนพลังงานไฟฟ้าในระหว่างเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีขุมพลังที่หลากหลาย อาทิ เครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ 2.5 ลิตร รุ่นใหม่ ในชื่อรุ่น NX 250 ให้สมรรถนะ 206 แรงม้า แรงบิด 249 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ด้านระบบขับเคลื่อนจะครอบคลุมทั้งขับล้อหน้า อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ใน 8.2 วินาที และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีอัตราเร่งช้ากว่าเล็กน้อยที่ 8.6 วินาที
อีกเครื่องยนต์หนึ่งจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.4 ลิตร พ่วงเทอร์โบ ในรุ่น NX 350 สมรรถนะ 279 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์ออโต้ 8 สปีด พร้อมอัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ใน 6.8 วินาที
แน่นอนว่าขุมพลังไฮบริดก็ยังคงมีจำหน่ายเช่นกันด้วยชื่อรุ่น NX 350h ด้วยเครื่องยนต์เบนซินสี่สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ผสานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
ให้สมรรถนะสูงสุด 242 แรงม้า ซึ่งให้สมรรถนะเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% อัตราเร่งจาก 0-96 กม./ชม. ทำได้เร็วถึง 5.7 วินาที (เร็วขึ้น 1.5 วินาที) และให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงถึง36 ไมล์/แกลลอน
ประกอบกับ Lexus NX เองก็ใช้แพลตฟอร์ม TNGA-K เดียวกับ RAV4 โฉมใหม่ พร้อมกับเทคโนโลยีการเชื่อมโครงสร้างด้วยเลเซอร์ ด้วยแพลตฟอร์มใหม่นี้นอกจากจะมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำแล้ว ยังมีความแข็งแรงและทนทานยิ่งขึ้น รวมถึงมีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิม 91 กก.
Lexus NX มาพร้อมยกระดับความปลอดภัยใหม่ด้วย Digital Latch พร้อมเทคโนโลยี Safe Exit Assist ที่มาพร้อมระบบตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนไหวตัดหน้าประตู จนถึงคนเดินเท้า นักปั่นจักรยาน และมอเตอร์ไซค์ รวมถึงสามารถทำหน้าที่ช่วยเปิดประตูอัตโนมัติให้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในระหว่างออกจากรถ
ควบคู่กับระบบ Lexus Safety System+ 3.0 รุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมระบบปรับไฟสูงต่ำอัจฉริยะ, ระบบแจ้งเตือนสัญลักษณ์จราจร, ระบบป้องกันรถออกนอกเลน, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ที่มาพร้อมระบบตรวจจับตำแหน่งรถที่วิ่งมาด้านข้าง เพื่อประเมินว่ารถจะเข้าแซง หรือรถขนาดใหญ่วิ่งมาบดบัง
นอกจากนี้ยังได้รับระบบหักเลี้ยวพวงมาลัยฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยง, ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีรถหรือคนวิ่งตัดผ่านแยก, ระบบควบคุมความเร็วแบบไดนามิคพร้อมระบบช่วยจัดการความเร็วอัตโนมัติในระหว่างเข้าโค้ง
และทางบริษัทฯ ได้เผยโฉมเวอร์ชั่น F Sport ที่มาพร้อมกับการเสริมชุดแต่งหลายรายการ อาทิ กระจังหน้าลายใหม่ กันชนแบบสปอร์ต ล้ออะลูมิเนียมสีดำเงาขนาด 20 นิ้ว รวมถึงได้รับชุดโช้คอัพและระบบสะเทือนแบบแอคทีฟ, เบาะสไตล์สปอร์ตหุ้มหนัง NuLuxe, แป้นเหยียบอะลูมิเนียม, พวงมาลัยแบบสปอร์ต, แผ่นรองธรณีประตู รวมถึงวัสดุตกแต่งอะลูมิเนียมกราไฟท์สีเข้ม เป็นต้น
Lexus NX โฉมใหม่ล่าสุดนี้ จะเข้าสู่สายการผลิตในช่วงไตรมาสที่ 3 และจะมีการประกาศราคาเมื่อใกล้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ หากมีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจะนำเสนอให้ทราบในลำดับต่อไป
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com
