นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จึงได้จัดทำนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ของบริษัทในการเก็บและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นและอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย และบริษัทยืนยันว่าเราได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร
ข้อมูลส่วนบุคคลแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่
ข้อมูลส่วนบุคคล (ทั่วไป) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลของคนที่มีชีวิตอยู่ที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ email address หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลประเภทนี้ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญาพฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
2. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากไหน
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับจากท่านโดยตรง
บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงผ่านช่องทางปกติ และช่องทางออนไลน์ ในกรณีต่อไปนี้:
- ท่านติดต่อสอบถามหรือขอรับข้อมูลจากบริษัท
- ท่านลงทะเบียนโดยการสร้างบัญชีผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
- ท่านได้ทำแบบสอบถามหรือติดต่อกับบริษัททางโทรศัพท์ อีเมล หรือผ่านพนักงานของบริษัท
- ท่านเข้าเว็บไซต์ของบริษัท โดยทางบริษัทจะเก็บข้อมูลที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ บริษัทสามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเพื่อความเป็นส่วนตัวของท่าน เมื่อท่านใช้บริการ และ/หรือเข้าสู่แพลตฟอร์ม cookies คือ text files ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านที่ใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล log การใช้งานอินเทอร์เน็ตของท่านหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่อง Cookies ได้จาก https://mthai.com และ/หรือ แอปพลิเคชัน MTHAI
2. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับมาจากหน่วยงาน/บุคคลภายนอก (Third Party)
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากหน่วยงาน/บุคคลภายนอกที่เป็นเครือข่ายกับบริษัทในการดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกนำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือสั่งไว้ และบริษัทได้กำหนดให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
3. ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นในการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของบริษัท โดยสามารถจำแนกประเภทได้ดังนี้
ประเภทข้อมูล | รายละเอียด |
1. ข้อมูลการติดต่อ | เช่น ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน เพศ อายุ ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น |
2. ข้อมูลการเงิน | เช่น เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต/เดบิต หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เป็นต้น |
3. ข้อมูลการสื่อสาร | เช่น ข้อมูลการซื้อขาย การสมัครสมาชิด หรือบริการ บันทึกข้อมูลการสนทนากับเจ้าหน้าที่ ข้อมูลการสื่อสารทางอีเมล เป็นต้น |
4. ข้อมูลด้านเทคนิค | เช่น หมายเลข IP Address ของคอมพิวเตอร์ ชนิดของเบราว์เซอร์ การตั้งค่าเรื่องเขตเวลา (time zone) ที่ตั้ง (location) ระบบปฏิบัติการ แพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้เข้าเว็บไซต์ |
5. ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ | เช่น หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนที่ท่านจะเข้าสู่แพลตฟอร์ม หน้าเว็บไซต์ที่ท่านเข้าชม จำนวนเวลาที่ท่านใช้ในการชมหน้าเว็บไซต์ สินค้า บริการ หรือข้อมูลที่ท่านค้นหาในแพลตฟอร์ม เวลาและวันที่เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการกดดูเว็บไซต์ |
4. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทเราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ขอบเขตของกฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเก็บรวบรวมข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็น:
- เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท (Legitimate Interests) หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลภายนอก หรือประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของท่าน โดยที่ไม่ทำให้สิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นลดน้อยลง
- เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
- เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
บริษัทได้สรุปฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม (Lawful Basis of Processing) ที่บริษัทใช้ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามตารางข้างล่าง
วัตถุประสงค์ | ประเภทข้อมูล | ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรม |
1) ให้บริการตามสัญญากับลูกค้า | – ข้อมูลการติดต่อ – ข้อมูลการเงิน | เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาให้บริการกับท่าน หรือดำเนินการตามคำขอของท่านเพื่อเข้าทำสัญญาการให้บริการ |
2) ให้บริการลูกค้า (Customer Service) ซึ่งรวมถึง •การติดต่อลูกค้ากับลูกค้าเพื่อดำเนินตามคำขอของลูกค้า•ให้บริการหลังการขาย •จัดการด้านสิทธิประโยชน์ของลูกค้า•รับเรื่องร้องเรียนของลูกค้า•รับแจ้งประสานงานเพื่อแก้ปัญหาการใช้งานของลูกค้า•อำนวยความสะดวกลูกค้าในการตรวจสอบข้อมูล การชำระเงิน และการจัดการสิทธิประโยชน์ของลูกค้า | – ข้อมูลการติดต่อ – ข้อมูลการเงิน – ข้อมูลการสื่อสาร | 1) เพื่อการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาการให้บริการ 2) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการให้บริการลูกค้า (Customer Service) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการถึงเข้าบริการ |
3) เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาบริการของบริษัท: •ในการรายงานสถิติเรื่องจำนวนลูกค้าเพื่อการวางแผนการตลาด •ในการพัฒนาเว็บไซต์ แก้ปัญหาในเชิงเทคนิคที่เกิดขึ้นในการใช้เว็บไซต์และพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าในการรับบริการจากบริษัท | – ข้อมูลการติดต่อ – ข้อมูลด้านเทคนิค – ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ | เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในการนำข้อมูลและสถิติการใช้งานเว็บไซต์มาพัฒนาการให้บริการกับลูกค้า และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้า |
4) เพื่อส่งข่าวสารโปรโมชั่น รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมด้านการตลาด | – ข้อมูลการติดต่อ | 1) เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในการนำเสนอข่าวสารและโปรโมชั่นให้กับลูกค้า2) ถ้าเป็นเรื่องการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) เราจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านในการให้เรานำข้อมูลส่วนบุคคลท่านไปทำการตลาดแบบตรง |
บริษัทอาจใช้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบธรรมมากกว่าหนึ่งฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในแต่ละกิจกรรมของเราที่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5. กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด
บริษัทอาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาดหรือให้บุคคลภายนอกที่บริษัทมีข้อตกลงด้วยดำเนินการ ในกรณีดังต่อไปนี้
- ในกรณีที่บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้ในการทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) กับท่าน บริษัทจะดำเนินการได้เฉพาะกรณีที่ท่านให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง และบริษัทได้มีการแจ้งถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลท่านเพื่อการทำการตลาดแบบตรงนั้นกับท่านแล้ว ทั้งนี้ ท่านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับบริษัทในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัท
- ในการทำการตลาดแบบตรงกับท่าน บริษัทใช้ข้อมูลของท่านในการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อนำเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของท่าน
- ในกรณีการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท เช่น กิจกรรมการเล่นเกม หรือกิจกรรมในช่องทาง Social Network ต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของบริษัทให้บุคคลทั่วไปทราบ บริษัทจะไม่นำข้อมูลของท่านไปประมวลผลเพื่อทำการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ยกเว้นท่านจะให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้บริษัทนำข้อมูลส่วนบุคคลไปทำการตลาดแบบตรงได้ โดยบริษัทจะแจ้งท่านถึงวัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลท่านเพื่อการทำการตลาดแบบตรง และท่านสามารถยกเลิกการให้ความยินยอมกับบริษัทในเรื่องการทำการตลาดแบบตรงได้ตลอดเวลาโดยผ่านระบบการยกเลิกการรับข้อมูลของบริษัท
6. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงาน/บุคคลภายนอก ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็น ที่ต้องเปิดเผยให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการดำเนินงาน หรือเป็นหน่วยงานมีหน้าที่ตามกฎหมายในการร้องขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูล หน่วยงาน/บุคคลภายนอกเหล่านี้ได้แก่
- บริษัทในเครือ
- แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์
- บริษัทหรือที่ปรึกษาด้านการตลาด
- หน่วยงานกำกับดูแล เช่น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- หน่วยงานที่บริษัทจ้างให้เก็บข้อมูล
- บริษัทกำหนดให้หน่วยงาน/บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกนั้นดำเนินการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้
- เมื่อถูกร้องขอ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ เช่น เพื่อป้องกันการข่มขู่ต่อชีวิตหรือร่างกาย เพื่อวัตถุประสงค์ในการบังคับใช้กฎหมาย การตั้งข้อหา การใช้สิทธิ์ปกป้องสิทธิทางกฎหมาย และการป้องกันกรณีฉ้อโกง เป็นต้น
7. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระบบงานสารสนเทศของบริษัท และจัดให้มีการรักษาความปลอดภัย ที่มีมาตรฐานเพื่อให้ระบบงานสารสนเทศของบริษัท และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัย โดยมีมาตรการดังนี้
- จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่หรือพนักงาน
- จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
- จัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อความปลอดภัยเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลของบริษัทอีกต่อไป
- มีกระบวนการจัดการกับกรณีละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่ต้องสงสัยและต้องแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของ บริษัท และเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดโดยมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ เช่น มาตรฐานทางบัญชี มาตรฐานทางกฎหมาย และกฎระเบียบอื่นที่เกี่ยวข้อง
- ในการกำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล บริษัทจะพิจารณาถึงจำนวน ลักษณะการใช้งาน วัตถุประสงค์ในการให้บริการ ความอ่อนไหวของข้อมูลส่วนบุคคล และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ และระยะเวลาที่กำหนดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มาจากคุกกี้ (Cookies) ในการเก็บข้อมูลเมื่อท่านเข้าใช้เว็บไซต์ บริษัท จะเก็บไว้ไม่เกิน 13 เดือน หรือตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
8. นโยบายเรื่องคุกกี้ (Cookies)
- Cookies เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies):
บริษัทใช้ Cookies เพื่อพัฒนาการทำงานของเว็บไซต์ (Functionality Cookies) ในการจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านเพื่อช่วยให้บริษัท สามารถจัดให้มีการบริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น Cookies ประเภทนี้ช่วยให้บริษัทจดจำอุปกรณ์หรือเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อให้บริษัทสามารถจัดทำเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจส่วนบุคคลของท่านได้รวดเร็วขึ้น และช่วยให้การบริการและแพลตฟอร์มสะดวกสบายและ เป็นประโยชน์ต่อท่านมากขึ้น ในการปิดใช้งาน Cookies นี้ ท่านสามารถตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณโดยดูวิธีการช่วยเหลือของเบราว์เซอร์หรืออุปกรณ์ของท่าน
- Cookies เพื่อการวิเคราะห์ (Analytic cookies):
บริษัทใช้ Analytics Cookies ที่ให้บริการโดยบุคคลภายนอกเพื่อเก็บข้อมูลว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทมีการใช้งานอย่างไร บริษัททำข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นข้อมูลนิรนามทั้งหมด (Anonymization) และส่งผ่านไปที่บุคคลภายนอกผู้ที่จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้หรือเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้กับบุคคลอื่นที่ประมวลผลข้อมูลให้ตามที่กฎหมายอนุญาต บุคคลภายนอกจะไม่รวมข้อมูลของท่านที่ได้ไปจากเว็บไซต์เรากับข้อมูลที่บุคคลภายนอกมีอยู่แล้ว ท่านสามารถเลือกปิดการใช้งาน Cookies ลักษณะนี้บนหน้าเว็บไซต์บริษัท
9. นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ Website อื่น
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัท และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เท่านั้นหากท่านได้กด link ไปยังเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม) ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นๆ แยกต่างหากจากของบริษัท
10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะตรวจสอบประสิทธิภาพของนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นประจำ ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวจะถูกประกาศหรือตีพิมพ์ไว้บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอื่นของบริษัท
11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการดำเนินการตามขอบเขตที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ให้กระทำได้ ดังต่อไปนี้
- ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw Consent) ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (Right of Access) และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน
- ท่านมีสิทธิให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ (Right to Rectification)
- ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบข้อมูลของท่านด้วยเหตุบางประการได้ (Right to Erasure)
- ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Restriction of Processing)
- ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือตัวท่านเองด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Data Portability)
- ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลของท่านด้วยเหตุผลบางประการได้ (Right to Object)
- ท่านมีสิทธิเรียกร้องให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีที่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลก่อให้เกิดความเสียหาย
ในการใช้สิทธิดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่อยู่ข้างล่างเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ และบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน บริษัทจะดำเนินการพิจารณาคำขอของท่านตามขอบเขตของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และในกรณีที่บริษัทปฏิเสธคำขอของท่าน บริษัทจะให้เหตุผลการปฏิเสธคำขอของท่านด้วย
12. ช่องทางการติดต่อกับบริษัท
บริษัท โมโน เน็กซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ : เลขที่ 29/9 หมู่ที่ 4 ถนนชัยพฤกษ์ ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ประเทศไทย
โทรศัพท์ : 021008100 E-mail : mthaisub@mono.co.th
รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
อีเมล : dpo@mono.co.th
ที่อยู่ : เลขที่ 29/9 หมู่ที่ 4 ถนนชัยพฤกษ์ ตำบลบางพลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ประเทศไทยโทรศัพท์ : 021008100 E-mail : mthaisub@mono.co.th