เกษตรกรเมืองตรังปลูก 'กะหล่ำปลี' ปลอดสารพิษสร้างรายได้นับแสน
เกษตรกรตรังปลูก 'กะหล่ำปลี' ใช้พื้นที่แค่ไร่เศษสร้างรายได้นับแสนบาท เน้นปลูกผักหมุนเวียนแบบผสมผสาน สร้างรายได้ตลอดทั้งปี
วันนี้ MThaiNews ในช่วง เกษตรสร้างรายได้ ได้เดินทางไปที่ 'สวนผักสุขรัก' ตั้งอยู่เลขที่ 92 หมู่ 3 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง นางกัลยารัตน์ หมุนเวียน Young Smart Farmer ต้นแบบจังหวัดตรัง และครอบครัว ปลูกแปลงผักกะหล่ำปลี กะหล่ำดอกและผักใบเขียวมากมาย บนพื้นที่ไร่เศษ โดยเฉพาะกะหล่ำปลีในช่วงนี้จะตัดส่งขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพ กิโลกรัมละ 50 บาท และกะหล่ำดอกก็กำลังออกดอกรอเก็บขายเช่นกัน
ด้านนางกัลยารัตน์ หมุนเวียน กล่าวว่า ตนเอง ไม่สามารถทานผักที่ซื้อมาจากท้องตลาดได้ เนื่องจากแพ้สารพิษที่ตกค้างในพืชผัก เลยต้องปลูกผักทานเอง แรกๆก็จะปลูกผักที่โตเร็วดูแลง่ายอย่างเช่น ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง แตงกวา เมื่อมีผลผลิตมากก็นำออกขายให้กับเพื่อนบ้าน
แต่ด้วยความรักและสนใจในผักเมืองเหนือที่มีความสวยงามอย่างกล่ำปลีที่มีลักษณะเหมือนดอกกุหลาบ ตนเองเลยให้เพื่อนที่อยู่จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ส่งเมล็ดพันธุ์มาทดลองปลูกปีแรก ไม่ประสบความสำเร็จ เลยศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและทดลองปลูกใหม่จนประสบผลสำเร็จ และสามารถนำออกจำหน่ายได้
นอกจากนี้ที่สวนผักสุขรัก จะปลูกกะหล่ำปลี กะหล่ำดอกแล้วยังมีคะน้าหอม ผักกวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักบุ้งฯ โดยจะปลูกหมุนเวียนกันไปตามฤดูกาล และต้องศึกษาว่าในช่วงอายุผักกี่วันที่เดือนถึงจะเก็บเกี่ยวได้ และจะได้ผลดีต้องปลูกช่วงฤดูกาลไหน
ทั้งนี้ สวนสุขรัก มีวิธีการดูแลและกำจัดศัตรูพืชด้วยระบบธรรมชาติด้วยการปล่อยให้หญ้าขึ้นในแปลงผักเพราะแมลงจะมากินดอกหญ้า ใช้น้ำหมักชีวภาพในการกำจัดศัตรูพืช และเป็นการให้ปุ๋ยไปในตัวด้วย นอกจากนี้จะใช้กาวดักแมลงแทนการใช้สารเคมีฉีดพ่น ในปีหนึ่งๆ ตนและครอบครัวจะมีรายได้จากการขายผักได้มากกว่า ปีละ 400,000 – 500,000 บาท เลยทีเดียว
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักๆจะเป็นโรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงพยาบาล เพราะเป็นผักปลดสารพิษ 100% ผักที่ปลูกในสวนสุขรักได้รับรองมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตรเป็นที่เรียบร้อย