menu search

9 อาหารที่มีความเป็นกรดสูง ถ้ามีอาการเสียดท้อง กรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยงซะ!

schedule | HEALTH, กรดไหลย้อน, ความเป็นกรดในอาหาร, อาหารที่เป็นกรด, เสียดท้อง
อาหารที่เรามองดูว่าธรรมดาๆก็อาจจะไม่ปลอดภัยที่จะรับประทาน อย่าง มะเขือเทศ ชาดำที่คุณโปรดปราน หรือ ขนมปังชีส เมนูอาหารธรรมดาๆเหล่านี้สามารถทำร้ายร่างกายของคุณได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเพาะอาหาร เป็นเพราะความเป็นกรดของอาหารบางชนิดนั้นสูงมากจึงทำให้เกิดอาการเสียดท้อง กรดไหลย้อน และรู้สึกไม่สบายท้อง นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่คุณควรจะรู้ว่าอาหารชนิดใดเป็นอันตรายต่อกระเพาะอาหารแล้วก็พยายามลดการบริโภคอาหารเหล่านี้ซะ! อาหารต่างๆที่เรารับประทานจะมีค่า pH ในระดับ 1 ถึง 14 อาหารที่มีค่า pH ต่ำกว่า 7 ถือว่าเป็นกรด
  • pH 0 - แสดงถึงความเป็นกรด
  • pH 7 - แสดงว่ามีความเป็นกลาง
  • pH 14 - แสดงถึงความเป็นด่าง
โดยหลักการแล้วเลือดของเราควรมีค่า pH 7.35 - 7.45 ซึ่งถือว่าเป็นด่างเล็กน้อย ส่วนค่า pH ในกระเพาะอาหารของเราควรอยู่ที่ประมาณ 3.5 ถึง 5.5 ซึ่งมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง กรดไหลย้อน

อาหารรสจัดจ้านและซอสต่างๆ

อาหารรสจัดและซอสปรุงรสต่างๆสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุหลอดอาหารและทำให้รู้สึกไม่สบายท้อง การบริโภคสอาหารที่เผ็ดมากๆ มักจะทำให้เกิดอาการเสียดท้อง ดังนั้นจึงควรระวังซอสเผ็ดต่างๆ ที่คุณบริโภค เพื่อป้องกันปัญหาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร pH ของซอสพริก 2.8 - 3.7 กาแฟ

เครื่องดื่มคาเฟอีน

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง อาจทำให้เกิด กรดไหลย้อน และอาการแสบร้อนกลางอก อีกทั้งยังทำให้หลอดอาหารระคายเคืองหรือส่งผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารผิดปกติซึ่งจะทำให้เป็นโรคไหลย้อนได้ pH ของกาแฟ 4 pH ของชาดำ 4.9 - 5.5 ค่า pH ของชาเขียว 7 - 10 pH ของเครื่องดื่มให้พลังงาน 3.4 กรดไหลย้อน

ผลไม้รสเปรี้ยว

ผลไม้รสเปรี้ยวมักมีความเป็นกรด จึงเป็นอาหารอีกชนิดหนึ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงหากคุณมักมีอาการแสบร้อนกลางอก น้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำเกรพฟรุต อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหารและทำให้รู้สึกไม่สบายท้องได้ pH ของมะนาว 2.2 - 2.4 pH ของเกรพฟรุต 3.0 - 3.7 pH ของส้ม 3.0 - 4.0 กรดไหลย้อน

สะระแหน่

เรามักคิดว่าสะระแหน่หรือสเปียร์มินท์ช่วยบรรเทาอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร แต่สิ่งนี้ผิดเพราะสเปียร์มินต์อาจทำให้เกิดกรดไหลย้อนและอาการแสบร้อนกลางอก นอกจากนี้หากคุณดื่มชาเปปเปอร์มิ้นท์ทุกวัน คุณจะมีความเสี่ยงเพิ่มเป็น 2 เท่าในการเกิดอาการแสบร้อนกลางอก pH ของชาเปปเปอร์มิ้นท์ 6 - 7 มะเขืือเทศ

มะเขือเทศ

มะเขือเทศมีความเป็นกรดสูงและอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกหากคุณรับประทานมากเกินไป อีกทั้งยังไปกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลายให้ผลิตน้ำลายมากขึ้น pH ของมะเขือเทศ 4.3 - 4.9 pH ของน้ำมะเขือเทศ 4.1 - 4.6 pH ของมะเขือเทศบดละเอียดเข้มข้น 4.3 - 4.5 กรดไหลย้อน

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ไวน์ เบียร์ จะไปกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหารและการดื่มในระดับปานกลางหรือมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก แอลกอฮอล์จะทำให้กล้ามเนื้อหูรูดผ่อนคลายไม่กระชับ และยังเป็นอันตรายต่อเยื่อบุหลอดอาหาร pH ของไวน์ 2.5 - 4.5 ไก่ทอด

อาหารไขมันสูงและอาหารทอด

อาหารที่มีไขมันสูงทั้งหลายรวมถึงอาหารทอด เมื่อรับประทานแล้วจะไปรวมกับกรดในกระเพาะอาหารจึงทำให้เกิดอาการจุกเสียดแน่น เนื่องจากไปทำให้กล้ามเนื้อหูรูดผ่อนคลายไม่กระชับ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ อาหารทอด : เฟรนช์ฟรายส์, หัวหอมทอด, มันฝรั่งทอด ผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมัน: ชีส (pH 5.1 - 5.9), นมสด (pH 4.1 - 5,3), เนย (pH 6.7 - 6.9), โยเกิร์ต (pH 4.4 - 4.6) เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง : เนื้อหมู, เนื้อแกะ, เบคอน, แฮม น้ำมันหมู (pH 5.8) ถั่ว: เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (pH 5.9), ถั่ววอลนัท (pH 5.4) กรดไหลย้อน

น้ำอัดลม

เครื่องดื่มอัดลมต่างๆ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นกรดไหลย้อน น้ำอัดลมมีฟองที่จะไปขยายตัวในกระเพาะอาหารและยังไปเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารอีกด้วย pH ของ โคคา-โคล่า 2.37 ค่า pH ของ แฟนต้าน้ำส้ม 2.82 ค่า pH ของ สไปรท์ 3.24 หัวหอมใหญ่

กระเทียมและหัวหอมใหญ่

สำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนไม่แนะนำให้รับประทานกระเทียม เพราะจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอกและปวดท้องอีกด้วย หากคุณมีอาการแสบร้อนกลางอกและคุณชอบทานเบอร์เกอร์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหัวหอมดิบๆ pH ของกระเทียม 5.8 pH ของหัวหอมแดง 5.30 - 5.8

ที่มาจาก https://brightside.me/