- ประชากรเกือบครึ่งโลกเชื่อว่า ความกลัวจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง และ 7 ใน 10 ของประชากรกลุ่มนั้น กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นแรงกระตุ้นสำหรับพวกเขา
- ประชากรร้อยละ 87 เห็นว่าเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้ และ 8 ใน 10 ของประชากรเชื่อว่าเทคโนโลยีคือเป็นแรงผลักดันที่ดี
- ประชากรผู้ใหญ่ทั่วโลกร้อยละ 45 กล่าวว่า พวกเขาอิจฉาคนที่สามารถตัดตัวเองออกจากสังคมก้มหน้าได้
- ผู้บริโภค 7 ใน 10 เห็นด้วยว่าคนเราควรจะมีช่วงเวลาบังคับให้ตัวเองออกห่างจากอุปกรณ์สื่อสาร
Looking Further with Ford พลังของการเปลี่ยนแปลงที่มีต่อโลกและพฤติกรรม
ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนเอง ได้กำลังเป็นที่สนใจอยู่ในตอนนี้ หากต้องเลือก คุณจะเลือกให้ลูกนั่งรถที่ขับเคลื่อนเองหรือนั่งรถที่ขับโดยคนแปลกหน้า น่าแปลกใจที่ร้อยละ 67 ของผู้ใหญ่เลือกรถที่ขับเคลื่อนได้เอง
ข้อมูลนี้นำมาจากรายงานเทรนด์ปี 2019 ของ Ford ซึ่งเปิดเผยออกมาล่าสุด เจาะลึกเกี่ยวกับแรงขับเคลื่อนที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภค กับภาพรวมของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเวลาที่มีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ ผลสำรวจของ Ford จาก 14 ประเทศเผยว่า ผู้ใหญ่ร้อยละ 87 เชื่อว่าเทคโนโลยีคือแรงขับเคลื่อนที่มีอิทธิพลมากที่สุด และขณะที่จำนวนร้อยละ 79 คิดว่าเทคโนโลยีส่งผลในแง่ดี ประชากรจำนวนไม่น้อยก็รู้สึกกังวล บ้างก็หวาดระแวงเกี่ยวกับ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บ้างก็กลัวว่าเทคโนโลยีจะส่งผลต่อสภาพจิตใจของมนุษย์เรา
“การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมนี้อาจจะเปลี่ยนความรู้สึกของเราจากความสิ้นหวังไปเป็นแรงกระตุ้น และทำให้เกิดสิ่งมหัศจรรย์ ความหวัง และความก้าวหน้า ทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและส่วนรวม” เชอริล คอนเนลลี ผู้จัดการฝ่ายเทรนด์และอนาคตผู้บริโภค Ford Motor Company กล่าว “Ford ให้ความสำคัญในการออกแบบโดยยึดความต้องการของผู้บริโภค และมุ่งมั่นที่จะหาวิธีต่างๆ ในด้านการสัญจร เพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คนและชุมชน ในบริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น เราต้องรักษาสิ่งที่เรามองว่ามีคุณค่าที่สุด ซึ่งก็คือความเชื่อใจซึ่งเราและลูกค้ามีระหว่างกัน เราจึงมีความตั้งใจและระมัดระวังในเรื่องของทิศทางที่เราจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ”
สรุปใจความหลักของผลการสำรวจจากรายงานเทรนด์ประจำปีที่ 7 ของ Ford ได้ดังต่อไปนี้