เก่ง ธชย มูท้าวเวสสุวรรณ ลงทุนทำเขี้ยวยักษ์จริง เผย สิ่งลี้ลับชวนขนลุก!

เป็นอีกหนึ่งในศิลปินดาราสายมูเตลูตัวพ่อ สำหรับนักร้องที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง อย่าง เก่ง ธชย หรือ เก่ง เดอะวอยซ์ ล่าสุดหนุ่มเก่งได้มาออกรายการน้องใหม่แกะกล่อง “รายการโต๊ะมูบูชา” ซึ่งมี ดีเจอ๋อง เขมรัชต์ ทำหน้าที่พิธีกร ซึ่งออกอากาศทุกวันพุธ ทางช่อง YouTube MThai และ Facebook MThai   

โดยเทปแรกนี้ได้หนุ่มเก่งมานั่งร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวความเชื่อความศรัทธาของเขาที่มีต่อ องค์ท้าวเวสสุวรรณ จนถึงขั้น ‘ลงทุนทำเขี้ยวยักษ์จริง’ พร้อมเผยเรื่องราวลี้ลับเกี่ยวกับยักษ์ (ปู่เวสสุวรรณ) ที่ตนเจอมา ฟังแล้วชวนขนลุก! แต่หนุ่มเก่งยืนยันว่า 'ทุกวันนี้ได้ดิบได้ดี เพราะมูและศรัทธาในองค์ท้าวเวสสุวรรณ'  

บทสัมภาษณ์รายการโต๊ะมูบูชา

พิธีกรดีเจอ๋องเริ่มเปิดคำถามแรก ถึงความศรัทธาที่หนุ่มเก่งมีต่อองค์ท้าวเวสสุวรรณ ถึงกับลงทุนทำเขี้ยวยักษ์จริง เพื่อให้ตนได้มีความเป็นยักษ์อยู่ในตัวตน

ดีเจอ๋อง : “อะไรดลใจให้ทำเขี้ยวยักษ์ ตอนแรกเห็นเก่งชอบแต่งตัว ใส่หน้ากากรูปยักษ์ คิดว่าอยากให้ดูเหมือนยักษ์ ดูไทยๆ อะไรแบบนี้ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องมูเข้ามาเกี่ยวข้อง”  

เก่ง ธชย : “จริงๆตอนแรกจากตัวละคร ทศกัณฐ์ พอเราไปศึกษาจริงๆมียักษ์ที่เกี่ยวกับความเชื่อด้วย แล้วก็เป็นคิง(ราชา)ของยักษ์ คือ ท้าวเวสสุวรรณ ในความเข้าใจของผม ผมรู้สึกว่าผมทำมาหากินด้วยการใช้ยักษ์เป็นตัวคาแรคเตอร์ เราได้เงินมาดูแลครอบครัว ได้เงินมาเพื่อต่อยอดสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ถ้าไม่ได้ความเมตตาของท่านแล้วเป็นอะไรเนี่ย จริงๆสำหรับตัวผม ผมไม่ได้ร้องขอความปาฏิหาริย์ความสำเร็จต่างๆในชีวิต แล้วผมก็รู้สึกว่าถ้าท่านไม่เมตตาก็คงไม่ได้สิ่งเหล่านี้มา ก็เลยนับถือท่าน”

ดีเจอ๋อง : “อย่างนี้ขนลุกเพราะอะไรรู้มั้ย เพราะไม่ได้นอนแบมือแบเท้าอยู่เฉยๆ เราไม่ได้ต้องการ คือ อยู่ดีๆเงินไหลมาเราก็ชอบแหละ แต่เราก็ยินดี ที่จะทำงานแลก แล้วท่านก็จะเอ็นดูกับคนที่ตั้งใจทำงาน เก่งก็เลยไปทำเขี้ยว ทำจริงๆเลย”

เก่ง ธชย : “ใช่ครับเป็นเขี้ยวที่ติดกับฟันจริงๆเลย ตอนแรกทำแล้วหักช่วงที่โควิดมา ก็เลยถือโอกาสจัดฟัน เพราะช่วงที่หักเราก็เห็นว่าฟันล้ม”

ดีเจอ๋อง : “บูชายักษ์มานานรึยัง”

เก่ง ธชย : “ประมาณ 10 กว่าปี ตั้งแต่ช่วงไฟนอลรายการเดอะวอยซ์ เพราะก่อนหน้านี้ตัวเราเป็นเบสของคนที่เล่นดนตรีไทย เรานับถือพระพิฆเนศเป็นเมนหลักอยู่แล้ว ส่วนท้าวเวสสุวรรณหรือยักษ์ เรามาเจอช่วงไฟนอลเดอะวอยซ์ ท่านมาเองตามไทม์มิ่งต่างๆ มาในโชว์ เราก็รู้สึกเหมือนเราชอบโดยไม่ต้องตั้งคำถาม ผมก็เลยรู้สึกว่า มีคนชอบถามว่า เราบูชาเทพอะไรดี ผมรู้สึกว่า ถ้าคุณเจอเทพที่คุณรู้สึกว่าใช่ มันจะไม่ค่อยมีคำถามกับสิ่งนั้น”

ดีเจอ๋อง :“สถานการณ์ที่เกี่ยวกับยักษ์ที่เรารู้สึกว่าไม่เชื่อไม่ได้”

เก่ง ธชย : “จริงๆเรื่องงานเนี่ยขอตลอดอยู่แล้ว แต่มาเจอเรื่องลี้ลับ มันเกิดขึ้นว่าช่วงนั้นเราคุยกับคนๆนึงอยู่ คุยในแง่แบบจีบกัน แต่ไม่ได้ลึกซึ้งนะ แต่เราก็รู้สึกว่า มันมีความต้องการอะครับ (เก่งยิ้มเขิน) พิธีกรช่วยขยายความ ก็คือคุยปุ๊บ มันมีความโหยหา กระเหี้ยนกระหือรือ คือมีความต้องการที่อยากไปหา อยากสัมผัสร่างกาย มันแปลกๆ”

เก่งเล่าต่อว่า: “ช่วงนั้นเวลาเราหลับ เหมือนมันสะดุ้งเอง เหมือนผวา ขนาดไปต่างประเทศนั่งกับเพื่อนรู้สึกเหม็นอะไร เหม็นมาก ก็ถามแม็ก เจนมานะ ก็ถามว่าได้กลิ่นอะไรไหม แม็กไม่ได้กลิ่น บอกมึงบ้ารึเปล่า แล้วมันเหม็นมากๆ แบบของเน่า แล้วเราก็ชอบอ่านเรื่องลี้ลับ แล้วเราก็รู้ว่ามันทำของอะมันจะใช้ผี คือพวกของต่างๆจะใช้ผีในการเล่นของต่างๆใส่เรานี่แหละ และก็แว๊ปเข้ามาในหัวว่า ท้าวเวสสุวรรณเป็นคิงของวิญญาณ”

“แล้วรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ปกติ แต่ใจคิดลึกๆว่าคงไม่ใช่หรอก อาจจะเป็นความกระหายของเราเองรึเปล่า ก็เลยได้ท้าวเวสฯมาองค์นึง มีคนให้มา แล้วองค์นี้เรารู้สึกว่าเวลาอยู่กับเราอบอุ่นมาก เป็นท้าวเวสสุวรรณของ วัดช่องลม จ.สมุทรสงคราม เป็นรุ่นฝาบาตรเป็นสี่เหลี่ยม กำท่านแล้วจุดธูป 39 ดอก ปักกลางแจ้ง แล้วบอกว่าไม่รู้ลูกคิดไปเองรึเปล่า รู้สึกเหมือนมีใครทำอะไรบางอย่างใส่ (ทำมนต์ดำ ทำของใส่)”

“ท้าวเวสสุวรรณเป็นเจ้าแห่งวิญญาณลูกขอให้ ถ้าเกิดคนที่คิดไม่ดีลูกขอให้ของกลับไปที่คนๆนั้น ขอให้เห็นภายใน 3 วัน 7 วัน แล้วก็ปักธูป (ตอนนี้พิธีกรถึงกับขนลุก) แล้วก็เอาท้าวเวสฯใส่ไว้ใต้หมอน แล้วก็นอนหลับไปตื่นนึง คืนนึง มาตอนเช้า คนนั้นที่เราคุยอยู่ อยู่ๆก็โทรกลับมาเอง บอกว่ากำลังจะไปหาหมอ บอกว่าเดินไม่ได้ เป็นอัมพาตครึ่งซีก”

ดีเจอ๋อง: “แรงมาก!”

เก่ง ธชย : “นางไปหาหมอ แล้วบอกว่าหมอวินิจฉัยไม่ได้ ไม่รู้เป็นอะไร หมอก็หาคำตอบไม่ได้ เราก็ตกใจ เหมือนมันคัท (ตัดไปเลย) ความรู้สึกเรามันก็ไม่ได้อะไรกับเขาแล้ว เราก็คิดว่าน่าจะใช่แล้วล่ะ เป็นสิ่งที่ท่านทำให้เห็น”

ดีเจอ๋องเสริมทิ้งท้ายว่า : “ความน่ารักคือไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก ก็อยากพูดกับท่าน ก็พูดเลย จริงใจเลยท่านช่วยที”

(ซึ่งเหตุการณ์ลี้ลับนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังค่ะ)

• หากใครที่อยากชมบทสัมภาษณ์แบบเต็ม สามารถเข้าไปชมได้ในคลิป “รายการโต๊ะมูบูชา”