เชื่อว่าทุกคนต่างต้องการออมเงิน เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิต แต่ก็มักพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ทำให้ไม่สามารถออมเงินได้ อะไรบ้างที่เป็นมารร้ายทำให้เราไม่ได้ออมเงิน แล้วเราจะขจัดมารร้ายออกไปได้อย่างไร
1. เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า อุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรือตกงาน มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา (ตกงานอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ แต่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น) และเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถออมเงินได้ เพราะค่าใช้จ่ายเหล่านี้ บางครั้งก็เป็นเงินสูงถึงหลักหมื่นหลักแสน หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นมา ทำให้เราต้องนำเงินออมออกมาใช้จ่าย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเงินออมที่มีไม่เพียงพอ อาจทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่มเติม วิธีการที่จะป้องกันไม่ให้เรานำเงินออมมาใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือ การสำรองเงินเผื่อฉุกเฉิน โดยควรสำรองเอาไว้ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น เงินฝาก กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ส่วนจำนวนเงินที่ควรสำรองนั้นเท่ากับ 6 เท่าของรายจ่ายรายเดือนเลยทีเดียว
2. การชอปปิ้ง มารตัวสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงไม่สามารถออมเงินได้คือ การชอปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือรองเท้า แม้ว่าราคาของสินค้าเหล่านี้จะไม่สูงมากนัก แต่การซื้อบ่อยๆ ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราไม่สามารถออมเงินได้ ส่วนชายหนุ่มนั้น แม้จะไม่ได้ชอปเยอะ ชอปบ่อย ชอปนาน แบบผู้หญิง แต่สินค้าที่ซื้อมักจะเป็นของชิ้นใหญ่ เช่น อุปกรณ์แต่งรถ หรืออุปกรณ์กีฬา ก็ทำให้เก็บเงินกันไม่ได้เช่นกัน วิธีที่จะช่วยให้เราสามารถชอปได้โดยไม่กระทบการออมเงินของเราก็คือ การตั้งงบประมาณในการชอป ในแต่ละเดือนแนะนำให้ตั้งงบไว้เลยว่า จะซื้อของเป็นเป็นเงินเท่าไร และทำบัญชีรับจ่ายสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมไม่ให้ค่าใช้จ่ายเกินงบที่ตั้งไว้ จะได้มีเงินเหลือเก็บไว้ออมได้ 3. การสังสรรค์ การกินข้าวนอกบ้านหรือไปสังสรรค์ปาร์ตี้เป็นประจำ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถออมเงินได้ เพราะการกินข้าวนอกบ้านครั้งหนึ่งก็มีค่าใช้จ่ายเป็นหลักร้อย ส่วนการไปสังสรรค์ปาร์ตี้หรือเที่ยวกลางคืนนั้น ยิ่งจะมีค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งที่สูงขึ้น โดยอาจสูงถึงหลักพัน อีกทั้งเป็นการทำลายสุขภาพในระยะยาวด้วย หากเราสามารถปรับลดกิจกรรมเหล่านี้ลง โดยลดการกินข้าวนอกบ้านจากสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เหลือสัปดาห์ละครั้ง ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้มาก ส่วนการไปเที่ยวกลางคืนก็ควรปรับลดด้วยเช่นกัน เพราะไม่ใช่แค่จะประหยัดเงินได้ในระยะสั้น แต่จะเป็นการรักษาสุขภาพ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเงินค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวได้อีกด้วยค่ะ เมื่อเราสามารถขจัดมารผจญ(จน) และออมเงินได้แล้ว ก็อย่าลืมนำเงินที่ออมได้ไปลงทุน เพราะจะช่วยให้เราได้รับผลตอบแทนจากเงินออมก้อนนี้มากขึ้น ส่วนจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรนั้น คงต้องเลือกให้เหมาะสมกับความสำคัญของเป้าหมาย และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เทคนิค การตั้งงบประมาณในการชอปปิ้งเป็นประจำ จะช่วยให้เราสามารถชอปและออมเงินได้ในเวลาเดียวกัน สำรองเงินเผื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉินเท่ากับ 6 เท่าของรายจ่ายรายเดือน ในเงินฝากและกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น “การชอปปิ้งและการสังสรรค์เป็นประจำ ถือเป็นมารร้ายที่ทำให้เราไม่สามารถออมเงินได้” ที่มา ปานตา ฉัตรมาศ (ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย )