คาถาบูชา เทพทันใจ พร้อมประวัติความเป็นมาและขั้นตอนการสักการะขอพร
เทพทันใจ ที่คนไทยรู้จักกันดีหรือ อีกชื่อหนึ่งในภาษาเมียนมาร์คือ นัตโบโบยี คำว่า นัต แปลว่า เทพ ส่วนคำว่า โบโบยี นั้นไม่ใช่ชื่อเฉพาะของนัตองค์ใด แต่เป็นคำกลางเรียก นัตผู้ชายที่เป็นที่เคารพนับถือ คล้ายกับคำว่า เจ้าพ่อ หรือเจ้าปู่ ที่คนไทยใช้เรียกเทพยดาอารักษ์แบบไทยๆ นั่นเอง สถานะของนัตมีลักษณะคล้ายดั่งพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งหากใครเคยไปสักการะเทพทันใจที่เมียนมาร์ ก็จะทราบกันดีว่า ไม่ได้มีนัตโบโบยีแค่องค์เดียว แต่มีถึง 5 องค์ จากท่าชี้นิ้วที่ทุกคนไปสักการะแล้วเอาหน้าผากไปแตะกับปลายนิ้วชี้ของเทพทันใจเวลาขอพรนั้น ก็มีที่มาที่ไปเช่นกัน โดยนัตโบโบยีทั้ง 5 องค์มาช่วยชี้จุดสำหรับสร้างเจดีย์ชเวดากอง องค์ที่อาวุโสที่สุดท่านอยู่มาแต่ครั้งพระเจ้ากกุสันโธ ทำหน้าที่รักษาไม้เท้าเอาไว้ เจดีย์ชเวดากองแห่งนี้จึงเป็นสถานที่เก็บรักษาข้าวของของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ที่ผ่านมา รวมทั้งข้าวของของพระศรีอาริยเมตไตรยในกาลข้างหน้าด้วย ซึ่งนัตในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ ที่คนไทยจะรู้จักกันดีคือ นัตโบโบยี (เทพทันใจ) แห่งวัดโบตาทาวน์ ด้วยเหตุที่ท่านสามารถดลบันดาลให้แก่ผู้ทุกข์ร้อน ที่เข้าไปอธิษฐานขอพรจากท่านได้ผลรวดเร็วทันใจ
การบูชาเทพทันใจ
นิยมใช้มะพร้าว กล้วยนากสีแดง เป็นเครื่องบูชา เพราะเชื่อว่าเป็นผลไม้มงคล และเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์เจริญงอกงามของชีวิต บางครั้งก็จะประกอบด้วยช่อใบไม้ที่เรียกว่า ใบชัยชนะ และฉัตร ตุงหรือธงกระดาษขนาดเล็ก ซึ่งก็เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลเช่นกัน ส่วนการอธิษฐานขอพรต่อเทพทันใจ มีเคล็ดลับ ว่าต้องขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น เพื่อพลังกล้าแข็งในการถวายเครื่องเซ่น ห้ามเปลี่ยนใจ
ขั้นตอนสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอพรให้สมปรารถนา
ให้นำดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆ มาสักการะเทพทันใจ จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นเงินสกุลใดก็ได้ ดอลล่าร์ บาท หรือจ๊าด ก็ได้มาม้วนเป็นรูปทรงกรวย แล้วเอาไปใส่มือของเทพทันใจสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของเทพทันใจ แล้วเจ้าหน้าที่จะช่วยพับแบงก์ที่ดึงกลับมาพับใส่ใบชัยชนะอยู่ด้านให้พกติดตัวไว้เป็นเครื่องรางคุ้มภัย แค่นี้ท่านก็จะสมตามความปรารถนาที่ขอไว้