“วีบียอนด์” ผงาดประกาศกำไรไตรมาสแรก โตตามคาดกว่า 2,000% พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ

บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 65 ธุรกิจมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 2,000% และมีรายได้เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสู่กลุ่ม Tech Company และ Health Tech อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าอีก 5 ปี บริษัทมีรายได้แตะ10,000 ล้าน
คุณวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด เผยว่า “วีบียอนด์” มีผลประกอบการที่โดดเด่นและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการสิ้นสุดไตรมาส 1 ปี 2565 ธุรกิจมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 2,000% และมีรายได้เพิ่มขึ้น 57% ของช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2564 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 23.61 บาทต่อหุ้น โดยคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลอีกรอบก่อนบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เร็วๆ นี้ พร้อมทั้งมีมติอนุมัติแต่งตั้ง “นายชเยนทร์ คำนวณ” เข้าดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน วีบียอนด์ มีธุรกิจหลักคือการเป็นโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ซึ่งตอนนี้เรามีพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็น Developer ชั้นนำมากกว่า 50 แบรนด์ มีสินค้าอสังหาฯในสต็อคให้ลูกค้าเลือกซื้อมากกว่า 300 โครงการ และมีแผนขยายธุรกิจสู่บ้านมือสองเพื่อรองรับตลาดทุก Segment พร้อมตั้งเป้าสร้าง Market share ให้ได้ 5% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 9 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ วีบียอนด์ ยังมีแผนจะขยายธุรกิจสู่กลุ่ม Tech Company อย่างเต็มรูปแบบ ชูจุดเด่นด้วยระบบ AI อัจฉริยะสุดล้ำ ทั้งแพลตฟอร์ม Property mall ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ทั้งซื้อ ขาย เช่า ซ่อม สร้าง ตกแต่ง และลงทุน พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภคด้วยระบบค้นหาตัวตนอัจฉริยะ ซึ่งกำลังจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ และกลุ่มธุรกิจ Health Tech ซึ่ง วีบียอนด์ ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจด้านนี้ที่เป็นเทรนด์ในอนาคต และคาดว่าจะสร้างรายได้อย่างมหาศาล จึงได้มีการศึกษาและวิจัยการลงทุนพร้อมรุกตลาดโดยเร็วเพื่อช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจ โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย และคาดการณ์ว่าอีก 5 ปี ข้างหน้า กลุ่มบริษัทวีบียอนด์จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีรายได้ทยานแตะ10,000 ล้านบาท อย่างแน่นอนครับ”