เกาะติดสถานการณ์พายุโซนร้อน ปาบึก
Tweets by mthaiรวมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อฉุกเฉิน
- สำนักงาน ปภ. จังหวัดนครศรีธรรมราช โทร. 075-358-440 ถึง 4
- สำนักงาน ปภ. จังหวัดสุราษฯ โทร.077-272400, 077-272075 หรือ สายด่วน 199
- ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 โทร 075-383405
- ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก (ส่วนกลาง) โทร 02-2977648
- สายด่วน 1748
- ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดชุมพร โทร 077 501 207
..........................................
หลังจากที่มีรายงานการปรากฏตัวของ พายุปาบึก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพายุลูกใหญ่ลูกแรกแห่งปี 2562 และถือเป็นลูกที่ใหญ่มากทีเดียวในรอบหลายปี ที่จะพัดขึ้นฝั่งในบ้านเรา โดยความรุนแรงนั้นทำให้เกิดฝนตกหนัก ถึงหนักมาก ในหลายๆ บริเวณด้วยกันรู้จักพายุปาบึก
พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) เป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นจากชื่อ "ปลาบึก" โดยเป็นการเสนอชื่อจาก สปป.ลาว หมายถึง ปลาบึกนั่นเอง โดยพายุปาบึกนั้น ได้ก่อตัวขึ้นในบริเวณทะเลจีนใต้ โดยเริ่มต้นก่อตัวตั้งแต่ราววันที่ 31 ธ.ค. 2561 ในลักษณะของหย่อมความกดอากาศต่ำ ก่อนที่จะก่อตัวมีระดับความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ กลายเป็นพายุโซนร้อนในช่วงเช้าของวันที่ 1 ม.ค. 2562 โดยล่าสุด เมื่อ 10.00 น. ของวันนี้ ( 2 ม.ค. 62) พายุปาบึกมีความเร็วใกล้จุดศูนย์กลางประมาณ 65 กม.ต่อชั่วโมง เคลื่อนที่มุ่งหน้าเข้าอ่าวไทยด้วยความเร็ว ราว 10 กม. ต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะขึ้นฝั่งในประเทศไทยราววันที่ 4-5 ม.ค. 2562 บริเวณจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานีจุดที่ต้องเฝ้าระวัง
ในช่วงวันที่ 4-5 ม.ค. ที่คาดว่า พายุโซนร้อน ปาบึกจะขึ้นฝั่ง จะทำให้เกิดฝนตกได้ตั้งแต่ จังหวัดเพชรบุรีลงไปถึงนราธิวาส บริเวณที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดจะเป็นบริเวณที่พายุโซนร้อน ปาบึก พัดขึ้นฝั่ง นั่นคือบริเวณของตอนล่างของจ.ประจวบคีรีขันธ์ (ตอนล่าง) ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช (ตอนบน) และอีกจุดหนึ่งคือบริเวณตอนกลางของพายุ นั่นคือบริเวณ เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะนางยวนไทม์ไลน์เพื่อเตรียมรับมือพายุโซนร้อน ปาบึก
วันที่ 2 ม.ค. 2562
ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก เนื่องจากพายุปาบึกนั้นยังอยู่ห่างฝั่งอยู่ มีเพียงขอบๆ บางส่วนที่เริ่มเข้ามาแตะขอบบริเวณจังหวัดนราธิวาส บางส่วน ซึ่งทำให้เริ่มมีฝนตกบ้าง แต่ยังไม่หนักมากแต่อย่างใดวันที่ 3 ม.ค. 2562
พายุโซนร้อน ปาบึก จะเริ่มพัดเข้าสู่กลางอ่าวไทย แต่ยังไม่ขึ้นฝั่ง ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้น จะทำให้มีฝนตกหนัก ถึง หนักมาก ในจังหวัดทางภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทย แถวจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ซึ่งจากภาพการคาดการณ์ จะพบว่า ปริมาณฝนตกหนักมาก และคาดว่าปริมาณฝนตกสะสมมากกว่า 90 มม. จะประกอบไปด้วยพื้นที่- บริเวณเกาะสมุย เกาะเต่า เกาะนางยวน เกาะแตน เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย จังหวัดสุราษฏร์ธานี
- อำเภอ ขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันที่ 4 ม.ค. 2562 วันพายุพัดขึ้นฝั่ง
ภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลจะมีคลื่นลมแรงทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน โดยฝั่งอ่าวไทย จะมีคลื่นสูงระหว่าง 3-5 เมตร ส่วนฝั่งอันดามันจะมีคลื่นสูงราว 2-3 เมตร ดังนั้นบ้านเรือนที่อยู่บริเวณชายฝั่ง ขอให้ระวังคลื่นลมแรง จากแบบจำลองสภาพอากาศ คาดว่าในวันที่ 3 ม.ค. 62 พื้นที่ที่จะมีฝนตกหนัก โดยคาดว่า จะมีฝนตกหนักมากกว่า 100มม. ในบริเวณดังต่อไปนี้- จ.เพชรบุรี บริเวณอ.ชะอำ
- จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งจังหวัด
- จ.ชุมพร บริเวณอ.ท่าแซะ และ อ.ปะทิว
วันที่ 5 ม.ค. 2562
เป็นวันที่พายุโซนร้อนปาบึก กำลังจะพัดผ่านประเทศไทย จะทำให้ฝนทางภาคใต้เริ่มลดลง ทำให้เหลือพื้นที่ฝนตกหนักไม่มากนัก โดยจะมีฝนตกหนัก หลงเหลือบริเวณจังหวัดเพชรบุรีประจวบคีรีขันธ์ บางส่วนของราชบุรี จากภาพจะเห็นว่า ปริมาณฝนตกหนักมากที่สุดจะหลงเหลืออยู่ในบริเวณของ- จังหวัดเพชรบุรี
- ตอนบนของประจวบคีรีขันธ์
วันที่ 6 ม.ค. 2562
ตัวของพายุโซนร้อนปาบึก จะพัดผ่านประเทศไทยออกไป ดังนั้นพื้นที่ที่จะมีฝนตกหนักนั้นจะหายไป คงเหลือแต่ฝนฟ้าคะนองกระจายบ้างส่วนที่ยังคงส่งผลกระทบต่อประเทศไทย บริเวณทางใต้และภาคตะวันตกของประเทศปริมาณน้ำฝนสะสม ที่คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกหนัก-หนักมาก
สรุปกราฟแสดงประมาณน้ำฝนสะสมในจังหวัดที่คาดว่าจะมีปริมาณฝนตกหนัก - หนักมาก ระหว่างวันที่ 2 - 10 ม.ค. 62 ที่เป็นผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก