menu search

ประสิทธิภาพวัคซีนต่อเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

schedule | โควิด-19, Omicron, วัคซีน, วัคซีนโควิด-19, โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน, โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่

ประเด็นสำคัญ

  • เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ ผู้ผลิตวัคซีนยังคงเร่งศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน รวมถึงสูตรของวัคซีนในการต่อสู้กับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
  • ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า การฉีดวัคซีนยังคงเป็นสิ่งจำเป็นในการลดอัตราการเสียชีวิต และการป่วยรุนแรงจากโรคโควิด-19
  • วัคซีนที่มีใช้อยู่ในขณะนี้ มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยลดอัตราการตายและการป่วยรุนแรงได้

ความกังวลอีกส่วนหนึ่ง คือการที่ไวรัสจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีการใช้งานกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในขณะนี้ ทางทีมนักวิจัยยังคงเร่งในการศึกษาเพิ่มเติมและทดสอบว่า ไวรัสกลายพันธุ์ในสายพันธุ์นี้ สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน หรือจะมีผลต่อการลดประสิทธิภาพของวัคซีนหรือไม่ โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการสร้างแบบจำลองในคอมพิวเตอร์เพื่อข้อมูลดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลดังกล่าวไม่เกิน 2 สัปดาห์

ซึ่งนักวิจัยส่วนใหญ่มีความกังวลต่อการกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจาก เชื้อกลายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 ต่างไปจากเชื้อไวรัสต้นกำเนิดที่พบครั้งแรกในประเทศจีนไปโดยสิ้นเชิง และมีแนวโน้มว่า การกลายพันธุ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกับการหลบหนีภูมิคุ้มกันของมนุษย์หลายจุด โดยเฉพาะ E484, G446, K417 และ Q493

โดยในขณะนี้ ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ ๆ กำลังเร่งดำเนินการศึกษา และวิจัย เพื่อพัฒนาวัคซีนให้สามารถรับมือกับเชื้อสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอนนี้ให้ได้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในหลาย ๆ แหล่ง รวมถึงจากผู้เชี่ยวชาญ ยังคงไปในทิศทางเดียวกันคือ

"วัคซีนทุกชนิดที่มีอยู่ในขณะนี้ ยังมีประสิทธิภาพเพียงพอในการลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้ และการได้รับวัคซีนช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ ดังนั้นการเข้ารับวัคซีนให้ครบถ้วน จึงยังถือเป็นสิ่งสำคัญในขณะนี้"



รายงานประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน

อิสราเอล สาธารณสุขของอิสราเอลให้ข้อมูลกับสื่อท้องถิ่น Channel 12 โดยระบุว่า รายงานเบื้องต้น พบว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของไฟเซอร์ มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้ราว 90% น้อยกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลต้า ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 95%

ในขณะที่อัตราการป้องกันอาการรุนแรง-เสียชีวิตอยู่ที่ราว 93% ดังนั้นการฉีดเข็มกระตุ้นยังคงมีความจำเป็นอยู่ ซึ่งผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยจะมีความเสี่ยงอาการรุนแรงมากกว่าถึง 2.4 เท่า

ซึ่งรายงานนี้ถือเป็นรายงานแรกที่กล่าวถึงประสิทธิภาพของวัคซีนอย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันยังไม่มีรายงานจากทางฝั่งของผู้ผลิตอย่างชัดเจนว่า ประสิทธิภาพเป็นอย่างไร


Moderna

จากกรณีการพบการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ชนิดใหม่ B.1.1.529 (Omicron) ในขณะนี้ โมเดอร์น่าอยู่ในระหว่างการทดสอบวัคซีนกับเชื้อในสายพันธุ์ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าผลการทดสอบจะออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยโมเดอร์น่าจะมีการทดสอบคือ

  • การเสริมตัวยาที่ขนาด 100 ไมโครกรัมว่าจะป้องกันเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนนี้ได้หรือไม่
  • การเพิ่มตัวกระตุ้นแบบหลายแอนติเจน 2 ชนิด
  • ค้นคว้าวัคซีนกระตุ้นสำหรับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นการเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม ทางโมเดอร์น่า ได้ระบุว่า วัคซีนของโมเดอร์น่านั้น น่าจะมีประสิทธิภาพที่ลดลง จากเดิมเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม

Pfizer

ในขณะนี้ไฟเซอร์ระบุว่า ได้มีการศึกษาเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ชื่อ omicron นื้แล้วเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อชนิดใหม่นี้ โดยคาดว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมและความคืบหน้าในอีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ซึ่งหากได้ผลความคืบหน้าจะใช้เวลาอีกราว 6 สัปดาห์ในการปรับสูตรวัคซีนและจัดส่งวัคซีนรุ่นใหม่ได้ภายใน 100วัน

AstraZeneca

ระบุว่า ในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับสายพันธุ์กลายพันธุ์ใหม่นี้อยู่ในประเทศบอตสวานา และเอสวาตินี

Johnson & Johnson

ระบุว่า ในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาและเฝ้าติดตามการทำงานของโปรตีนในเชื้อไวรัสโควิด-19ในสายพันธุ์ใหม่ B.1.1.529 นี้ เพื่อที่จะเร่งทดสอบประสิทธิภาพกับวัคซีน


RELATED