พลิกวิกฤติ! 'เลี้ยงจิ้งหรีด' เสริมรายได้ หลังราคายางตกต่ำ

สาวเมืองคอน พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส 'เลี้ยงจิ้งหรีดครบวงจร' หารายได้เสริม หลัง ราคายางพาราตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ปัจจุบันยางพารามีราคาที่ตกต่ำจนถือเป็นประวัติการณ์ก็ว่าได้ อีกทั้งการแก้ปัญหาของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนยาง ต่างต้องพบกับผลกระทบต่อการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก และจากวิกฤติราคายางพาราที่ตกต่ำในครั้งนี้ ทำให้ชาวสวนยางบางราย ถึงกับต้องหาอาชีพเสริมแทนการกรีดยาง เพื่อหารายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน โดย ทีมข่าว MThai จะพาไปรู้จักกับชาวสวนยางรายหนึ่ง ที่ไม่สามารถทนกับสภาวะราคายางตกต่ำได้ จึงต้องหาอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงจิ้งหรีดครบวงจร นางฉวีวรรณ เจริญรูป อายุ 41 อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 13 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เดิมประกอบอาชีพชาวสวนยางพารา แต่ปัจจุบันประกอบอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงจิ้งหรีดจำหน่ายแบบครบวงจร หรือที่รู้จักกันในนาม 'เล็กจิ้งหรีดเดลิเวอรี่' โดยนางฉวีวรรณ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ราคายางพาราตกต่ำจนกล่าวได้ว่าเหลือ 3 โลร้อย ส่งผลกระทบต่อรายได้ในครอบครัวเป็นอย่างมาก ตนเองจึงต้องหาอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ โดยการเข้าร่วมอบรมและศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง จนพบกับอาชีพเลี้ยงจิ้งหรีดซึ่งเป็นอาชีพที่ลงทุนน้อย เพียงแค่ปล้องบ่อซิเมนต์ในราคาปล้องละไม่กี่ร้อยบาท จากนั้นนำมาวางในที่ว่างข้างบ้าน และ ซื้อไข่จิ้งหรีดราคาถาดละ 1,200 บาท มาเลี้ยง จากนั้นก็เพาะและทำการขยายพันธุ์ออกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันตนเลี้ยงจิ้งหรีด 9 ปล้อง ปล้องละประมาณ 5,000 ตัว โดยแต่ละปล้องจะใส่แผงกระดาษใส่ไข่ไก่ 10 -15 แผง สำหรับให้จิ้งหรีดได้อยู่อาศัย ตรงกลางวางถาดใส่น้ำไว้ 1 ถาด และภายในถาดน้ำวางก้อนหินก้อนเล็ก ๆ ลงไป 10-20 ก้อน เพื่อให้จิ้งหรีดยึดก้อนหิน และ ป้องกันไม่ให้จิ้งหรีดจมน้ำตายในเวลาที่มากินน้ำ ส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยงจิ้งหรีดจะเป็นอาหารประเภท ข้าวโพด บวม ฟักทอง และผลไม้ต่าง ๆ โดยจิ้งหรีดจะโตเร็วมากใช้เวลาประมาณ 45 วัน ก็สามารถจับขายได้ โดยปล้องที่จับขายก็สามารถเลี้ยงจิ้งหรีดในรุ่นต่อไปได้ทันที ตนจึงมีจิ้งหรีดขายตลอดทั้งปี สำหรับราคาจิ้งหรีดตกกิโลกรัมละ 300 บาท หากเป็นจิ้งหรีดที่มีการทอดและนำมาปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสเด็ดสูตรเฉพาะ จะมีราคาอยู่ที่ 100 บาท ต่อถุง นางฉวีวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากเลี้ยงจิ้งหรีดขายแบบเดลิเวอรี่แล้ว ตนยังเลี้ยงกบและนำมาปรุงเป็นเมนูเด็ดตามที่ลูกค้าสั่ง อาทิ กบทอดกระเทียมพริกไทย ผัดเผ็ดกบ แกงส้มกบ หรือเมนูอื่น ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ อีกทั้งยังส่งขายแบบเดลิเวอรี่เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม รายได้จากการกรีดยางพาราในช่วงนี้ จะมีรายได้อยู่ที่ 200-300 บาท หากตนเองไม่ทำอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงจิ้งหรีด เลี้ยงกบ ส่งขายแบบเดลิเวอรี่ จะทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน       ติดตามข่าวสารอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com MThai News