menu search

ประยุทธ์ ขอ นายกฯนิวซีแลนด์ พิจารณายกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย

schedule | NEWS, ข่าวสดวันนี้, นิวซีแลนด์, วีซ่า

ประเด็นน่าสนใจ

  • ไทยและนิวซีแลนด์ ร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือทั้งในกรอบทวิภาคีและภูมิภาค
  • รัฐบาลขอให้นิวซีแลนด์พิจารณา ยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย
  • นอกจากนี้ผู้นำทั้งสองได้มีการพูดคุยหารือเกี่ยวกับประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะหารือกับนางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น (The Right Honourable Jacinda Ardern, MP) นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ภายหลังเสร็จสิ้น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-นิวซีแลนด์เป็นไปด้วยดีและราบรื่น และถือโอกาสนี้เชิญนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสที่สะดวกในอนาคตอันใกล้นี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่ไทยและนิวซีแลนด์สามารถผลักดันและขยายผลให้เกิดประโยชน์ระหว่างกัน เช่น การแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ซึ่งตรงกับนโยบายการส่งเสริม Smart Farmer ของไทยแนวปฏิบัติที่ดีของนิวซีแลนด์ในด้านการบริหารการศึกษา โดยเฉพาะการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งขอให้นิวซีแลนด์พิจารณาเกี่ยวกับขั้นตอนการขอวีซ่า หรือการยกเว้นวีซ่าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ได้แสดงความเห็นด้วยและให้เจ้าหน้าที่พิจารณาต่อไป นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประสงค์ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทย และเพิ่มบทบาทของนิวซีแลนด์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น ความมั่นคง การค้าการลงทุน การพัฒนาที่ยั่งยืนและเจตนารมณ์ของนิวซีแลนด์ที่จะเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ ACMECS ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นประเด็นท้าทาย ได้แก่ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสตรี ความเท่าเทียมกันทางเพศสภาพ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การบรรเทาภัยพิบัติและการให้ความช่วยเหลือ ทางมนุษยธรรมและการจัดการปัญหาขยะพลาสติกและขยะทะเล พร้อมทั้งยินดีที่สมาชิก RCEP ทุกประเทศต่างร่วมมือกันอย่างเต็มที่ทำให้การเจรจา RCEP มีความคืบหน้าสามารถสรุปผลการเจรจาในประเด็นสำคัญได้