menu search

สผ. และ UNDP จับมือฟื้นฟูป่าพรุควนเคร็ง พื้นที่ชุ่มน้ำ รับมือภัยโลกร้อน

schedule | NEWS, ป่าพรุควนเคร็ง, โลกร้อน

ประเด็นน่าสนใจ

  • สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติฟื้นฟูป่าพรุควนเคร็ง พื้นที่ชุ่มน้ำ
  • ในปีนี้ องค์การสหประชาชาติ กำหนดหัวข้อรณรงค์ภายใต้คำขวัญ “หยุดหมอกควันและอากาศพิษ เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ” (Beat Air Pollution)
วันที่ 5 มิ.ย. ดร.รวีรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สผ. ร่วมกับสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP – United Nations Development Programme) ดำเนินโครงการเสริมศักยภาพการจัดการระบบนิเวศป่าพรุ เพื่อเพิ่มความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF – Global Environment Facility) ทั้งนี้ สผ.น้อมนำพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการรักษาป่าพรุป้องกันไม่ให้ป่าพรุถูกทำลายมาปฏิบัติและดำเนินโครงการ โดยประสานความร่วมมือกับศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (RECOFTC) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดคณะทำงานลงพื้นที่สำรวจข้อมูลป่าพรุทั่วประเทศ และเลือกพื้นที่โครงการนำร่องอนุรักษ์ป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราช มุ่งหวังผลลัพธ์ให้เกิดการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าพรุ เพิ่มศักยภาพป่าพรุในการทำหน้าที่กักเก็บคาร์บอน เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีความสำคัญระดับโลก และเป็นระบบนิเวศที่ให้บริการและปรับปรุงวิถีชีวิตท้องถิ่น เลขาธิการ สผ. กล่าวด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 5 มิ.ย. ของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อให้ทั่วโลกตื่นตัวกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น โดยในปีนี้กำหนดหัวข้อรณรงค์ภายใต้คำขวัญ “หยุดหมอกควันและอากาศพิษ เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ” (Beat Air Pollution) ด้านนายเรโนด์ เมเยอร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) กล่าวว่า ป่าพรุมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ป่าพรุช่วยดูดซับคาร์บอนที่จะถูกปล่อยไปสู่ชั้นบรรยากาศได้เป็นล้านตัน นอกจากนี้ป่าพรุยังช่วยให้ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำประมงหรือการทำงานหัตถกรรม ด้วยการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก UNDP ได้ร่วมกับรัฐบาลไทยและภาคประชาสังคมใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม และแนวทางใหม่ในการจัดการป่าพรุเพื่อให้มั่นใจว่าระบบนิเวศน์ของป่าพรุจะช่วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และช่วยทำให้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสำเร็จได้ตลอดจนช่วยรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมมนุษย์อย่างยั่งยืน