รัสเซียประท้วงยังระอุ มีประท้วงหลายเมือง, จับกุมตัวผู้ประท้วงกว่าพันราย

ประเด็นน่าสนใจ

หลังจากที่นายอเล็กเซ นาวาลนี แกนนำนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านในรัสเซียถูกจับกุมตัว เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา ทันทีที่เดินทางกลับถึงรัสเซีย ภายหลังจากต้องเข้ารับการรักษาตัวในประเทศเยอรมนี เนื่องจากถูกวางยาพิษ "โนวิช็อก" ในระหว่างการเดินทาง จนอาการโคม่า ไม่รู้สึกตัว

การจำกุมนายอเล็กเซ นาวาลนี สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้สนับสนุน และประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยกับทางรัฐบาลรัสเซีย ออกมารวมตัวประท้วงกัน ซึ่งจากจำนวนผู้เข้าร่วมประท้วงในครั้งนี้ ถือว่า เป็นการประท้วงครั้งใหญ่สุดในรัสเซีย ในรอบหลายปีเลยทีเดียว ท่ามกลางอากาศหนาวติดลบ

เรียกร้อง #FreeNavalny

ในการออกมาร่วมการประท้วงให้ปล่อยนายอเล็กเซ นาวาลนี เนื่องจากประชาชนจำนวนมากระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายนาวาลนี เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เนื่องจากมีความพยายามในการสังหารแกนนำนักเคลื่อนไหวคนดังกล่าว และเมื่อนายนาวาลนี รอดกลับมาได้ กลับถูกจับกุมในฐานละเมิดทัณฑ์บนในคดีอาญาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

กลุ่มผู้ประท้วง ระบุว่า การจับกุมนายนาวาลนี ไม่ใช่เป็นประเด็นการละเมิดทัณฑ์บน แต่เป็นประเด็นทางการเมือง มากกว่า โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่นายนาวาลนี พ้นจากอาการโคม่า และพักระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเยอรมนี

นายนาวาลนีได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในคลิปล่าสุด ที่นายนาวาลนี เอ่ยถึง "Putin's Palace" หรือ "วังของปูติน" ซึ่งเป็นบ้านพักที่แหลมอีโดโคปาส โดยระบุว่า เป็นการคอรัปชั่นครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย

ซึ่งในคลิปดังกล่าว นายนาวาลนี ได้นำแปลนบ้านพักหลังดังกล่าวมาเปิด พร้อมระบุถึงความหรูหราอย่างมาก ทั้งภายในและบริเวณภายนอก

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้ชุมนุมจำนวนมากออกมารวมตัวประท้วงกัน โดยเฉพาะในกรุงมอสโคว์ เมืองหลวงของรัสเซีย และมีการประท้วงต่อเนื่องมาเป็นระยะ ๆ เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่มีนายนาวาลนี ถูกจับกุมตัว

ควบคุมตัวแกนนำประท้วง-ผู้ชุมนุม

จากการประท้วงที่เกิดขึ้น ทำให้ถนนหลายสายในกรุงมอสโคว์ เป็นอัมพาต รัฐบาลรัสเซียได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากออกมาควบคุมการประท้วง รวมถึงมีการสลายการชุมนุม และจำกุมผู้ประท้วง/แกนนำ หลัก ๆ ไปเป็นจำนวนกว่า 1000 รายแล้ว ในวันนี้ ( 31 ม.ค.)

ซึ่งหากนับรวมกับเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าอีกมากกว่า 3,000 ราย ที่ถูกควบคุมตัวไป ก็คาดว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงเกือบ 5 พันรายแล้วที่ถูกจับกุม

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในหลายจุดอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรัสเซีย

ในขณะที่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของรัสเซีย ก็มีการประท้วงด้วยเช่นกัน ทำให้มีการยกระดับมาตรการควบคุมเพิ่มมากขึ้น โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ชุดตำรวจปราบจราจลในหลายพื้นที่ด้วยกัน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า การรวมตัวกันประท้วงที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้