จาก 93 เหลือ 56 เธอทำได้! น้องเล็ก พัชราภรณ์ ตร.หญิง ขอเปิดใจแชร์ประสบการณ์

ในชีวิตนี้คุณพูดคำว่า “จะลดความอ้วน” มาแล้วทั้งหมดกี่(ร้อย)ครั้ง ? คำพูดนี้เป็นประโยคติดปากใครหลายคน แต่จะมีสักกี่คน ที่สามารถเอาชนะความอ้วนได้จริงๆ สำหรับผู้หญิงที่ Women MThai เลือกมาจับเข่าคุยในครั้งนี้ เธอทำได้! เธอสามารถลดน้ำหนัก ไปได้กว่า 37…

Home / แฟชั่น / จาก 93 เหลือ 56 เธอทำได้! น้องเล็ก พัชราภรณ์ ตร.หญิง ขอเปิดใจแชร์ประสบการณ์

ในชีวิตนี้คุณพูดคำว่า “จะลดความอ้วน” มาแล้วทั้งหมดกี่(ร้อย)ครั้ง ? คำพูดนี้เป็นประโยคติดปากใครหลายคน แต่จะมีสักกี่คน ที่สามารถเอาชนะความอ้วนได้จริงๆ สำหรับผู้หญิงที่ Women MThai เลือกมาจับเข่าคุยในครั้งนี้ เธอทำได้! เธอสามารถลดน้ำหนัก ไปได้กว่า 37 กก. อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอลดไปได้มากขนาดนั้น เรามารู้จักเธอไปพร้อมๆ กันค่ะ

ทำความรู้จักสาวเก่งและแกร่งคนนี้กันก่อน

น้องเล็ก หรือ นรต.หญิง พัชราภรณ์ ภูมิพันธ์ ตอนนี้เธอกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถามว่าทำไมถึงเลือกตัดสินใจมาเรียน หลังจากจบ ม.ปลาย ก็เพราะมีพี่ชายเป็นไอดอล หลังจากมีประกาศรับสมัคร ก็ไม่ลังเลที่จะมาสอบ และผลการสอบข้อเขียนก็ผ่านฉลุย ด่านแรกในการทำตามความฝัน ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่…รูปร่างที่หนัก 93 กก. กำลังจะทำให้ฝันของเธอล่ม!!

“เดือนแรก ขอลด 10 โล ได้ไหม ?” คำพูดจุดประกายให้หันมาตั้งใจลดนน.

เมื่อผ่านข้อเขียนแล้ว ก็มาถึงด่านการทดสอบร่างกายในด่านต่อไป น้องเล็กเล่าให้ฟังว่าด้วยรูปร่างที่ใหญ่กว่าเพื่อนคนอื่น ทำให้หลายคนมองว่าเธออาจหลุดอันดับไปได้ง่ายๆ แต่เธอจะไม่ยอมให้ความฝันหลุดลอยไปง่ายๆ ในตอนนั้นมีเวลาเตรียมร่างกายเพียงแค่ 2 อาทิตย์ ก็ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก ร้องไห้ก็หลายรอบ เพราะทั้งเหนื่อยและท้อ แต่กำลังใจจากพ่อและแม่ ก็ทำให้เธอทดสอบร่างกายผ่านฉลุย ติดอันดับที่ 40 จากที่เปิดรับทั้งหมด 70 คน แม้ว่าหลังจากที่วิ่งเข้าเส้นชัยเสร็จแล้ว จะเป็นลมล้มพับไปเลยก็ตาม

หลังจากที่ผ่านเข้ามารอบสัมภาษณ์ ก็เจอคำถามย้ำอีกครั้งว่าเรียนไหวไหม ? จะลองไปเรียนอย่างอื่นดูหรือเปล่า ? เพราะรูปร่างอาจเป็นอุปสรรคในการฝึก ซึ่งเธอก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะเรียนที่นี่ให้ได้ จึงได้โจทย์สุดท้าทาย “เดือนแรก ขอลด 10 โล ได้ไหม”

ยุบหนอ พองหนอ ….เดี๋ยวอ้วน เดี๋ยวผอม ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ ?

หนึ่งเดือนผ่านไป หลังจากที่ได้โจทย์ให้ลดน้ำหนักตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน น้ำหนักลงไปประมาณ 5 กก. แต่ก็ยังไม่ได้ตามเป้า เพราะไม่ได้ตั้งใจลดจริงจัง แต่เป็นเพราะว่าในช่วงแรกฝึกหนัก พักผ่อนน้อย จึงทำให้น้ำหนักลดลงมาอัตโนมัติ แล้วน้ำหนักแค่ 5 โล นี่แหละ ที่ทำให้เธอมีแรงฮึด ภายใจช่วงเวลาแค่ 3-4 เดือน ก็ลดไปได้อีก 7 กก. รวมเป็น 12 กก. เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว แต่…แต่ อย่างที่บอกไปในตอนแรก เส้นทางจะผอมหุ่นดีไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีขึ้นก็ต้องมีลง แถมยังขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก 

เริ่มจากปี 1 ต้องฝึกหนักมาก จึงทำให้เผลอตัวกินเยอะเพราะเหนื่อย เผลอไปเผลอมา เอ้าาา น้ำหนักขึ้นมา 5 กก. ไม่พอ ขึ้นปี 2 ก็ต้องไปฝึกเรียนรู้วิถีชาวบ้าน และพ่อแม่สมมติในระหว่างที่ฝึกก็เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี ทำให้น้ำหนักพุ่งทะยานมาอีก 5 กก. สรุปการฝึกแค่ 2 ปี น้ำหนักก็กลับมาเท่าเดิม

“เชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง” คติประจำใจ ช่วยดึงกลับมาตั้งใจลดอีกครั้ง

จุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องกลับมาลดน้ำหนักอย่างจริงจังอีกครั้ง เพราะชุดใส่ไม่ได้ ต้องเอาไปขยายเพิ่ม ขึ้นปี 3 ต้องทดสอบร่างกาย ทั้งโดดร่ม ไต่เชือก ก็สอบไม่ผ่านคนเดียวทั้งรุ่น คราวนี้เครียดหนัก หนทางเดียวที่จะผ่านได้คือต้องลดน้ำหนักเท่านั้น!!

การกลับมาลดครั้งใหม่นี้ แตกต่างจากครั้งก่อน เพิ่มความจริงจังเป็นสองเท่า อยากผอมเท่าคนอื่น แต่ตัวใหญ่กว่าคนอื่น จะมาทำเท่าคนอื่นไม่ได้ ต้องทำมากกว่าคนอื่น….เดี๋ยวแบ่งเป็นข้อๆ จะได้เข้าใจและเห็นภาพกันมากขึ้น

1. พกสมุดจดอาหารในแต่ละวัน

เทคนิคนี้ได้มาจากการเดินไปถามนักกีฬาในโรงเรียน ซึ่งจะทำให้รู้ว่าในแต่ละวัน เรากินอะไรไปบ้าง ? และกินอาหารที่มีประโยชน์หรือเปล่า ?

2. เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

หลายคนคิดว่าการเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ก็ไม่ต่างจากโรงเรียนประจำ ไม่สามารถเลือกกินเป็นอาหารคลีนหรืออาหารที่อยากกินได้ แต่เธอเลือกที่จะกินปกติ และเลี่ยงขนมหวาน หากอยากกินจริงๆ ผลไม้เป็นทางออกที่ดีที่สุด คิดถึงเวลาออกกำลังกายเหนื่อยๆ เข้าไว้ จะได้ไม่กล้ากินขนมหวาน

3. ออกกำลังกายจากวันละครั้ง ก็เพิ่มเป็นสองครั้ง

รอบแรกตีห้า และรอบสองตอนเย็นหลังเลิกเรียน ทำเป็นประจำให้เป็นนิสัย ศึกษาหาข้อมูลเพื่อให้การลดน้ำหนักเป็นไปทางที่ถูกต้อง ไม่โยโย่

4. ไม่อดอาหาร

ข้อนี้สำคัญมาก ย้อนกลับไปสมัย ม.ต้น เธอเคยลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร ผลสุดท้ายคือน้ำหนักลดฮวบฮาบ แต่ก็ผอมได้ไม่นาน น้ำหนักก็ขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาแตะที่เลข 93 กก. คิดเอาละกันว่าโยโย่หนักขนาดไหน

5. กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ

เชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง เป็นคติประจำใจที่ใช้มาตั้งแต่เข้ามาสมัครสอบ แล้วก็ผ่านมาได้ คราวนี้ลดน้ำหนัก ก็ยังคงใช้คตินี้ เตือนใจตัวเองอยู่เสมอ กำลังใจจากคนรอบข้างมากมายแค่ไหน ก็สู้กำลังใจจากตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อตั้งเป้าว่าจะทำอะไร ก็ต้องตั้งใจทำให้สำเร็จ อย่ายอมแพ้

ตอนนี้น้องเล็กลดน้ำหนักไปได้ จาก 93 เหลือ 58 กก. ตั้งใจว่าจะให้เหลือ 55 กก. ก็จะสำเร็จตามที่คิดเอาไว้ ซึ่งเชื่อว่าเธอสามารถทำได้อย่างแน่นอน จากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนด้วยน้ำหนักที่มากที่สุดในกองร้อย อายเพื่อน อายผู้ชาย กลัวจะโดนล้อ ผ่านคำครหามามากมาย พิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนได้รู้ว่าถ้าตั้งใจ เรื่องหนักแค่ไหนก็ผ่านไปได้แน่นอน เหมือนกับคติประจำใจที่ว่า “จงเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง

 

ภาพสุดท้ายเป็นภาพที่น้องเล็กอยากจะบอก “คือหนูก็ไม่ได้ควบคุมอาหารตลอดเวลานะคะ อันไหนที่อยากกินจริงๆ ก็กินได้แต่หลังจากกินแล้ว ก็ต้องออกกำลังกายชดใช้ด้วยค่ะ ฮ่าๆๆๆ “

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย : Women MThai Team

บทความนี้ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้บนเว็บไซต์ MTthai.com เท่านั้น