Dress Code ชุดราตรีออกงาน ธีมงาน วิธีแต่งตัว เดรสโค้ด แต่งตัวไปงาน

แกะความหมาย Dress Code ไปงาน ชุดแบบนี้ ต้องแต่งตัวยังไง ไม่ให้ผิดธีม!

สาวๆ จ๋า… สาวๆ คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับคำว่า “Dress Code” กันมาบ้างแล้วแหละ ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะเห็นมันปรากฎอยู่ในการ์ดเชิญของงานต่างๆ หรือไม่ก็ได้ยินคนโน้นคนนี้พูดกัน ถ้าจะให้พูดภาษาง่ายๆ มันก็คือธีมการแต่งตัวนั่นแหละ เพียงแต่มันจะมีคำศัพท์บางอย่างที่ทำให้เราไม่แน่ใจว่า จะต้องแต่งตัวประมาณไหนดี เอาล่ะค่ะ วันนี้เราจะพามาถอดความหมายของแต่ละ…

Home / แฟชั่น / แกะความหมาย Dress Code ไปงาน ชุดแบบนี้ ต้องแต่งตัวยังไง ไม่ให้ผิดธีม!

สาวๆ จ๋า… สาวๆ คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับคำว่า “Dress Code” กันมาบ้างแล้วแหละ ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะเห็นมันปรากฎอยู่ในการ์ดเชิญของงานต่างๆ หรือไม่ก็ได้ยินคนโน้นคนนี้พูดกัน ถ้าจะให้พูดภาษาง่ายๆ มันก็คือธีมการแต่งตัวนั่นแหละ เพียงแต่มันจะมีคำศัพท์บางอย่างที่ทำให้เราไม่แน่ใจว่า จะต้องแต่งตัวประมาณไหนดี เอาล่ะค่ะ วันนี้เราจะพามาถอดความหมายของแต่ละ Dress Code กัน เริ่ม..!!

ความหมาย Dress Code

1. Business Attire

Dress Code

สำหรับในสายธุรกิจ ลุคนี้จะมีความเป็นทางการ เหมาะกับงานที่มีพิธีรีตอง การแต่งการจะต้องสร้างให้ผู้สวมใส่มีความน่าเชื่อถือ ผู้หญิงจะใส่สูทกับกางเกง หรือกระโปรงก็ได้ ชุดต้องมีความเข้ากัน พอดีตัว สีสุภาพ อย่างเช่น ดำ เทาดำ กรม เป็นต้น

2. Business Formal

หากเรียงลำดับความทางการแล้ว ลุคนี้จะมีความเป็นทางการน้อยกว่า Business Attire จะเป็นงานธุรกิจ หรืออีเว้นต์องค์กร ผู้หญิงก็จะใส่สูทกับกางเกง หรือกระโปรงก็ได้เช่นกันค่ะ

3. Business Casual

ลุคนี้จะเป็นลุคกึ่งทางการ สาวๆ สามารถแต่งตัว เพิ่มความเป็นแฟชั่นเข้ามาได้หน่อย อย่างเช่นการใส่เบลเซอร์ (เสื้อนอก หรือเสื้อคลุม ที่ไม่ได้ตัดมาจากผ้าเดียวกันทั้งชุดเหมือนสูท) ให้ลุคมีสีสันขึ้นมานีสนึง

4. Smart Causal

เมื่อได้ยินคำว่า Smart Causal ให้นึกถึงการแต่งตัวไปทำงานในออฟฟิศไว้ก่อนเลยค่ะ การแต่งกายจะเป็นกึ่งลำลอง ผู้หญิงจะใส่กระโปรงหรือกางเกง หรือชุดเดรสก็ได้ ส่วนกางเกงยีนส์ก็สามารถใส่ได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องเป็นสีเข้มและไม่ขาดค่ะ

5. Black Tie

เดรสโค้ดแบบนี้ จะใช้กับงานกาลา หรืองานดินเนอร์หรูหรา มีความเป็นทางการสูง ผู้ชายจะต้องใส่สูท และทักซิโด้ ส่วนคุณผู้หญิงจะต้องเป็นราตรียาว สวย จัดเต็ม ดูแล้วอลังการงานสร้าง

6. Black Tie Optional

สำหรับลุคนี้จะลดความทางการลงมาหน่อย ผู้ชายจะใส่สูทและผูกไทสีดำ ส่วนผู้หญิงนั้นยังเป็นชุดราตรี แต่อาจจะไม่ต้องหรูหราเหมือน Black Tie ความยาวอยู่ที่ข้อเท้า หรือหน้าแข้งได้

7. Creative Black Tie

แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าต้องมีความครีเอทีฟ เพราะฉะนั้นเราจะลดความอลังการลง และเพิ่มความเป็นแฟชั่นลงไป การแต่งกายยังคงเป็นชุดราตรีอยู่ แต่สามารถเพิ่มลูกเล่นตามสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบได้

8. Evening Dress

อันนี้จะเป็นการแต่งกายด้วยชุดราตรียาวเท่านั้น! จะลากหางปลา หรือชุดจะกรุยกรายแค่ไหน ก็จัดมาได้เต็มที่เลยค่า…

9. Cocktail Dress

ลองนึกถึงเวลาเราไปงานค็อกเทล แน่นอนว่ามันจะต้องเดิน ไม่ได้นั่งอยู่กับที่ ชุดก็จะเป็นเดรสสั้น แต่ไม่สั้นมาก ประมาณขาหรือเข่า เน้นความสวยงาม

10. Casual

หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า ชุดลำลองนั่นเอง เหมาะสำหรับใส่ไปเที่ยว ชุดจะไม่มีความเป็นทางการ งานนี้ใครชอบสไตล์ไหน ก็งัดกันออกมาเลยจ้า

11. Beach Formal / Resort Formal

ความหมาย Dress Code

สาวๆ หลายคนจะต้องเคยเจองานที่จัดที่ทะเล หรือริมชายหาดอย่างแน่นอน สำหรับเดรสโค้ดนี้ ก็จะไม่ได้ชิลถึงขนาดใส่รองเท้าแตะหรือกางเกงขาสั้นนะ แต่จะเป็นชุดเดรสเบาๆ สบายๆ ใส่แล้วพริ้วๆ อะไรประมาณนี้

คลิป > เปรี้ยวทั้งชื่อทั้งสไตล์ กับ เปรี้ยว ทัศนียา

เรียบเรียงโดย Women MThai Team

รูปจาก : opalpanisara / nichaphatc / aom_sushar / marialynnehren / crishorwang / gwangoamsinn / prayalundberg / kamolned / toeyjarinporn / janienineeleven / sakulkyp / manasaproyy / jingjingyu36 / baifernbah / chomismaterialgirl / davikah / ladiiprang / duearisara