ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก อ้วนหลังคลอด ออกกำลังกาย ออกกำลังกายลดน้ำหนัก อาหารคลีน

สาว 40 อดีตเคยผอม เจ็บใจโดนล้อ ลดน้ำหนัก 32 กก.ไม่ขอกลับไปอ้วนอีก!

คุณบี เจ้าของร้านขายเสื้อผ้า วัย 40 มีความรักและสนใจในเรื่องของแฟชั่นและการแต่งตัว ในอดีตก็เป็นสาวเอวบางร่างน้อยมาก่อน แต่ก็ชะล่าใจ ปล่อยให้ตัวเองอ้วนจนเกือบ 100 กก. ช่วงที่ท้องคือกินได้นอนหลับสบายสุดๆ บำรุงครรภ์ไปเรื่อยๆ น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวันผ่าคลอด บีน้ำหนัก…

Home / แฟชั่น / สาว 40 อดีตเคยผอม เจ็บใจโดนล้อ ลดน้ำหนัก 32 กก.ไม่ขอกลับไปอ้วนอีก!

คุณบี เจ้าของร้านขายเสื้อผ้า วัย 40 มีความรักและสนใจในเรื่องของแฟชั่นและการแต่งตัว ในอดีตก็เป็นสาวเอวบางร่างน้อยมาก่อน แต่ก็ชะล่าใจ ปล่อยให้ตัวเองอ้วนจนเกือบ 100 กก.

ช่วงที่ท้องคือกินได้นอนหลับสบายสุดๆ บำรุงครรภ์ไปเรื่อยๆ น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวันผ่าคลอด บีน้ำหนัก 98 กก. เกือบถึง 100 กก. (หัวเราะ) พีคมาก น้ำหนักเยอะที่สุดในชีวิต หลังคลอดวันรุ่งขึ้นชั่งน้ำหนักเหลือ 92 กก. ระหว่างเป็นคุณแม่ลูกอ่อนน้ำหนักบีลดลงเหลือ 75 กก. เพราะเหนื่อย พักผ่อนน้อย กินน้อย จนลูกอายุ 1 ขวบกว่า บีเริ่มกินเก่งขึ้น


โดนัทชิ้นใหญ่ 6 ชิ้น ก็กินครั้งเดียวหมด

ทำงานเหนื่อย กินอิ่มแล้วก็นอนเลย

เหมือนเรายิ่งเหนื่อยยิ่งกิน เหนื่อยจากการทำงาน และเลี้ยงลูกด้วย กินอาหารไม่เป็นเวลา มื้อเย็นของบีคือ 2 ทุ่ม ขายของเสร็จ ถึงบ้านค่ำทำกับข้าวกินกับครอบครัว กินแล้วนอน เป็นแบบนี้ประจำทุกวัน ข้าวที่กินแต่ละมื้อ บีไม่เคยสนว่ากินกี่ทัพพี เติมกี่รอบ กินเก่งมาก ของทอด เนื้อสัตว์ติดมันนี่คือของโปรด โดยเฉพาะ เค้ก เบเกอร์รี่ ของหวานทุกอย่างชอบมาก กินข้าวเสร็จต้องกินขนมต่อ สามารถกินเค้กครั้งหนึ่งได้เป็นปอนด์เลยค่ะ กินแหลกมากจนน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไล่มาตั้งแต่ 80 > 84 > 89 กก.

เกือบตายเพราะยาลดน้ำหนัก

พอน้ำหนักขึ้น ก็เริ่มมองหายาลดน้ำหนักตัวใหม่มาลองกินดู กินได้แค่ 1 วัน ใจสั่นมาก นอนไม่หลับ แน่นหน้าอก หยุดกินทันทีเลยค่ะ แล้วก็ไม่กล้ากินยาลดน้ำหนักอีกเลย กลัวตาย หลังจากนั้นก็พยายามลดน้ำหนักอีก แต่ใช้วิธีผิดๆ โดยการกินน้อยๆ อยู่หลายครั้ง ลองกินแบบคนอื่นดู ใช้สูตรเร่งรัดต่างๆนานา แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำได้ไม่กี่วันก็กลับมากินเหมือนเดิมต่อ

ช่วงที่น้ำหนักเยอะ 89-92กก. บีเป็นตะคริวบ่อยมาก โดยเฉพาะเวลากลางดึกแขนชา มือชาด้วย และบ่อยครั้งในช่วงเวลากลางวัน จะเป็นตะคริวที่ท้องและเป็นตะคริวใต้ราวนม ทรมานมากเหมือนคนใกล้ตาย

สมัยเรียนเคยหนัก 50 กก.

นอกจากปัญหาสุขภาพแล้ว ยังขาดความมั่นใจด้วย พออ้วนก็ไม่ชอบถ่ายรูป ไม่ชอบออกงานเพราะหาชุดใส่ไม่ได้ บอกตามตรงว่าไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้ จากคนรักสวยรักงาม รักในการแต่งตัวดูแลตัวเอง แต่มากลายเป็นคนปล่อยตัว ปล่อยให้ตัวเองอ้วน

จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนัก

5 เหตุผลหลัก ที่ทำให้บีตัดสินใจลดน้ำหนักในครั้งนี้ คือ

1.สิ่งแรกคือเรื่องอายุ ปี 2561 อายุบีใกล้จะครบ 40 ปี บีตื่นเต้นกับอายุเลข 4 มาก คิดอยู่หลายครั้ง ว่าเมื่อถึงอายุ 40 ปีเต็ม ฉันอยากจะเป็นป้าแก่ๆอ้วนๆ เหรอ? จึงตัดสินใจจะลดน้ำหนัก

2.ลูกของบี มักจะพูดเสมอ อยากให้แม่กลับไปผอมเหมือนเดิม อยากให้แม่สวยเหมือนในรูปถ่าย บีดูรูปตัวเองตอนผอม เห็นเสื้อผ้าตอนผอมแล้วเจ็บใจทุกครั้ง

3.มักถูกคนที่ไม่สนิทพูด ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ว่า อ้วนอย่างกับนางยักษ์, แลหล่มปรืออ้วนพันนั้น​, ทำไมเมียน้องอ้วนพันนั้นปรืออยู่พันนั้นแล้ว, อ้วนเพล็ดเพล็ด (ภาษาใต้)

4.เวลาไม่สบายไปโรงพยาบาล ตอนชั่งน้ำหนักและวัดความดัน พยาบาลพูดเสียงดัง ถามว่าคุณชั่งน้ำหนักหรือยัง? น้ำหนักคุณเท่าไหร่? ชั่งแล้วได้เท่าไหร่? คนไข้ก็อยู่เต็มไปหมด อายมากค่ะ เพราะทุกคนหันมามองกัน (หัวเราะ) และผลการวัดความดันของบี แทบจะทุกครั้งที่ไปโรงพยาบาล ความดันอยู่ที่ 150 และเคยสูงสุด 156 ทั้งหมอและพยาบาลบอกให้บีลดน้ำหนัก บีเริ่มกลัวเป็นโรคโน่นนี่นั่น อยากอยู่ลูกนานๆ ค่ะ

5.ตลอดเวลาที่บีอ้วนขึ้น จนลูกโต 6 ปีกว่า คุณสามีไม่เคยปริปากพูดแม้แต่คำเดียว ว่าให้บีลดน้ำหนัก ไม่เคยพูดบีอ้วนไปนะ หรือเรียกบีว่าไอ้อ้วน อีอ้วน คุณสามีไม่เคยปริปากพูด ไม่เคยเลยจริงๆ ขนาดบีกินเยอะ คุณสามียังไม่เคยห้ามการกินเลย แถมบอกหิวก็กินสิ อยากกินก็กิน คุณสามียังไม่รู้เลยว่าบีน้ำหนัก 90 กว่าโล ….. “บีกดดันตัวเองนะ” สุดท้ายก็ตั้งใจลดน้ำหนักอย่างจริงจังเลยค่ะ

“มีเป้าหมายแล้วต้องไปให้ถึง”

บีอยากกลับไปผอมเหมือนเดิมให้ได้ นั่นคือเป้าหมายของบี ปฏิญาณกับตัวเองว่าครั้งนี้ต้องทำให้ได้ ใจเกิน 100 เลยค่ะ น้ำหนักเริ่มต้นคือ 90.7 กก. น้ำหนักปัจจุบันตอนนี้ คือ 58 กก. น้ำหนักลดลงแล้ว 32.7 กก. ใช้เวลาในการลดน้ำหนักทั้งสิ้น 11 เดือนกว่า

สัดส่วนปัจจุบัน

อก 37.4″ จากเดิม 44″
เอววัดรอบสะดือ 28.2″ จากเดิม 40″
เอวบน วัดเหนือสะดือ 27.1″
สะโพก 36.2″ จากเดิม 43″
ต้นขา 21.7 จากเดิม 28″
สูง 167 ซม.

บีลดน้ำหนักครั้งนี้ด้วยตนเอง โดยไม่กินยาลดความอ้วน ไม่กินอาหารเสริมลดน้ำหนักใดๆ ทั้งสิ้น น้ำหนักลดจากการควบคุมอาหาร เลือกกิน70% และออกกำลังกาย30%

คนส่วนใหญ่รู้อยู่แล้วว่า การลดน้ำหนักที่ดีที่สุด คือการควบคุมอาหารการกิน และออกกำลังกาย “ฟังดูง่ายนะใครก็พูดได้ แต่มันทำยาก แล้วมันจะเริ่มจากตรงไหนก่อนล่ะ”

สำหรับตัวบีเอง ก่อนเริ่มลดน้ำหนัก 2 อาทิตย์ บีหาข้อมูลการกิน ใน Google ค้นหาว่าต้องกินยังไงถึงทำให้ น้ำหนักลดแบบสุขภาพดี บีหาความรู้ก่อนว่า กินให้ครบ 5 หมู่ ต้องกินอะไรบ้าง อาหารแต่ละอย่างอยู่ในหมู่ไหนบ้าง หาแคลอรี่อาหารแต่ละอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารที่ต้องลดต้องงด ต้องเลี่ยงอะไรบ้าง

เคล็ดลับหุ่นดี ของคุณแม่วัย 40

1.เรื่องอาหารการกินสำคัญมาก

อาหารส่วนใหญ่ทำเอง น้อยมากที่จะซื้อกิน บีจะเขียนเมนูอาหารที่กินไว้ล่วงหน้า 3-5 วัน ซื้อวัตถุดิบเตรียมไว้ เมนูที่เขียนไว้ล่วงหน้าบีจะคำนวณแคลอรี่ อาหารที่กินต่อวันไว้คร่าวๆ ว่าแต่ละเมนูประมาณกี่แคล ศึกษาได้จากใน Google และบีจะทำอาหารกินตามเมนูที่บีเขียนไว้

2. บีกินอาหารครบ 3 มื้อหลัก ไม่งดมื้อใดมื้อหนึ่ง

กินหนักมื้อเช้าและมื้อเที่ยง กินเบามื้อเย็น กินอาหารให้ตรงเวลา มื้อเช้า กินไม่เกิน 8.00 น. มื้อเที่ยง กินไม่เกิน 12.00 น. มื้อเย็น กินไม่เกิน 17.00 น.

โดยเฉพาะอาหารมื้อเย็น บีเน้นกินอาหารที่ย่อยง่าย ลดและเลี่ยงอาหารประเภทคาร์บ คุมแคลอรี่ไม่เกิน 250 แคล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาหารที่กินมาแล้ว 2 มื้อด้วยค่ะ ร่างกายของบีปรับตัวได้ตั้งแต่ 2 เดือนแรกเลย

3. คุมแคลอรี่ต่อวัน

กินให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ เลือกกิน สนใจในแคลอรี่อาหารสำเร็จรูป จะดูก่อนซื้อทุกครั้ง

4. อาหารบางอย่างต้อง ลด งด เลี่ยง 3 คำนี้ ท่องไว้

5. ลดอาหารประเภทคาร์บ

เน้นกินอาหารที่ให้โปรตีน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เน้นกินผักเยอะ กินผลไม้ ที่ไม่หวานมาก (ใช้หลักข้าว 1 ส่วน, เนื้อสัตว์ 1 ส่วน, ผัก 2 ส่วน)​

6. เลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันในการปรุงทุกชนิด

เมนูผัด ใช้น้ำเปล่าแทน กินอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ตุ๋น ยำ ปิ้งย่าง น้ำพริก เลี่ยงกะทิ เลิกกินผงชูรส เลิกกินอาหารรสเค็ม ไม่กินอาหารเผ็ดมาก ใส่เครื่องปรุงน้อยๆ งดขนมของหวาน งดน้ำอัดลม งดอาหารที่แคลอรี่สูง ไม่กินเนื้อสัตว์ติดมัน กินอาหารที่ย่อยง่าย งดอาหารขยะ อาหารฟาสฟู้ด

7. กินเยอะแบบแคลรี่ต่ำ ไม่กินน้อยแต่แคลอรี่สูง

8. ใจแข็งให้มาก ไม่ตามใจปาก ห้ามปากให้ได้

9. เข้านอนให้เร็ว พักผ่อนให้เพียงพอ หากหิวหลังมื้อเย็นหรือตอนกลางคืน พยายามเลือกกิน ต้องหาอะไรกินคะบีไม่ปล่อยให้หิวจนปวดท้อง

10. เลิกกินน้ำเย็น กินน้ำอุณหภูมิปกติ ตื่นนอนตอนเช้า ขณะท้องว่าง บีจะกินน้ำอุ่น 500-700 ml ก่อนกินอาหารแต่ละมื้อ กินน้ำเปล่าก่อน 1-2 แก้ว หลังจากกินอาหารเสร็จแต่ละมื้อกินน้ำเปล่า 1-2 แก้ว และกินน้ำให้ได้ต่อวัน 2-3 ลิตร

11. เลือกกินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล

ชอบความขม ความหอม กินแทบจะทุกวัน กาแฟส่วนใหญ่ที่กินจะเป็นกาแฟร้อน จะเลือกกินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล หากอยากกินกาแฟ 3in1 บีจะเลืกกาแฟ ที่บอกแคลอรี่ข้างซอง เวลาชงใส่กาแฟแค่ครึ่งซองเท่านั้นและเติมกาแฟเปล่าอีก 1 ช้อน ส่วนกาแฟเย็นจะเลี่ยงกินเลยค่ะ ถ้าอยากกินจริงๆ จะกินไม่ให้เกิน 2 แก้ว ต่อ 1 เดือน และบีจะเลือกกินกาแฟเย็นร้านประจำ เพราะบอกคนขายให้ลดส่วนผสมได้

12. หากต้องกินอาหารนอกบ้าน

ไปกินข้าวกับครอบครัวมีปาร์ตี้ กับเพื่อนฝูง บีจะกินทุกอย่าง จะไม่ทำตัวให้คนอื่นรำคาญว่าเราเรื่องมาก วันรุ่งขึ้นจะทำเมนูสุขภาพกินเหมือนเดิม รีบกู้ร่างพังหลังจากกินแหลกให้เร็วที่สุด

ตารางการออกกำลังกาย

บีเริ่มออกกำลังกายตั้งแต่บีลดน้ำหนักเลยค่ะ ควบคู่ไปกับการคุมอาหาร บีออกกำลังกาย ในปี 2561 เฉลี่ยสัปดาห์ละ 5-7 วัน และในปีนี้ 2562 เฉลี่ยสัปดาห์ละ 4-6วัน

ห้องออกกำลังกายเล็กๆที่บ้าน

บีไม่ได้เข้าฟิตเนสเพราะแถวบ้านไม่มีค่ะ และที่บ้านบีไม่มีเครื่องออกกำลังกาย ใช้ห้องเก็บของ ห้องเล็กๆ มีอุปกรณ์แค่ดัมเบลข้างละ 1.5 กก.เท่านั้น เน้นออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ไม่ได้วิ่ง ไม่ได้กระโดดตบ ไม่ได้กระโดดเชือก เพราะทำไม่ไหวค่ะ

ดูท่าออกกำลังกายจากเพจ facebook ใน YouTube ใน IG อยากลด อยากเบิร์นส่วนไหน ต้องทำท่าไหนบ้าง บีทำตามเลยค่ะ เลือกท่าที่ทำได้ ไม่ฝืนร่างกายตัวเอง บีจะใช้ดัมเบลเริ่มบริหารส่วนหลัง แขน หน้าอก ประมาณ 30-40 นาที ต่อมาบริหารส่วนหน้าท้อง เอว สะโพก ขา ตามลำดับ ใช้เวลาออกกำลังกายทั้งหมดประมาณ1ชม.-1.30 ชม.

ในแต่ละวันบีทำงานเปิดร้านขายของตั้งแต่เช้าถึงค่ำ เวลาที่สะดวกในการออกกำลังกายของบีคือ หลังสองทุ่ม ออกเสร็จรีบอาบน้ำนอนค่ะ

ผลที่ได้รับจากการลดน้ำหนักในครั้งนี้

บอกเลยว่าทึ่งมาก ผลลัพธ์ที่ได้มันดีเกินคาด ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ รักตัวเองมากขึ้น และพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเราเองทำได้ เอาชนะใจตัวเองได้ บีสามารถลดน้ำหนัก ด้วยการคุมอาหาร เลือกกินและออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ มีวินัย จริงจัง ก็ทำให้น้ำหนักลดแบบสุขภาพดีได้โดยไม่ต้อง กินยาลดน้ำหนัก หรืออาหารเสริมลดน้ำหนักใดๆทั้งสิ้น

ผอมได้ก็อ้วนได้ อ้วนได้ก็ผอมได้

เป็นนางยักษ์ก็เป็นนางฟ้าได้เหมือนกันค่ะ บีขอเอาใจช่วยทุกคนที่กำลังลดน้ำหนัก หรือคนที่คิดจะลดน้ำหนัก บีเข้าใจว่ามันยาก แต่เชื่อเถอะค่ะว่าทุกคนทำได้ ขอให้เอาชนะใจตัวเองให้ได้ บีทำได้ ทุกคนก็ทำได้ค่ะ

หากมีความตั้งใจ จริงจัง มีวินัย ทำให้จริง มีเป้าหมายก็ต้องไปให้ถึงค่ะ พยายามฮึดสู้สักครั้ง “จงศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง” รักตัวเองก่อนที่จะรักผู้อื่น และเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่หลังคลอดทุกคน อย่าท้อนะคะ อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว ผู้หญิงต้องไม่หยุดสวย ยิ่งอายุมากต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ท้อเหนื่อย หลุดเมื่อไหร่ลุกขึ้นให้เร็วที่สุด ไม่เครียด อย่ากดดันตัวเอง การลดน้ำหนักของบีไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นวิธีที่ถูกต้องทุกอย่าง แต่ทุกคนสามารถไปปรับใช้ได้ ปรับเปลี่ยนการกินใหม่ เลือกกิน ออกกำลังกายด้วยเพื่อสุขภาพที่ดี กินดีชีวิตเปลี่ยนนะคะ

สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย : Women MThai Team

ขอบคุณผู้หญิงสร้างแรงบันดาลใจ b90.7kg_mystories

บทความนี้ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้บนเว็บไซต์ MThai.com เท่านั้น

เมนูอาหารคลีนสไตล์สาวใต้ >> คลิก


เคยอ้วนมาก่อน แต่เพราะอะไร ซีแนม AF ถึงได้ผอม หุ่นเป๊ะขนาดนี้นะ?