กลิ่นอับ กลิ่นเหงื่อ กลิ่นเหงื่อบนผ้า กลิ่นเหงื่อบนเสื้อผ้า ตากผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม

แม่บ้านต้องรู้ 5 วิธีสยบ กลิ่นเหงื่อบนเสื้อผ้า ให้หอม ไม่เหม็นอับ

แค่ก้าวออกจากบ้าน เหงื่อก็ออกจนเสื้อชุ่มเหงื่อ แล้วแม่บ้านอย่างเราก็ต้องมาตามซักเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับ แม้จะเอาไปตากแล้วก็ยังไม่ค่อยหอม เลยขอแนะนำ 5 วิธีง่ายๆ แก้ไขปัญหา กลิ่นเหงื่อบนเสื้อผ้า มาฝากกันค่ะ Step 1: ยิ่งหมก ยิ่งเหม็น หลังจากผ่านศึกซกเหงื่อมาทั้งวัน…

Home / แฟชั่น / แม่บ้านต้องรู้ 5 วิธีสยบ กลิ่นเหงื่อบนเสื้อผ้า ให้หอม ไม่เหม็นอับ

แค่ก้าวออกจากบ้าน เหงื่อก็ออกจนเสื้อชุ่มเหงื่อ แล้วแม่บ้านอย่างเราก็ต้องมาตามซักเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับ แม้จะเอาไปตากแล้วก็ยังไม่ค่อยหอม เลยขอแนะนำ 5 วิธีง่ายๆ แก้ไขปัญหา กลิ่นเหงื่อบนเสื้อผ้า มาฝากกันค่ะ

Step 1: ยิ่งหมก ยิ่งเหม็น

หลังจากผ่านศึกซกเหงื่อมาทั้งวัน กลับถึงบ้านปุ๊บ ห้ามโยนเสื้อลงตะกร้าทันทีนะ!! ควรผึ่งเสื้อให้แห้งก่อนโยนลงตะกร้า เพราะการหมกเสื้อเปียกเหงื่อในตะกร้าไว้นานๆ ทำให้สิ่งสกปรกและคราบเหงื่อต่างๆ ถูกหมักหมม ก่อให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรีย สาเหตุของกลิ่นเหม็นอับอบอวลชวนเวียนหัวที่บางครั้งซักแล้วกลิ่นก็ยังอยู่


AJ เครื่องอบผ้า รุ่น CD-001

เครื่องอบผ้า แบรนด์ AJ ช่วยให้เสื้อผ้าแห้งเร็วทันใจ หมดปัญหาผ้าเปียกชื้น มีกลิ่นอับ ตากผ้าได้ทุกที่ทุกเวลา แม้วันไร้แดด

ราคา 3,780 บาท


Step 2: แช่ผ้าช่วยได้

ก่อนซักเสื้อที่เคยชุ่มไปด้วยเหงื่อ ให้ลองนำมาแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำซึมเข้าสู่เส้นใยผ้าอย่างทั่วถึง ก่อนขยี้เบาๆ บิดผ้าหมาดๆ แล้วจึงนำผ้าไปซักจริงอีกรอบตามขั้นตอนปกติ วิธีนี้จะช่วยให้คราบเหงื่อไคลและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนผ้าหลุดออกไปบางส่วน ทำให้การซักเสื้อผ้าสะอาดขึ้นอีกระดับ

Step 3: เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ถูกโฉลกกับเสื้อเหม็นเหงื่อ

ตัวช่วยเพิ่มความหอมในการซักผ้าของทุกบ้าน คงหนีไม่พ้นน้ำยาปรับผ้านุ่ม หากอยากให้เสื้อที่ซกเหงื่อยังคงความหอม ควรเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีเทคโนโลยีกำจัดกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้าโดยเฉพาะ

Step 4: แค่ตากผ้าถูกวิธีก็รอดจากกลิ่นอับ

เลิกนิสัยทิ้งผ้าที่ซักเสร็จแล้วไว้ในเครื่องนานๆ กันเถอะหนา เพราะบางครั้งเจ้าแบคทีเรียที่ยังเหลือค้างบนผ้าและในถังซัก จะร่วมมือกันสร้างกลิ่นอับฝั่งลึกไปอีกนาน ดังนั้นพอซักผ้าเสร็จให้รีบนำมาตากแดดทันที หากต้องตากในที่ร่ม ควรเป็นที่ที่มีลมโกรก เปิดพัดลมเป่าให้พลังลมช่วยพัดความชื้นออกจากผ้าอีกแรงก็ได้ จะได้ไม่อับ แถมแห้งเร็วอีกด้วย

Step 5: เก็บผ้าให้ดี กลิ่นอับไม่มา

เก็บผ้าที่ตากไว้เมื่อมั่นใจว่าแห้งสนิทแล้วเท่านั้นจึงค่อยพับเก็บ หากเสื้อที่ต้องรีดให้เรียบ หลังจากทำการรีดเรียบร้อยแล้วควรแขวนผึ่งลมไว้สักครู่ เพื่อให้ไอน้ำหรือสเปร์ยรีดผ้าเรียบระเหยออกจากผ้าให้แห้งก่อนแล้วค่อยเก็บใส่ตู้ ที่สำคัญควรเลือกตู้เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ปริมาณเสื้อผ้าในตู้มีความพอดี ไม่หนาแน่น และตั้งอยู่ห่างจากห้องน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นที่อาจทำให้เกิดเชื้อรา หนึ่งในสาเหตุของกลิ่นอับบนผ้า

ข้อมูลจาก Downy Sports (ดาวน์นี่ สปอร์ต)