กิน เที่ยว ไหว้พระ ที่อ่างทอง เมืองรองที่อยากให้มาลองด้วยตัวเอง

อ่างทอง จังหวัดที่ใครหลายคนคุ้นชื่อกันดีแต่ยังชอบมองผ่านและคิดว่าไม่มีที่เที่ยวมากนัก ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เอง แต่รู้ไหมว่าอ่างทองเป็นหนึ่งในเมืองรองที่ไม่ควรมองข้าม เพราะที่ีนี่มีอะไรเด็ดๆ ให้ทำอีกเพียบ เรียกว่ามาวันเดียวยังเที่ยวไม่หมด ทั้งไหว้พระทำบุญ คาเฟ่วิวท้องนา มีมุมถ่ายรูปสวยๆ แถมตลาดโบราณก็น่าเดิน ถ้าไม่มาลองด้วยตัวเองก็ไม่มีวันเข้าใจ โดยในงาน “amazing…

Home / อ่างทอง / กิน เที่ยว ไหว้พระ ที่อ่างทอง เมืองรองที่อยากให้มาลองด้วยตัวเอง

อ่างทอง จังหวัดที่ใครหลายคนคุ้นชื่อกันดีแต่ยังชอบมองผ่านและคิดว่าไม่มีที่เที่ยวมากนัก ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เอง แต่รู้ไหมว่าอ่างทองเป็นหนึ่งในเมืองรองที่ไม่ควรมองข้าม เพราะที่ีนี่มีอะไรเด็ดๆ ให้ทำอีกเพียบ เรียกว่ามาวันเดียวยังเที่ยวไม่หมด ทั้งไหว้พระทำบุญ คาเฟ่วิวท้องนา มีมุมถ่ายรูปสวยๆ แถมตลาดโบราณก็น่าเดิน ถ้าไม่มาลองด้วยตัวเองก็ไม่มีวันเข้าใจ

โดยในงาน “amazing ไทยเท่ อ่างทองต้องลองเอง” เมื่อวันที่ 10 -11 ตุลาคม ที่ผ่านมา คุณภราดร ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง ได้กล่าวเชิญชวนมาเที่ยวจังหวัดอ่างทองว่า “เชิญชวนพี่น้องจากทุกจังหวัดทั่วประเทศมาร่วมกันเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดอ่างทอง มีหลากหลายกิจกรรม มีหลากหลายสถานที่ที่เป็นสถานที่ที่น่าสนใจ คือวัดขุนอินทร์ วัดม่วง และยังมีสถานที่ต่างๆ ที่เป็นการท่องเที่ยวแนวใหม่ให้พวกเราค้นหา เพราะฉะนั้นเชิญชวนเที่ยวที่อ่างทอง เที่ยวที่เมืองไทยครับ” ได้ยินแบบนี้จะขอตามไปเก็บส่วนหนึ่งของวัดที่คุณภราดรได้กล่าวถึง

คุณภราดร ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง

1. วัดม่วง

วัดม่วง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่าพระใหญ่ เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งถ้าได้แวะมาที่วัดม่วงแห่งนี้ จะมีความเชื่อกันว่าหากใช้ 2 มือ สัมผัสที่ปลายนิ้วกลางของหลวงพ่อ แล้วตั้งจิตอธิษฐานในเรื่องหน้าที่การงานจะสมหวังตามปรารถนาได้ดีที่สุด

2. วัดขุนอินทประมู

หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย และวัดแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระนอนที่ยาวเป็นอันดับสองในประเทศไทย รองจากพระนอน วัดบางพลีใหญ่กลาง จังหวัดสมุทรปราการ เดิมพระพุทธไสยาสน์องค์นี้ประดิษฐานอยู่ในวิหาร แต่ในอดีตถูกไฟไหม้ไปหมด จึงเหลือเพียงพระนอนอยู่กลางแจ้งเท่านั้น ซึ่งองค์พระมีพระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็น น่าเลื่อมใสศรัทธา

3. วัดป่าโมกวรวิหาร

วัดแห่งนี้มีพระพุทธไสยาสน์ ที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดองค์หนึ่งของไทย ตัวองค์พระก่ออิฐถือปูนปิดทอง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย มีตำนานเล่าต่อกันมาว่า เมื่อครั้งที่อหิวาตกโรคระบาดหนัก ชาวบ้านได้ยินเสียงบอกวิธีรักษาจากองค์พระ จึงเรียกพระนอนองค์นี้ว่าพระนอนพูดได้ และเป็นศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านตั้งแต่นั้น ผู้คนจึงนิยมมากราบไหว้ขอพรเรื่องสุขภาพ ให้แข็งแรงและปราศจากโรคภัย

4. วัดจันทรังษี

วัดเก่าแก่ ที่ได้ไปแล้วจะรู้สึกสงบร่มรื่น เพราะมีการจัดสวนประดับประดาด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อย่างสวยงาม ผู้คนนิยมมาไหว้สะกการะรูปหล่อหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (หลวงพ่อสด จันทสโร) องค์ใหญ่สุดในโลกหล่อด้วยโลหะสีทองอร่าม ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง 6 เมตร 9 นิ้ว สูง 9 เมตร 9 นิ้ว  ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวัดมีวิหารจัตุรมุขมียอดบุษบกกลาง 5 ชั้น สูง 48 เมตร กว้าง 24 เมตร ยาว 33 เมตร โดยมีสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามที่บ่งบอกถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในจังหวัดอ่างทอง

5. วัดสี่ร้อย

ที่ชื่อว่า “วัดสี่ร้อย” เพราะ สันนิษฐานจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้ก่ว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ขุนรองปลัดชูและชาวบ้านวิเศษชัยชาญ 400 คน ที่เสียชีวิตจากสงครามระหว่างไทยกับพม่าในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา โดยตัววัดตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย คาดว่ามีอายุประมาณ 200 ปี

6. วัดไชโย

วัดไชโยวรวิหารหรือวัดเกษไชโย เป็นที่ประดิษฐานของพระมหาพุทธพิมพ์ หรือ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวอ่างทองให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตัก 8 วา 7 นิ้ว ด้วยฝีพระหัตถ์ของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐ์วรการ มีพุทธลักษณะที่โดดเด่นกว่ายุคสมัยที่ไม่ยึดแนวอุดมคติตายตัว พระพักตร์และพระกรรณจึงเหมือนคนธรรมดามากกว่า มีริ้วรอยย่นของ สบง จีวร ชัดเจน โดยชาวอ่างทองว่ากันว่าผู้ที่ก่อกรรมทำชั่วไว้มากจะไม่สามารถเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อโตได้ เนื่องจากเมื่อเข้าใกล้องค์พระ จะมองเห็นหลวงพ่อโต กำลังจะล้มลงมาทับ