รอบรู้เรื่องสีทาภายในคืออะไร มีกี่ประเภท

สีทาภายใน เป็นสีที่ใช้สำหรับการทาภายในห้องต่าง ๆ ของตัวบ้าน ควรมีคุณสมบัติที่ป้องกันการเกิดเชื้อราได้ ไม่มีกลิ่นฉุน และปลอดภัยต่อผู้อาศัย การเลือกสีทาภายในสำหรับห้องต่าง ๆ ในบ้านให้ได้อย่างคุ้มค่า นอกจากเลือกสีที่ต้องการแล้ว ควรคำนึงถึงการเลือกชนิดของฟิล์มสีให้เหมาะสม รวมถึงคุณสมบัติของเนื้อสีที่มีความทนทานและปลอดภัยสูง ก็จะทำให้ได้ห้องที่ทาสีภายในใหม่ได้อย่างมีสีสันงดงามได้ รู้จักกับสีทาภายใน…

Home / PR NEWS / รอบรู้เรื่องสีทาภายในคืออะไร มีกี่ประเภท

สีทาภายใน เป็นสีที่ใช้สำหรับการทาภายในห้องต่าง ๆ ของตัวบ้าน ควรมีคุณสมบัติที่ป้องกันการเกิดเชื้อราได้ ไม่มีกลิ่นฉุน และปลอดภัยต่อผู้อาศัย

การเลือกสีทาภายในสำหรับห้องต่าง ๆ ในบ้านให้ได้อย่างคุ้มค่า นอกจากเลือกสีที่ต้องการแล้ว ควรคำนึงถึงการเลือกชนิดของฟิล์มสีให้เหมาะสม รวมถึงคุณสมบัติของเนื้อสีที่มีความทนทานและปลอดภัยสูง ก็จะทำให้ได้ห้องที่ทาสีภายในใหม่ได้อย่างมีสีสันงดงามได้

รู้จักกับสีทาภายใน

สีทาภายในเป็นสีที่ใช้ทาทับหน้าพื้นผิว หลังจากการลงสีทารองพื้นเสร็จ โดยการทาสีภายในสำหรับการทาผนังภายในบ้าน ฝ้าเพดาน เพื่อให้พื้นผิวมีสีตามที่ต้องการ โดยมีส่วนประกอบของอะคริลิคในปริมาณมาก จึงทำให้เนื้อสีมีความละเอียดและนุ่มนวล แม้จะไม่ได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมนอกบ้านสักเท่าไหร่

สีทาภายใน แบ่งออกเป็น 6 ประเภท

1.เนื้อสีด้านแบบ Matte

คือเนื้อสีด้านแบบ Matte ที่มีผิวสัมผัสที่คล้ายคลึงกับเนื้อสีด้านแบบ Flat แต่จะมีความแตกต่างกันตรงที่ เนื้อสีด้านแบบ Matte มีความลื่น ราบเรียบมากกว่า สะท้อนแสงน้อย เหมาะกับการทาสีบริเวณเพดานสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน ด้วยความที่สีลักษณะนี้เป็นสีแบบด้าน จึงทำให้เลอะเทอะง่าย ไม่เหมาะกับบริเวณที่ใช้งานบ่อยอย่างห้องครัว หรือ ห้องน้ำ

2.เนื้อสีด้านแบบ Flat 

เนื้อสีด้านแบบ Flat หรือเนื้อสีที่ให้ผิวสัมผัสแบบเรียบไม่มีเงา ไม่สะท้อนแสง เหมาะกับงานในบริเวณเพดาน พื้นที่ที่ไม่ค่อยได้มีการใช้งาน ด้วยเนื้อสีที่เรียบนี้ มีข้อดีคือช่วยปกปิดข้อบกพร่องได้ดี ไม่ทำให้เกิดแสงสะท้อนที่อาจทำให้เคืองตาได้ ส่วนข้อเสียคือ สีด้านแบบ Matte นี้จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะในการทำความสะอาด เนื่องจากเป็นพื้นผิวที่ดักจับฝุ่นได้ง่าย และทำความสะอาดได้ยากกว่า

3.เนื้อสีแบบ Satin

เนื้อสีแบบ Satin จะมีความมันเงากว่าแต่จะไม่มันวาวเท่าสีชนิดกึ่งเงา โดยผิวสัมผัสที่ได้คือพื้นผิวที่มีความอ่อนนุ่ม ข้อดีคือทำความสะอาดได้ง่าย สีชนิดนี้เหมาะกับห้องที่มีกิจกรรมบ่อย เช่น ห้องเด็กเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ ซึ่งสีแบบซาตินนี้ สามารถดูดซับความชื้นได้ดี และป้องกันคราบเชื้อรา คราบสกปรกได้

4.เนื้อสีแบบ Eggshell

สีแบบเปลือกไข่เป็นชนิดสีที่ไม่มันวาว มีความหม่น เหมือนเปลือกไข่ตามชื่อสี แต่มีความมันวาวกว่าสีแบบ Flat อยู่บ้าง เป็นสีที่ทำความสะอาดได้ง่ายเพียงใช้ผ้าชุบน้ำสะอาด เหมาะสำหรับบริเวณที่มีการใช้งานมาก อย่างเช่นห้องครัว ห้องน้ำ รวมถึงในออฟฟิศ

5.เนื้อสีแบบมันเงา

สีแบบมันเงา หรือสี Gloss เป็นสีที่มีความทนทานให้ผลลัพธ์แบบมันเงา และสะท้อนแสงได้มากที่สุด มีข้อดีคือเพียงเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับพื้นที่ที่ใช้งานบ่อย ใช้กับการทาขอบประตู หน้าต่าง ห้องน้ำ ห้องครัว 

6.เนื้อสีแบบกึ่งเงา Semi-Gloss

สีแบบกึ่งเงาเป็นสีที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการทา เนื้อสีมีลักษณะมีความเงาเพียงเล็กน้อย เพราะลักษณะสีจะสะท้อนแสงเมื่อแห้ง จึงต้องอาศัยความประณีตในการทาสีบริเวณที่มีร่องรอย รอยร้าว อย่างดี เพราะจะทำให้เห็นเด่นชัดขึ้นไปอีก แต่มีข้อดีคือสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับการทาห้องนอนเด็ก

คุณสมบัติของสีทาภายในที่ต้องมี

  • สีทาภายในไม่ควรมีกลิ่น หรือถ้ามีควรเป็นกลิ่นอ่อน ๆ และปราศจากสารเคมี เพื่อช่วยลดการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ และความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย เมื่อคนอาศัยในบ้านแล้ว 
  • สีทาภายใน ที่ดีควรกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียได้
  • สามารถเช็ดล้างสีทาภายในได้บ่อยครั้ง โดยสีไม่หลุดลอก หรือจางลงง่าย ๆ

เมื่อรอบรู้เรื่องสีทาภายในกันแล้ว ก็อย่าลืมว่านอกจากจะเลือกสีที่ถูกใจแล้ว ต้องเลือกสีที่ได้คุณภาพสูง และที่สำคัญต้องมีความปลอดภัยต่อผู้อาศัยเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน เพราะคุณยังต้องอาศัยกับห้องต่าง ๆ ไปอีกนานแสนนาน สุขภาพของผู้อาศัยจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเสมอ