สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมประเภทไหน สายพานถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญ ทำหน้าที่ในการลำเลียงสินค้าภายในโรงงาน จากไลน์การผลิตไปจนถึงการบรรจุสินค้า ซึ่งสายพานที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปจะเป็นสายพาน PVC กับสายพาน PU ที่สามารถลำเลียงวัสดุได้หลากหลายประเภท รวมถึงอาหารที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว แต่ระหว่างสายพาน PVC กับสายพาน PU เราจะเลือกแบบไหนดีถึงจะเหมาะสมกับไลน์การผลิตของเรา
รู้จักสายพาน PVC และสายพาน PU
สายพาน PVC และสายพาน PU ทั้งสองประเภทเป็นสายพานลำเลียงที่ใช้ในอุตสาหกรรมขนาดเบา ในโรงงานทั่วไป ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมปกติ แต่จะแตกต่างกันที่คุณสมบัติการใช้งาน ซึ่งเราจะต้องเลือกให้เหมาะกับสินค้า
สายพาน PVC เป็นสายพานที่เคลือบด้วย Poly Vinyl Chloride ทนความร้อนได้ค่อนข้างต่ำ จึงมักจะใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าทั่วๆ ไป อย่างเครื่องสำอาง อาหาร หรือสินค้าที่มีน้ำหนักไม่มาก โดยมีจำหน่ายหลากหลายรุ่นและรูปแบบ ทั้งแบบผิวเรียบและผิวไม่เรียบ และแบบที่ติด Cleat เป็นบล็อกๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการลำเลียงสินค้าให้สามารถลำเลียงได้ทั้งแนวราบและแนวลาดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีแบบ Food Grade สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอาหารอีกด้วย
สายพาน PU เป็นสายพานที่เคลือบด้วย Poly Urethane สามารถทนความร้อนได้สูงกว่าสายพาน PVC คือ สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 100 องศาเซลเซียส และมีพื้นผิวที่ลื่นกว่า ทำให้สามารถลำเลียงสินค้าได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งสายพาน PU มีให้เลือกมากมายหลายรุ่นเช่นเดียวกัน มีทั้งแบบผิวเรียบและผิวไม่เรียบ และแบบที่ติด Cleat เช่นเดียวกับสายพาน PVC
เลือกสายพานให้เหมาะสมกับไลน์การผลิต
แม้ว่าสายพานทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน และมีจำนวนรุ่นให้เลือกมากมายเช่นเดียวกัน แต่สำหรับเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ
หากพิจารณาคุณสมบัติของสายพาน PVC และสายพาน PU หลายคนอาจจะรู้สึกว่าการใช้สายพาน PU จะดีกว่า แต่นั่นก็นำมาซึ่งต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากว่าสินค้าที่เราต้องการลำเลียงมีน้ำหนักเบา และไม่ได้มีการเสียดสีระหว่างการลำเลียงมากนัก การใช้สายพาน PVC ก็เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้อย่างมาก
ในทางกลับกัน หากว่าสินค้าของเราเป็นของที่มีน้ำหนัก สร้างแรงเสียดสีและความร้อนระหว่างที่ลำเลียง การเลือกสายพาน PU ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากกว่า เพราะแม้จะจ่ายแพงกว่า แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดซ่อมบำรุงบ่อยจนเกินพอดี
สำหรับเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกสายพาย PVC หรือ PU ดี อย่าลืมพิจารณาที่ตัวสินค้าและอุตสาหกรรมของเราเป็นสำคัญ หรือลองปรึกษาผู้จัดจำหน่ายสายพาน เพื่อให้เราได้ของที่เหมาะสม และคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป
