ก้อย นัชชา มีบุตรยาก โคเอนไซม์ คิวเทน

ท้องยาก อายุเกิน 35 ปี ต้องรู้! งานวิจัยเผย โคเอนไซม์ คิวเทน ช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ไข่

โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10) หรือ โคคิวเท็น (CoQ10) คือ สารที่มีคุณสมบัติคล้ายกับวิตามินซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองในปริมาณหนึ่ง แต่เมื่ออายุมากขึ้นระดับของ โคเอนไซม์คิวเทนจะลดลง

Home / PR NEWS / ท้องยาก อายุเกิน 35 ปี ต้องรู้! งานวิจัยเผย โคเอนไซม์ คิวเทน ช่วยชะลอความแก่ของเซลล์ไข่

โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10) หรือ โคคิวเท็น (CoQ10) คือ สารที่มีคุณสมบัติคล้ายกับวิตามินซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองในปริมาณหนึ่ง แต่เมื่ออายุมากขึ้นระดับของ โคเอนไซม์คิวเทนจะลดลง โดย โคเอนไซม์ คิวเทน ทำหน้าที่กระตุ้นการผลิตพลังงานของเซลล์ โดยเข้าไปกระตุ้นให้ ไมโทคอนเดรีย (Mitochondrial) ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานไฟฟ้าที่คอยผลิตพลังงานให้กับเซลล์ต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยสร้างพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย โดยพบโคเอนไซม์ คิวเทน ได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต และถูกพบมากในอวัยวะที่ทำงานหนักตลอดเวลา หรือ เป็นเซลล์ขนาดใหญ่ ที่ต้องการพลังงานสูง ซึ่งจะมีจำนวนไมโทคอนเดรียมาก เช่น หัวใจ ตับ กล้ามเนื้อ สมอง และเซลล์สืบพันธุ์ และนอกจากนี้ โคเอนไซม์ คิวเทน ยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากอีกตัวนึง ส่งผลช่วยในการชะลอวัย

โดย ครูก้อย นัชชา ได้อ้างอิงการศึกษางานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility เมื่อปี 2009 พบว่า Coenzyme Q10 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของรังไข่ ทำให้ไข่มีคุณภาพมากขึ้น โดยงานวิจัยได้ทำการทดลองในหนูที่มีอายุมากที่ได้รับโคเอนไซม์ คิวเทน ผลลัพธ์ที่ได้คือ เซลล์ไข่ของหนูในห้องทดลองมีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งการทาน โคเอนไซม์ คิวเทน อาจช่วยเพิ่มคุณภาพของเซลล์ไข่ของผู้หญิงที่มีอายุมากได้อย่างมีนัยสำคัญ

หลังจากนั้นในปี 2015 มีงานวิจัยอีกฉบับหนึ่งได้ทำการศึกษากับมนุษย์ เกี่ยวกับ Restore oocyte mitochondrial function เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการช่วยฟื้นฟูการทำงานไมโทคอนเดรียของเซลล์ไข่ ซึ่งงานวิจัยฉบับนี้ชื่อว่า Coenzyme Q10 restores oocyte mitochondrial function and fertility during reproductive aging ทำการศึกษาในกลุ่มผู้หญิงที่อยู่ในภาวะเจริญพันธุ์ ตีพิมพ์ในวารสาร Aging Cell เมื่อปี 2015 เป็นการศึกษาของอเมริกาและแคนนาดา พบว่า การที่อายุมากขึ้นส่งผลให้ไมโทคอนเดรียทำงานได้น้อยลง อันเนื่องมาจากขาด โคเอนไซม์ คิวเทน ที่ไม่เพียงพอ ส่งผลต่อคุณภาพของเซลล์ไข่ ไข่เสื่อมลง และส่งผลต่อภาวะมีบุตรยาก

นอกจากนี้ยังมีวิจัยอีกฉบับหนึ่งที่ทำการวิจัยในมนุษย์ก่อนเข้าสู่กระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว โดยได้ทำการทดลองกับกลุ่มผู้หญิงที่มีประสิทธิภาพการตอบสนองรังไข่ไม่ค่อยดี เป็นงานวิจัยจากประเทศจีน ตีพิมพ์ในวารสาร Reproductive Biology and Endocrinology เมื่อปี 2018 ได้ทำการวิจัยในกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี ที่มีภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย โดยให้ทาน โคเอนไซม์ คิวเทน 60 วัน ล่วงหน้าก่อนที่จะไปเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ พบว่า ผู้หญิงที่ได้รับ โคเอนไซม์ คิวเทน มีการใช้ฮอร์โมนในการกระตุ้นที่น้อยลง ช่วยให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มสูงขึ้น ช่วยทำให้ไข่สุก และยังได้จำนวนการเก็บไข่เพิ่มมากขึ้น มีอัตราการปฏิสนธิสูงขึ้น อีกทั้งยังมีสถิติการตั้งครรภ์สูงขึ้นจากการย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกอีกด้วย

และล่าสุดมีงานวิจัยอีกเรื่องหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Fertility and Sterility เมื่อปี 2020 ได้ทำการวิจัยในผู้หญิงอายุมาก (อายุ 38-46 ปี) พบว่า การรับประทาน Q10 ช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์ไข่ รวมถึงช่วยลดอัตราการแบ่งเซลล์และโครโมโซมผิดปกติของเซลล์ไข่อีกด้วย โดยจากการศึกษาพบกว่า ผู้หญิงอายุ 38-46 ปี ที่ได้รับโคเอนไซม์ คิวเทน จะพบอัตราไข่สุก 83 % มากกว่าผู้หญิงอายุ 38-46 ปี ที่ไม่ได้รับ โคเอนไซม์ คิวเทน ที่พบอัตราไข่สุกเพียง 63 % แต่สำหรับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า 30 ปี เปรียบเทียบกลุ่มที่ได้รับโคเอนไซม์ คิวเทน และไม่ได้รับโคเอนไซม์ คิวเทน ไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน

จากการรวบรวมการศึกษางานวิจัย ครูก้อย นัชชา ได้ให้ข้อสรุปว่า โคเอนไซม์ คิวเทน ช่วยทำให้คุณภาพของเซลล์ไข่ดีขึ้นได้ และพบว่า อัตราการตั้งครรภ์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ควรได้รับ โคเอนไซม์ คิวเทน เสริมเข้าไป ไม่ต่ำกว่า 30 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อบำรุงร่างกายหรือฟื้นฟูสภาพเซลล์โดยไม่ควรรับประทานเกิน 100 มก.ต่อวัน

ดังนั้น โคเอนไซม์ คิวเทน จึงเป็นหนึ่งในวิตามินที่ผู้หญิงวางแผนตั้งครรภ์ควรรับประทานให้เพียงพอ ควบคู่กับการทานโฟลิกที่ผู้หญิงเตรียมตั้งครรภ์ทุกคนต้องทานล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อเสริมสร้างการพัฒนาของตัวอ่อนอย่างสมบูรณ์ ลดอัตราทารกพิการแต่กำเนิด และเสริมด้วยโคเอนไซม์ คิวเทน เพราะจะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ไข่ปฏิสนธิได้สมบูรณ์ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ไข่ ช่วยให้เซลล์ไข่สามารถแบ่งเซลล์ได้เป็นปกติ กลายเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์ ฝังตัวเป็นครรภ์ที่แข็งแรงต่อไป ควบคู่กับกับวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆให้ครบถ้วน และต้องทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการครบ 5 หมู่ โดยเน้นอาหาร 70% วิตามิน 30% โดยสามารถศึกษารายละเอียด “คัมภีร์อาหารที่คนอยากท้องต้องกิน” ได้ที่ https://www.babyandmom.co.th/คัมภีร์อาหาร-ที่คนอยากท/ หรือสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิตามินเตรียมตั้งครรภ์ได้ที่ https://www.babyandmom.co.th/ovaall/

หรือสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ งานวิจัยเผย วางแผนท้องต้องทาน Co Q10 ช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์ไข่ได้ใน รายการ Research Talk โดย ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ ผู้ก่อตั้งเพจ Babyandmom.co.th ยืนหนึ่งในใจผู้มีบุตรยาก ได้ที่ https://youtu.be/0uv67Ma6qIQ