Mazda Mazda BT-50 กระบะมาสด้า มาสด้า มาสด้า บีที-50

Mazda อวดโฉมปิกอัพ BT-50 จากประเทศไทย ณ เมืองฮิโรชิมา

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จัดแสดง All-new Mazda BT-50 จากประเทศไทยด้วยฝีมือของคนไทย ที่สำนักงานใหญ่ในเมืองฮิโรชิม่า

Home / PR NEWS / Mazda อวดโฉมปิกอัพ BT-50 จากประเทศไทย ณ เมืองฮิโรชิมา

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จัดแสดงรถปิกอัพรุ่นปัจุบัน All-new Mazda BT-50 ส่งไปจากประเทศไทยด้วยฝีมือของคนไทย ที่ผสานความงดงามของการออกแบบตามแนวคิด “Kodo Design” ผนวกกับสไตล์การออกแบบที่เรียบง่ายแต่งดงาม ผสานความแข็งแกร่งจากรูปลักษณ์อันทรงพลังสไตล์รถปิกอัพไปอวดโฉมความสง่างามให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาผู้คนทั่วโลก ณ เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น

Mazda BT-50

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การที่บริษัทแม่ได้นำรถปิกอัพ บีที-50 ไปจัดแสดงอวดโฉม ณ สำนักงานใหญ่ในเมืองฮิโรชิม่า เพื่อให้พนักงาน พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า และชาวญี่ปุ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนได้มีโอกาสสัมผัสถึงความสง่างามที่ถูกผลิตขึ้นจากฝีมือคนไทย เนื่องจากสำนักงานใหญ่มาสด้า ถือเป็นจุดเช็คอินเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่ต่างหลั่งไหลเดินทางมาเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตและชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงรถยนต์มาสด้า และเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมาสด้าตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน

Mazda BT-50

โดย บีที-50 ถูกจัดแสดงคู่กับรถแข่งมาสด้า 787B ร่วมกับรถยนต์มาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่สำคัญเนื่องโอกาสครบรอบ 30 ปี ของการชนะเลิศการแข่งขันรายการ เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง หรือการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบสุดหฤโหดในปี 1991 อันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของมาสด้าและเป็นต้นกำเนิดของฮิโรชิม่าสปิริตที่ชาวมาสด้าภาคภูมิใจ และปิกอัพ บีที-50 คือผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจของชาวมาสด้าทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่น

รถปิกอัพ ALL-NEW MAZDA BT-50 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล B-Series ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1961 โดยใช้ชื่อว่า B1500 ซึ่งได้ถูกพัฒนาปรับโฉมมาแล้วถึง 9 เจนฯ จนถึงปัจจุบัน และได้วางจำหน่ายในหลายภูมิภาคหลักทั่วโลก ทั้งในกลุ่มประเทศในแถบโอเชียเนีย อาเซียน อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมถึงในประเทศไทย

Mazda BT-50

อย่างไรก็ตาม ปิกอัพรุ่นนี้ไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น การจัดแสดงครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ลูกค้าชาวญี่ปุ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทุกสารทิศทั่วโลกจะได้มีโอกาสสัมผัสถึงความสง่างามที่แฝงไว้ด้วยพลัง ซึ่งมีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจและเข้าชมอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องในโอกาสของการครบรอบ 30 ปี ของการชนะเลิศการแข่งขันรายการ เลอ มังส์ 24 ชั่วโมง ในปี 1991 ณ ประเทศฝรั่งเศส มาสด้ายังได้จัดทำเว็บไซต์ขึ้นมาพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าและผู้ที่รักความเร็วได้ทราบประวัติความเป็นมาในการแข่งขันเพื่อประลองความเร็วของมาสด้า อันมีต้นกำเนิดมาจากเครื่องยนต์โรตารีที่ทำให้มาสด้าฟันฝ่าอุปสรรคจากการแข่งขันจนได้รับชัยชนะมาครองได้ในที่สุด ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของมาสด้าและชาวญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้

ผู้ที่สนใจสามารถอ่านข้อมูลได้ที่ https://www.mazda.com/en/innovation/lemans30th/