volvo Volvo Certified Damage Repair Centre วอลโว่ ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี ศูนย์บริการรถยนต์

Volvo Certified Damage Repair Centre ยกระดับมาตรฐานซ่อมตัวถัง – สี ครบวงจร

วอลโว่ ยกระดับมาตรฐานศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีแบบครบวงจร การันตีรถยนต์หลังซ่อมด้วยประสิทธิภาพเต็มร้อยเหมือนเพิ่งออกจากโรงงานให้คุณอุ่นใจตลอดเส้นทาง

Home / PR NEWS / Volvo Certified Damage Repair Centre ยกระดับมาตรฐานซ่อมตัวถัง – สี ครบวงจร

วอลโว่ (VOLVO) แบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียมสัญชาติสวีดิช เปิดตัวศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน “Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” มอบความอุ่นใจด้วยบริการซ่อมตัวถังและสี บนมาตรฐานระดับสากลจากศูนย์บริการวอลโว่ เพื่อให้คุณได้รถยนต์หลังซ่อม มีสมรรถนะดีเยี่ยมเหมือนวันแรกที่ถอยจากโรงงาน และสามารถขับขี่รถยนต์วอลโว่ด้วยคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดอายุการใช้งานอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR ยังดำเนินงานบนพื้นฐานแนวคิดความยั่งยืนอย่างเข้มงวดตามหลักปรัชญาด้านสิ่งแวดล้อมที่วอลโว่ยึดมั่นมาโดยตลอด

มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยปรัชญาที่กำหนดให้ประสบการณ์ลูกค้าเป็นศูนย์กลางการทำงานของเรา (Customer Experience is The Core of Everything We Do) วอลโว่จึงมุ่งมั่นพัฒนาการดำเนินงานในทุก ๆ ด้านเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้แก่ลูกค้าของเรา ซึ่งนอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถยนต์เกรดพรีเมียมสู่ตลาดยานยนต์ทั่วโลก เรายังให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานของศูนย์ซ่อมตัวถังและสี มาอย่างต่อเนื่อง เพราะอุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและเราตระหนักดีว่า การบริการซ่อมตัวถังและสีจะต้องมีมาตรฐานสูงไม่แพ้การซ่อมบำรุงตามระยะทางรถยนต์ของเรา ในปีนี้วอลโว่จึงได้พัฒนาแผนงาน Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) เพื่อให้รถยนต์ที่ผ่านการซ่อมตัวถังและสีจากศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR ที่ได้มาตรฐานสมรรถนะสมบูรณ์และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเสมือนเพิ่งถอยออกจากโรงงานในวันแรก ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าทุกท่านด้วยมาตรฐานการดูแลรถยนต์หลังการขาย โดยปราศจากความกังวลใจในการดูแลรถแบบ 100% ตลอดอายุการใช้งาน”

Volvo Certified Damage Repair Centre

ความยั่งยืน – หนึ่งในสาระสำคัญของศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR”

ความยั่งยืนซึ่งเป็นสิ่งที่วอลโว่ให้ความสำคัญเสมอมา ถูกนำมาผสานเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การทำสีรถซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีส่วนสร้างมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อม ศูนย์บริการมาตรฐาน VCDR จะมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการฟุ้งกระจายของฝุ่นละอองขนาดเล็กออกสู่ชั้นบรรยากาศ ผ่านการติดตั้งระบบระบายอากาศแรงดันต่ำแบบเพิ่มความเข้มข้นของออกซิเจน พร้อมตัวควบคุมอัตโนมัติ (Pulse Width Modulation: PWM) เพื่อลดการใช้พลังงานเมื่อไม่มีกิจกรรมและเพิ่มอัตราการระบายอากาศเมื่อเริ่มทำการพ่นสีรถ (เช่น พัดลมดูดอากาศจะเริ่มทำงานเมื่อปืนพ่นสีทำงาน) ส่วนขั้นตอนการอบสีรถ จะใช้แบตเตอรี่ทำความร้อนระบบไฟฟ้าแทนการใช้แก๊สหรือน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และปริมาณคาร์บอนจากการทำงานในภาพรวม นอกจากนี้ อากาศกว่า 80% จะถูกดูดผ่านระบบกรอง 6 ชั้นเพื่อลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและฝุ่นละอองขนาดเล็กสู่ชั้นบรรยากาศ และนำอากาศเหล่านั้นกลับหมุนเวียนในการอบสีเพื่อลดปริมาณการใช้พลังงาน

Volvo Certified Damage Repair Centre

สำหรับสีทุกชั้นผิว เลือกใช้สีระบบน้ำเพื่อลดการใช้สารอินทรีย์ระเหย (Volatile Organic Compounds: VOC) อีกทั้งรถยนต์วอลโว่รุ่นใหม่ ๆ ได้ปรับเปลี่ยนขั้นพื้นฐานด้วยการใช้สีระบบน้ำ เพื่อลดการใช้สารเคมีและขั้นตอนการทำงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพนักงาน

นอกจากนี้ วอลโว่ยังปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานของช่างเทคนิคให้มีการสัมผัสเครื่องจักรและสารเคมีน้อยลง เพื่อแสดงถึงความใส่ใจต่อผู้คน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะลูกค้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานผู้ทุ่มเทของวอลโว่

ศูนย์บริการมาตรฐาน “VCDR” ในประเทศไทย

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย พร้อมตอบรับแผนงาน Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR)” ของวอลโว่สากล เพื่อยกระดับการบริการในประเทศ โดยจะให้ความสำคัญกับการดำเนินงานหลัก 3 ด้าน ได้แก่

  1. การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและขั้นตอนการทำงานที่เหมาะสมเพื่อผลงานที่มีคุณภาพ ลดผลกระทบต่อ  สิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานให้น้อยที่สุด

2)  การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อบริการที่รวดเร็ว มอบประสบการณ์ลูกค้าชั้นเยี่ยมที่ทุกคนพึงพอใจ

3)  การบริหารทรัพยากรอย่างมีคุ้มค่าเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและยืดหยุ่นของธุรกิจในภาพรวม

Volvo Certified Damage Repair Centre

ปัจจุบัน ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน VCDR ของวอลโว่ ในเมืองไทยที่ดำเนินงานตามมาตรฐาน และพร้อมให้บริการแล้ว มี 2 แห่ง ได้แก่

บริษัทสแกนดิเนเวียน ออโต้ จำกัด (สาขาหทัยราษฎร์)

ตั้งอยู่เลขที่ 55/88 หมู่ 11 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงลาดสวาย เขตลำลูกกา จังหวัด ปทุมธานี 12150

บริหารงานโดย คุณเสรี แซ่คู กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “ในปัจจุบันการทำธุรกิจแบบครบวงจรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตอบโจทย์ลูกค้าทุกอย่าง เดิมมีการบริหารโชว์รูมและศูนย์บริการของวอลโว่ที่ถนนรามอินทราอยู่แล้ว และมีความสนใจขยายธุรกิจออกไป เลยตัดสินใจลงทุนเพื่อทำ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) บนถนนหทัยราษฎร์ เพื่อรองรับการบริการครบวงจรของลูกค้าวอลโว่ในเขตกรุงเทพฯ ทั้งหมด โดยเฉพาะลูกค้าในโซนพื้นที่ส่วนเหนือ มาตรฐานการทำงานและขั้นตอนได้ถูกกำหนดโดยวอลโว่ คาร์ (สวีเดน) ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและไว้วางใจในการเข้ารับบริการจากเราเพิ่มมากขึ้น”

บริษัทนิวตัน บอดี้ แอนด์ เพนท์ จำกัด

ตั้งอยู่เลขที่ 199 ถนนบรมราชชนนี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170

บริหารงานโดย คุณพีรพร ลิ้มสวัสดิ์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า “มีความมั่นใจกับการทำธุรกิจร่วมกับ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นทุนเดิม เพราะเป็นผู้จัดจำหน่ายและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ ในพื้นที่เขตตลิ่งชันมาก่อน เมื่อมีการเสนอแผนธุรกิจของ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) และตรงกับความตั้งใจของตนเอง จึงไม่รี่รอที่จะลงทุนเพื่อขยายการบริการให้ครบวงจรสำหรับลูกค้าวอลโว่ในเขตกรุงเทพฯ และ ครอบคลุมในพื้นที่ส่วนใต้ทั้งหมด ปัจจุบันได้ให้บริการลูกค้าวอลโว่แล้ว และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเกินความคาดหมายประกอบกับความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่ Volvo Certified Damage Repair Centre ที่ได้รับการอบรมและตรวจสอบคุณภาพการทำงานทุกขั้นตอนตามแบบมาตราฐานของวอลโว่ คาร์ (สวีเดน)

Volvo Certified Damage Repair Centre

“หลังจากที่วอลโว่นำเสนอคอนเซ็ปต์ Volvo Retail Experience (VRE) เพื่อมอบบรรยากาศโชว์รูมที่สวยงามหรูหราโปร่งสบายสไตล์สแกนดิเนเวียน ตลอดจนบริการที่เป็นมิตรจากพนักงานทุกแผนก และ Volvo Personal Service (VPS) ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อสื่อสารโดยตรงกับช่างเทคนิค เพื่อให้เจ้าของรถได้รับทราบการซ่อมบำรุงทุกขั้นตอนและกำหนดวันรับส่งรถโดยละเอียด การนำเสนอ Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) ครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของวอลโว่ในการยกระดับประสิทธิภาพในส่วนของฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีศูนย์ซ่อมบำรุง เพื่อให้ทุก ๆ แผนกได้รับการอัปเกรดไปพร้อมกัน และสามารถบูรณาการเพื่อมอบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีเยี่ยมให้แก่เจ้าของรถยนต์วอลโว่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และด้วยการนำเสนอรถยนต์พลังงานสะอาดระดับพรีเมียม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และการให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อน ผมเชื่อว่าวอลโว่จะสามารถนำเสนอมูลค่าการครอบครองยานยนต์ชั้นเลิศแก่ผู้บริโภค ทั้งในแง่ธุรกิจและสิ่งแวดล้อมต่อไปได้อย่างยั่งยืน” มร.คริส เวลส์ กล่าวสรุป

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อศูนย์บริการวอลโว่ใกล้บ้านท่านได้ที่สายด่วน 02-305-4499 หรือดูข้อมูลล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th