CHANGEDESTINY SK-II SK-II STUDIO The Center Lane ริคาโกะ อิเคเอะ เอสเค-ทู

SK-II เปิดตัว “SK-II STUDIO” สตูดิโอภาพยนตร์ระดับโลก เพื่อทำให้แคมเปญ #CHANGEDESTINY เป็นจริงและจัดการกับแรงกดดันทางสังคมที่มีต่อผู้หญิงในปัจจุบัน

แรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นจากแคมเปญ #CHANGEDESTINY เมื่อโลกเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ แบรนด์สกินแคร์ระดับโลกอย่าง SK-II ได้ประกาศเปิดตัว “SK-II STUDIO” ซึ่งเป็นทีมสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ในสตูดิโอและฮับการสร้างคอนเทนต์แห่งแรกของ SK-II ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาแรงกดดันทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงในปัจจุบันผ่านพลังของภาพยนตร์และการเล่าเรื่อง SK-II STUDIO ได้ดึงเอาผู้ผลิตภาพยนตร์ เอนิเมเตอร์…

Home / PR NEWS / SK-II เปิดตัว “SK-II STUDIO” สตูดิโอภาพยนตร์ระดับโลก เพื่อทำให้แคมเปญ #CHANGEDESTINY เป็นจริงและจัดการกับแรงกดดันทางสังคมที่มีต่อผู้หญิงในปัจจุบัน

แรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นจากแคมเปญ #CHANGEDESTINY เมื่อโลกเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ แบรนด์สกินแคร์ระดับโลกอย่าง SK-II ได้ประกาศเปิดตัว “SK-II STUDIO” ซึ่งเป็นทีมสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ในสตูดิโอและฮับการสร้างคอนเทนต์แห่งแรกของ SK-II ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาแรงกดดันทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงในปัจจุบันผ่านพลังของภาพยนตร์และการเล่าเรื่อง

SK-II STUDIO ได้ดึงเอาผู้ผลิตภาพยนตร์ เอนิเมเตอร์ นักดนตรี และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ระดับโลกที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม โดย SK-II ตั้งใจจะสร้างคอนเทนต์ที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับปัญหาแรงกดดันทางสังคมในหลายๆ ด้านที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของแคมเปญ #CHANGEDESTINY ของ SK-II ที่แสดงจุดยืนเพื่อเป็นพลังในการทำความดีและเพื่อยกระดับการสร้างแบรนด์ให้เหนือกว่าการโฆษณาที่เน้นโปรโมชันแบบเดิมๆ

ในปีนี้ SK-II STUDIO จะเปิดตัวภาพยนตร์ทั้งหมด 8 เรื่องด้วยกัน โดยเรื่องแรกมีชื่อว่า “The Center Lane” ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาให้ได้รับชมในวันที่ 29 มีนาคม 2564 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการกำกับโดยผู้กำกับชาวญี่ปุ่นชื่อดังที่ได้รับรางวัลอย่าง ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ โดยเนื้อเรื่องต้องการนำเสนอให้เห็นว่า โชคชะตาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นทางเดินที่เราสามารถเลือกได้เอง โดยถ่ายทอดผ่านเรื่องราวของนักว่ายน้ำอย่าง ริคาโกะ อิเคเอะ ที่กลับมาแข่งขันว่ายน้ำอีกครั้งหลังจากเธอถูกพบว่าเป็นลูคีเมีย

ชมตัวอย่าง THE CENTER LANE

นอกจากนี้ SK-II จะจัดตั้งกองทุน #CHANGEDESTINY โดยจะร่วมบริจาค 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อทุกๆ 1 ยอดวิวของแต่ละภาพยนตร์จาก SK-II STUDIO เพื่อสนับสนุนผู้หญิงที่ต้องการกำหนดโชคชะตาของตนเองเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตามเป้าหมายของแบรนด์ในปีนี้ โดยเงินบริจาคให้กับกองทุน #CHANGEDESTINY จะถูกจำกัดไว้ที่ 5 แสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และองค์กรที่มีส่วนร่วมในการบริจาคให้กับกองทุนจะได้รับการประกาศในภายหลัง

“SK-II เป็นแบรนด์เพื่อผู้บริโภคโดยเราเชื่อมั่นในพลังของการถ่ายทอดเรื่องราวของผู้คน เพื่อเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม เอาชนะอคติและคตินิยมทางสังคม รวมถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเป้าหมายที่ SK-II มีมาเสมอก็คือการช่วยเหลือผู้หญิงนับล้านผ่านแคมเปญ #CHANGEDESTINY โดยต่อต้านแรงกดดันและความคาดหวังที่มีต่อผู้หญิงในทุกๆ วัน เพราะแรงกดดันไม่ควรเป็นตัวกำหนดทางเลือกของเรา” กล่าวโดย Sandeep Seth ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จากทีม SK-II Global

“เราได้ผ่านปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ผู้บริโภคของเราคาดหวังจากแบรนด์และธุรกิจมากขึ้น มากกว่าแค่เรื่องผิวพรรณและความงาม ผู้บริโภคเชื่อมั่นในแบรนด์ที่กล้าแสดงความคิดเห็นและแสดงจุดยืนในประเด็นที่สำคัญสำหรับพวกเขา มันไม่ใช่แค่การขายผลิตภัณฑ์ การสร้างสื่อโฆษณา หรือการนำเสนอโปรโมชั่นอีกต่อไป แต่มันเป็นการสานสัมพันธ์กับผู้บริโภค ทั้งความคิด หัวใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เรามุ่งให้ความสำคัญกับเป้าหมายที่แท้จริงโดยการเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่าน SK-II STUDIO ซึ่งเป็นสตูดิโอภาพยนตร์แห่งแรกของเรา เพื่อแก้ปัญหาทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง และทำให้เป้าหมายของแคมเปญ #CHANGEDESTINY เป็นจริง”

แคมเปญ #CHANGEDESTINY คือ หัวใจหลักและปรัชญาแห่งความงามของแบรนด์ SK-II ที่ต้องการจะทำให้ทุกคนเห็นว่า โชคชะตาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นทางเดินที่เราสามารถเลือกได้เอง แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้หญิงทั่วโลกผ่านแคมเปญ #CHANGEDESTINY ได้เผยให้เห็นถึงแรงกดดันและ “กรอบ” ที่ผู้หญิงถูกครอบไว้เพื่อความสมบูรณ์แบบในสายตาของผู้คนในสังคม โดยผลงานจากแคมเปญ #CHANGEDESTINY ที่กวาดรางวัลมาแล้ว ได้แก่ “Marriage Market Takeover” ในปี 2559 ซึ่งได้ประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับกระแส “ผู้หญิงที่เหลืออยู่” หรือ “ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน” ของประเทศจีน นอกจากนี้ ผลงานชิ้นอื่นที่ได้รับรางวัลยังมี “The Expiry Date” ในปี 2560 “Meet Me Halfway” ในปี 2561 และ “Timelines” ในปี 2562 ซึ่งเป็นซีรีส์เชิงสารคดีที่ได้ร่วมมือกับผู้ประกาศข่าวชื่อดังอย่าง เคธี่ คูริก ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแรงกดดันจากการแต่งงานและความคาดหวังของสังคมที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญ

เกี่ยวกับ SK-II
เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่เอสเค-ทูได้เข้าถึงชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกผ่านการมีผิวกระจ่างใสและชีวิตที่เราเป็นผู้กำหนดได้เอง เรื่องราวเบื้องหลังของเอสเค-ทูเริ่มต้นขึ้นหลังจากการสังเกตเห็นคนงานสูงวัยที่ทำงานในโรงบ่มสาเกในประเทศญี่ปุ่น มีใบหน้าที่มีริ้วรอย แต่กลับมีมือที่ดูอ่อนเยาว์และนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาได้ค้นพบสาเหตุว่าเป็นเพราะมือของคนงานเหล่านั้นสัมผัสโดยตรงกับการหมักบ่มสาเกเป็นเวลาสม่ำเสมอ และได้นำมาศึกษาวิจัยเป็นเวลาหลายปีจนได้ส่วนผสมมหัศจรรย์อย่าง พิเทร่า™ ของเหลวชีวภาพทางธรรมชาติจากกระบวนการหมักบ่มยีสต์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา พิเทร่า™ ก็กลายเป็นความลับพิเศษสู่ผิวกระจ่างใสสำหรับดาราทั่วโลกดังเช่น ทัง เหว่ย (Tang Wei), นี นี่ (Ni Ni), ชุน เชีย (Chun Xia), ฮารูกะ อายาเซะ (Haruka Ayase), คาซูมิ อาริมูระ (Kasumi Arimura), นาโอมิ วาตานาเบ้ (Naomi Watanabe) และ โคลอี เกรซ มอเรทซ์ (Chloe Grace Moretz) ติดตามทุก ๆ อัพเดทและข้อมูลของเอสเค-ทูได้ที่ https://www.sk-ii.co.th/

เกี่ยวกับ #CHANGEDESTINY
แคมเปญ #CHANGEDESTINY คือ หัวใจหลักของปรัชญาแห่งความงามของ SK-II ที่ต้องการจะทำให้เห็นว่า โชคชะตาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นทางเดินที่เราสามารถเลือกได้เอง แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของผู้หญิงทั่วโลกผ่านแคมเปญ #CHANGEDESTINY ได้เผยให้เห็นถึงแรงกดดันและ “กรอบ” ที่ผู้หญิงถูกครอบไว้เพื่อความสมบูรณ์แบบในสายตาของผู้คนในสังคม โดยผลงานจากแคมเปญ #CHANGEDESTINY ที่กวาดรางวัลมาแล้ว ได้แก่ “Marriage Market Takeover” ในปี 2559 ซึ่งได้ประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับกระแส “ผู้หญิงที่เหลืออยู่” หรือ “ผู้หญิงที่ยังไม่แต่งงาน” ของประเทศจีน นอกจากนี้ ผลงานชิ้นอื่นที่ได้รับรางวัลยังมี “The Expiry Date” ในปี 2560 “Meet Me Halfway” ในปี 2561 และ “Timelines” ในปี 2562 ซึ่งเป็นซีรีส์เชิงสารคดีที่ได้ร่วมมือกับผู้ประกาศข่าวชื่อดังอย่าง เคธี่ คูริก ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับแรงกดดันจากการแต่งงานและความคาดหวังของสังคมที่ผู้หญิงทั่วโลกต้องเผชิญ