UVA UVB ครีมกันแดดทาตัว

ครีมกันแดดทาตัว 3 แบบที่ขาลุยสายเลทุกคนต้องรู้จัก

ถึงแม้ว่าในความเป็นจริง เราจะสามารถป้องกันปัญหาผิวไหม้ในระหว่างไปเที่ยวทะเลได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดทาตัว แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ไหมว่าการทาครีมกันแดดก่อนออกจากที่พักเพียงรอบเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพอสำหรับทริปขาลุยแบบเรา เนื่องจากในระหว่างวัน เราต่างต้องเผชิญกับแสงแดด รวมไปถึงเหงื่อและน้ำกันตลอดเวลา ดังนั้นทางที่ดีเราจึงควรพกครีมกันแดดทาตัวอีก 2 แบบไปใช้ร่วมกันเพื่อให้ผิวของเราได้รับการคุ้มครองแบบจัดเต็ม ว่าแต่ครีมกันแดดทั้ง 3 แบบที่สายลุยอย่างเราจำเป็นต้องพกติดตัวจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย…

Home / PR NEWS / ครีมกันแดดทาตัว 3 แบบที่ขาลุยสายเลทุกคนต้องรู้จัก

ถึงแม้ว่าในความเป็นจริง เราจะสามารถป้องกันปัญหาผิวไหม้ในระหว่างไปเที่ยวทะเลได้ด้วยการใช้ครีมกันแดดทาตัว แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้ไหมว่าการทาครีมกันแดดก่อนออกจากที่พักเพียงรอบเดียวนั้นอาจจะไม่เพียงพอสำหรับทริปขาลุยแบบเรา เนื่องจากในระหว่างวัน เราต่างต้องเผชิญกับแสงแดด รวมไปถึงเหงื่อและน้ำกันตลอดเวลา ดังนั้นทางที่ดีเราจึงควรพกครีมกันแดดทาตัวอีก 2 แบบไปใช้ร่วมกันเพื่อให้ผิวของเราได้รับการคุ้มครองแบบจัดเต็ม ว่าแต่ครีมกันแดดทั้ง 3 แบบที่สายลุยอย่างเราจำเป็นต้องพกติดตัวจะมีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

ครีมกันแดด SPA 50++++

อย่างที่เรารู้กันดีว่าครีมกันแดดทาตัวนั้นสามารถแบ่งได้หลายระดับตามความสามารถในการทนทานต่อแสงรังสี UVA และ UVB โดยปกติแล้วค่า SPF นั้นคือค่าที่บ่งบอกถึงขีดความสามารถในการทนอยู่ท่ามกลางแสงแดดโดยไม่ก่อให้เกิดผิวไหม้ ยกตัวอย่าง เช่น ปกติร่างกายของเราอาจจะทนแดดได้ 15 นาทีก่อนที่ผิวจะเริ่มไหม้ ซึ่งหากเราทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 สารป้องกันที่อยู่ในครีมจะช่วยเพิ่มความทนทานของผิวหนังได้ดีกว่าเดิมถึง 50 เท่า จากแต่เดิมที่เราทนได้ 15 นาทีก็จะกลายเป็น 750 นาที เป็นต้น ส่วนสัญลักษณ์ + ที่อยู่ด้านหลังจะเป็นตัวบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการปกป้องผิวหนังจากรังสี UVA ยิ่ง + มากเท่าไรก็ยิ่งป้องกันรังสีได้ดีมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสำหรับการไปทะเลรวมไปถึงการทำกิจกรรมที่ต้องเจอกับแสงแดดทั้งวันแล้ว การเลือกใช้ครีมกันแดด SPF 50++++ จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด

ครีมกันแดดซึมซับไวแบบสเปรย์

ถึงแม้เราจะใช้ครีมกันแดดทาตัวที่มีคุณสมบัติ SPF 50++++ ก่อนออกจากบ้าน แต่สิ่งที่เราควรจำไว้ให้ดีเลยก็คือครีมกันแดดนั้นมีฤทธิ์เต็มที่แค่เพียง 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อถึงเวลา เราจึงควรหยิบกันแดดมาทาซ้ำๆ ตลอดทั้งวันเพื่อให้ผิวของเรายังได้รับการปกป้องอยู่เสมอ พอถึงตรงนี้หลายคนอาจจะนึกสงสัยกันใช่ไหมว่าถ้าจะให้เราต้องมาคอยนับเวลากันแบบนี้คงหมดสนุกกันพอดี ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะหมดไป หากเราเลือกใช้ครีมกันแดดทาตัวแบบสเปรย์ที่มีคุณสมบัติเด่นอยู่ที่การซึมซับเจ้าสู่ผิวหนังอย่างรวดเร็ว ทาแล้วไม่รู้สึกเหนอะหนะ แถมยังออกไปลุยแดดต่อได้ทันที โดยไม่ต้องรอ 15 – 30 นาทีเหมือนกับการใช้ครีมกันแดดแบบปกติ

อาฟเตอร์ซัน โลชัน

หลังจากเผชิญกับแสงแดดตลอดทั้งวัน สิ่งที่เราอยากจะให้ทุกคนทำหลังจากจบกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ได้แก่การทาอาฟเตอร์ซันหรือโลชันที่มีจุดเด่นในการคืนความชุ่มชื้น รวมไปถึงเข้าไปฟื้นฟูผิวหนังชั้นในหลังจากเผชิญหน้ากับแสงแดดยาวนานติดต่อกันหลายชั่วโมง

และทั้งหมดก็คือครีมกันแดดทาตัวทั้ง 3 แบบที่หยิบมาแนะนำกันวันนี้ หากใครมีแพลนจะไปเที่ยวทะเล ทางที่ดีอย่าลืมลองมองหาครีมทั้ง 3 แบบพกติดตัวไปด้วยล่ะ รับรองสวยปังไม่พังตลอดทั้งทริป

X