เราทราบดีว่าเส้นผมของผู้หญิงไทยแต่ละคนนั้นมีปัญหาแตกต่างกัน และปัญหา ‘ผมแห้งเสีย’ เป็นปัญหาหลักของผู้หญิงไทย โดยมีข้อมูลว่าผู้หญิงไทยกว่า 83% เชื่อว่าตนเองผมเสีย ปัญหาผมเสียสามารถเกิดขึ้นด้วยหลากปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความร้อนและเคมี ทำสีผม แสงแดด ไปจนถึงมลภาวะต่างๆก็ทำให้ผมแห้งและเสียตามลำดับ เพราะเส้นผมจะสูญเสียน้ำมันที่คอยเคลือบเส้นผมอยู่ ส่งผลให้เกล็ดผมเปิด ทำให้เกิดอาการต่างๆกันไป อาทิ ผมแห้งชี้ฟู ผมแตกปลาย ผมเปราะขาดง่าย ผมแข็งกระด้าง ผมเสียจากสารเคมีหรือความร้อน
อีฟโรเช่จึงมีผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมให้เลือกหลากหลายถึง 13 ไลน์ อาทิ แชมพู ครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยทุกผลิตภัณฑ์ได้รับการวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญของอีฟโรเช่ ที่ลา กาซิลี่ แคว้นบริตทานี ประเทศฝรั่งเศส ทุกสูตรมีส่วนผสมของ
อะกาเว่ (Agave) ซึ่งเป็นส่วนผสมลับล้ำค่า โดยอีฟโรเช่เป็นแบรนด์แรกในวงการความงามที่ได้นำมาใช้
ล่าสุดได้เปิดตัว Universal Balm (ยูนิเวอร์แซล บาล์ม) บาล์มบำรุงผมสูตรเข้มข้น มาเสริมทัพผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมด้วยส่วนผสมสำคัญจากโจโจบาออยล์ออร์แกนิกที่อุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-6 และ Omega-9 สามารถเข้าฟื้นบำรุงเส้นผมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง และ Agave Fructans ช่วยเติมเต็มสารอาหารให้เส้นผมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ถือเป็นทางออกของผมเสียทุกประการช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น 30X2 พร้อมยังมาในหลอด Eco-design ลดการใช้พลาสติกลง 25% และที่สำคัญ Universal Balm ยังใช้ได้หลากหลายตามความสะดวกของแต่ละคน ไม่ว่าจะใช้หมักผมไว้ข้ามคืนโดยไม่เลอะหมอน ใช้จัดแต่งทรงผมก่อนแปรงผม หรือจะใช้ระหว่างวันเมื่อรู้สึกว่าผมชี้ฟูก็ได้เช่นกัน ด้วยเนื้อบาล์มที่ไม่ทำให้ผมดูมัน แต่บำรุงอย่างล้ำลึกด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ
Universal Balm ดีต่อโลกยังไง?
• หลอดของ Universal Balm ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อโลก โดยลดการใช้พลาสติก 25%
• นอกจาก Universal Balm จะใช้วัตถุดิบอย่างโจโจบาออยล์ออร์แกนิกและส่วนผสมจากธรรมชาติสูงถึง 98% แล้ว อีฟโรเช่ยังยึดหลัก 3 ประการในการที่จะได้มาซึ่งวัตถุดิบ จัดการโดยยึดหลักความปลอดภัย ตรวจสอบได้ และความรับผิดชอบต่อธรรมชาติ ดังนี้
1) การหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ
- เราใช้เมล็ดโจโจบาจาก 2 ประเทศ เพื่อที่จะได้เมล็ดที่มีคุณภาพเสมอ โดยไม่แปรผันตามสภาพอากาศ
- เราได้ต้น Blue Agave มาจากเม็กซิโก ไม้อวบน้ำชนิดนี้มีขนาดถึง 6.5 ฟุต และมีใบสีฟ้า โดยพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตของเรายังช่วยสร้างงานให้กับชุมชนผ่านเครือข่ายอีกด้วย
2) ปกป้องโลกพฤกษาพรรณ - เมล็ดโจโจบาถูกเก็บเกี่ยวเมื่อหล่นสู่พื้นแล้ว และมีปริมาณแว็กซ์เหลว (โจโจบาออยล์) 60% ขึ้นไป โดยโจโจบาออยล์จะได้รับการสกัดผ่านกระบวนการสกัดเย็น ไม่ใช้ตัวทำละลายใดๆ จึงมั่นใจได้ว่าส่วนประกอบจะยังคงเปี่ยมประสิทธิภาพ
- ชาวสวนต้องใช้เวลาถึง 8-12 ปีในการดูแลต้น Blue Agave จนถึงขั้นที่จะสามารถเก็บเกี่ยว Agave Fructans ได้จากแกนกลางลำต้น
3) เคารพและเข้าใจผู้คนและโลกของเรา - โจโจบาเป็นพืชที่แต่ละต้นจะมีเพียงเพศเดียว ด้วยเหตุนี้การปลูกโจโจบาจึงต้องดำเนินการอย่างชาญฉลาด โดยจะมีต้นโจโจบาเพศผู้เพียง 5% และเพศเมียอีก 95% ซึ่งต้องจัดวางให้เกสรจากต้นเพศผู้เอื้อต่อการถูกลมพัดไปถึงต้นเพศเมีย เพื่อผสมให้เกิดเมล็ดได้ทุกต้น
- เราเลือกใช้ Agave จากแหล่งออร์แกนิกด้วยเหตุผลของความยั่งยืน พาร์ทเนอร์ของเรายึดมั่นในหลักการเกษตรเชิงนิเวศซึ่งส่งผลดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
