การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดจองตั๋วรถจักรไอน้ำพิเศษเฉลิมพระเกียรติ แล้ววันนี้

การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดจองตั๋วรถจักรไอน้ำพิเศษเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เริ่มแล้ววันนี้

การรถไฟแห่งประเทศไทย เชิญชวนประชาชน และนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบขบวนรถจักรไอน้ำ
ประวัติศาสตร์ สัมผัสบรรยากาศย้อนยุคกับขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษในโอกาสสำคัญ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2563 เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา เริ่มเปิดจองตั๋วโดยสารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นายนิรุฒ  มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการด้วยพระวิริยะอุตสาหะ ตลอดจนพระราชปณิธานอันแน่วแน่มั่นคงที่ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการถวายความจงรักภักดีผ่านกิจกรรมพิเศษเฉลิมพระเกียรติผ่านกิจกรรมในครั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดเดินขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ไปยังเส้นทาง “กรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ” 

การรถไฟฯ ได้นำขบวนรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ รถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี มาจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยว สำหรับขบวนรถจักรไอน้ำพิเศษนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ ขบวนที่ 903/904 จะออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ในวันที่ 12 สิงหาคม 2563 เวลา 08.10 น. ถึงสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 09.50 น. ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในจังหวัดฉะเชิงเทรา ประมาณ 6 ชั่วโมง และเที่ยวกลับออกจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 16.30น. ถึงกรุงเทพ เวลา 18.10 น. โดยมีสถานีที่หยุดรับ – ส่งผู้โดยสาร ได้แก่ ได้แก่ สถานีมักกะสัน คลองตัน หัวหมาก ทั้งนี้สามารถขึ้นหรือลงตามสถานีดังกล่าว ส่วนประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เส้นทางรถไฟสายกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปกับขบวนรถพิเศษ สามารถร่วมบันทึกภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ 

สำหรับการจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวสายประวัติศาสตร์ ขบวนรถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จะใช้ลากจูงขบวนในโอกาสพิเศษ และในวันสำคัญ ๆ โดยใน 1 ปี จะนำออกมาให้บริการประชาชน  6 ครั้ง ประกอบด้วย 

1. วันที่ 26 มีนาคม วันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

2. วันที่ 3 มิถุนายน วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เส้นทางกรุงเทพ – นครปฐม

3. วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

4. วันที่ 12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา

5. วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช  เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา

6. วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา

สำหรับอัตราค่าโดยสาร ไป – กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก คนละ 290 บาท (บริการอาหารว่าง น้ำดื่มบนขบวนรถ ทั้งเที่ยวไป – กลับ พร้อมกิจกรรมบนขบวนรถไฟ) โดยผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

ประวัติรถจักรไอน้ำ หมายเลข 824 และ 850 

• เป็นรถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกสร้างขึ้นมาจำนวน 30 คัน ระหว่างปี พ.ศ. 2492 – 2493 มีการจัดวางล้อแบบ 4 – 6 – 2 เรียกว่า แปซิฟิค คือมีล้อนำ 4 ล้อ ล้อกำลัง 6 ล้อ และล้อตาม 2 ล้อ 
• รถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค ตอนนี้เหลือใช้งาน จำนวน 2 คัน คือหมายเลข 824 และ 850    
• พนักงานขับรถจักรไอน้ำ มีการถ่ายทอดความรู้กันแบบรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นการขับ การซ่อมบำรุง การดูแลรักษา
• ก่อนนำรถจักรไอน้ำออกมาใช้งาน จะต้องมีการทำความสะอาดอย่างละเมียดละไม ซึ่งอุปกรณ์บางตัวเป็นอุปกรณ์ทองเหลือง โดยกลุ่มอาสาสมัครผู้ที่รักและชื่นชอบรถจักรไอน้ำ  
• รถจักรไอน้ำ หมายเลข 824 นำมาใช้งานตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2492 ได้ดัดแปลงมาใช้น้ำมันเตา แทนไม้ฟืน เมื่อปี พ.ศ. 2514 
• รถจักรไอน้ำ หมายเลข 850 นำมาใช้งานตั้งแต่เดือน มีนาคม 2594 มีการติดตั้งระบบน้ำมันในการเผาไหม้แทนฟืน  
• ปี 2555 มีการซ่อมแซมหนักรถจักรไอน้ำทั้งสองคัน โดยเปลี่ยนหม้อน้ำใหมม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการใช้งาน