สายพันธุ์โอมิครอน โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โควิด-19 โอมิครอน โควิด-19 โอมิครอน ในไทย โอมิครอน

โควิด-19 (โอมิครอน) ไทยพบเพิ่ม 194 รวม 934 ราย / สกลฯ พบ 7 ราย

ประเด็นสำคัญ [31 ธ.ค. ] ภาพรวมสถานการณ์ในขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในหลายประเทศและกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดแล้ว และหลายประเทศเชื่อว่า ในช่วงต้นปี 2565 สายพันธุ์โอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดทั่วโลก ไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่ ยังเชื่อมโยงมาจากการเดินทางมาจากต่างประเทศ…

Home / โควิด-19 / โควิด-19 (โอมิครอน) ไทยพบเพิ่ม 194 รวม 934 ราย / สกลฯ พบ 7 ราย

ประเด็นสำคัญ

  • [31 ธ.ค. ] ภาพรวมสถานการณ์ในขณะนี้
    • จำนวนผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในหลายประเทศและกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดแล้ว และหลายประเทศเชื่อว่า ในช่วงต้นปี 2565 สายพันธุ์โอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดทั่วโลก
    • ไทย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่ ยังเชื่อมโยงมาจากการเดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนการติดเชื้อในประเทศยังคงต้องเฝ้าระวังคลัสเตอร์ในพื้นที่ภาคอีสาน
  • ประเด็นที่เป็นเรื่องดี
    • หลายประเทศยังคงรายงานไปในทิศทางเดียวกันคือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการเบา ไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
    • รายงานวิจัยในหลายประเทศระบุตรงกันว่า เชื้อลงปอดได้น้อยลงกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้
  • ประเด็นที่น่ากังวล คือ
    • ในประเทศไทยพบว่า ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนหลายราย ผลการตรวจหาเชื้อครั้งแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย ไม่พบเชื้อ แต่จะตรวจพบใน 2-3 วันให้หลัง
    • ในไทย จับตาคลัสเตอร์ร้านเอกมัย จ.อุบลฯ หลังสุ่มตรวจสายพันธุ์ พบเป็นสายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย
    • การติดเชื้อที่เกิดขึ้นได้เร็ว ส่งผลให้มีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น แม้ผู้ป่วยมีอาการเบา แต่หากติดกันเป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการรองรับผู้ป่วยของสถานพยาบาลได้
    • พบผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ๆ ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนซ้ำมากขึ้น
    • รายงานการพบผู้ป่วยในกลุ่มเด็กเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในหลายประเทศ

สถานการณ์โควิด-19 โอมิครอนในไทย

รายงานล่าสุด – 30 ธ.ค.15.00 น. ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย เพิ่มขึ้นอีก 194 ราย โดยเป็นเคสที่มาจากต่างประเทศ 88 ราย และติดเชื้อในประเทศ 106 ราย ทำให้ยอดรวมในขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 934 ราย

สกลนคร พบ 7 รายแรก

จังหวัดสกลนครรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จำนวน 7 ราย หลังจากที่ผลผู้ป่วยก่อนหน้านี้ และผลตรวจสายพันธุ์ยืนยันเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

โดยรายงานเบื้องต้นแจ้งว่า มีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ในจังหวัดกฬสินธุ์

โคราช พบเพิ่มอีก 1 ราย

จังหวัดนครราชสีมารายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มอีก 1 ราย โดยเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากผู้ป่วยรายที่ 2 ที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้

ระยอง พบผู้ป่วย 2 รายแรก รอผลอีก 4 ราย

จังหวัดระยองพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 2 ราย โดยรายแรกชาย อายุ 21 ปี ทำงานที่บ. เอกชน ที่อ.ปลวกแดง ปัจจัยเสี่ยงจากการดื่มสังสรรค์กับเพื่อน หลังจากนั้นพบว่า มีอาการป่วย จึงได้มีการตรวจพบเชื้อ และในภายหลังพบว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอน โดยรายนี้ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 27 ราย (เพื่อนร่วมงาน, ร่วมกิจกรรม, รวมรถตู้) ทั้งหมดได้มีการติดตามและเข้ารับการกักตัวแล้ว

อีกรายหนึ่งเป็น หญิง อายุ 27 ปี พนง.บริษัทเอกชน ใน อ.นิคม มีอาการป่วย ตรวจพบติดเชื้อ และตรวจภายหลังพบติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 24 ราย ทั้งหมดเข้ารับการกักตัวแล้ว เช่นกัน

ทั้งสองรายมีประวัติได้รับวัคซีนครบถ้วนทั้ง 2 เข็ม (ชิโนฟาร์ม) ส่วนอาการป่วยเป็นอาการป่วยเล็กน้อย คือ มีน้ำมูก เจ็บคอ เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังคงรอผลการตรวจยืนยันอีกครั้ง จำนวน 4 รายว่าจะเป็นสายพันธุ์ได้ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นก็คาดว่า จะเป็นสายพันธุ์โอมิครอนเช่นกัน

บึงกาฬ พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 2 ราย

จังหวัดบึงกาฬรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน จำนวน 2 รายแรกของจังหวัด โดยเป็น

  • หญิง อายุ 25 ปี ต.บ้านต้อง อ.เซกา อาชีพค้าขาย
  • ชาย อายุ 36 ปี ต.หนองทุ่ม อ.เซกา อาชีพรับราชการ (ครู)

สระแก้ว ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรก มาจากต่างประเทศ

สาธารณสุขจังหวัดสระแก้วรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนรายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 59 ปี สัญชาติอิตาเลียน อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินทางมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในระบบ Test & Go

ไทม์ไลน์

  • 14 ธ.ค. – เดินทางจากสวิสฯ ด้วยสายการบิน ETIHAD AIRWAYS โดยมีประวัติการได้รับวัคซีนครบ 2 โดส / ผลตรวจ PCR ก่อนขึ้นเครื่องไม่พบเชื้อ
  • 15 ธ.ค. – ต่อเครื่องที่ดูไบ เพื่อมายังไทย / ถึงไทยผลการตรวจหาเชื้อเมื่อมาถึง ไม่พบเชื้อ
  • 16 ธ.ค. – เข้าที่พัก / ไปรับประทานอาหารกับเพื่อ ที่พัทยา
  • 19 ธ.ค. – เดินทางมาบ้านที่สระแก้ว
  • 22 ธ.ค. – มีอาการไม่ค่อยสบาย ครั่นเนื้อครั่นตัว / ตรวจ ATK พบเชื้อ
  • 24 ธ.ค. – ผลตรวจ PCR ยืนยันพบเชื้อ และส่งตรวจหาสายพันธุ์

อุบลฯ ระบุพบแล้ว 4 ราย

*** เพิ่มเติม – ผลตรวจเพิ่มเติม พบเพิ่มอีก 5 ราย รวมเป็น 8 ราย จากการสุ่มตรวจในคลัสเตอร์ร้านเอกมัย ทั้งหมด 203 ราย (เพิ่มขึ้นอีก 93 ราย)

สำหรับในจังหวัดอุบลราชธานี มีการพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในขณะนี้ พบแล้ว 4 ราย โดยสำหรับรายแรกนั้น เป็นผู้ป่วยชาย ชาวออสเตรเลีย อายุ 49 ปี ที่เดินทางมาจากต่างประเทศออสเตรเลีย มีประวัติได้รับวัคซีน Pfizer ครบ 2 โดส เข้าระบบ Test & Go

ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยรายแรก

  • 11 ธ.ค. – เดินทางจากประเทศออสเตรเลีย ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ / ตรวจ PCR ครั้งแรก ไม่พบเชื้อ
  • 12-15 ธ.ค. – เดินทางมาหาภรรยา ที่ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ
  • 16-20 ธ.ค. – ไปพัทยา /ออกไปรับประทานอาหารกับเพื่อน
  • 20 ธ.ค. – เริ่มมีอาการไอ ไข้
  • 21 ธ.ค. – เดินทางกลับโดยสายการบิน Vietjet Air VZ220 ถึงอุบลฯ / ตรวจหาเชื้อ ผลตรวจพบเชื้อ / ส่งตรวจสายพันธุ์
  • 23 ธ.ค. – ผลยืนยันเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

สำหรับอีก 3 รายที่เหลือนั้น เป็นการสุ่มตรวจจากในคลัสเตอร์ร้านเอกมัย ที่ในคลัสเตอร์นี้มีผู้ป่วยรวมทั้งหมด 137 ราย โดยพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อวันแรกเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 64 เป็นผู้ป่วยหญิง อายุ 21 ปี หลังจากนั้นก็พบผู้ป่วยในคลัสเตอร์นี้เพิ่มขึ้น ทั้งนักดนตรี ผู้ใช้บริการ และผู้สัมผัสในครอบครัวของผู้ป่วย ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา พบเพิ่ม 72 ราย

และเนื่องจากเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ จึงได้มีการสุ่มตรวจสายพันธุ์และพบว่า เป็นสายพันธุ์โอมิครอน จำนวน 3 รายด้วยกัน

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในประเทศไทย

อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 65 – 08.00 น. รายจังหวัด ซึ่งในขณะนี้ ยอดสะสมในขณะนี้ 2,338 ราย
(กำลังทยอยอัปเดตข้อมูลรายจังหวัด)

จังหวัดจำนวนผู้ป่วย
กรุงเทพฯ676
กาฬสินธุ์233
ชลบุรี204
ร้อยเอ็ด180
ภูเก็ต175
สมุทรปราการ117
มหาสารคาม103
สุราษฎร์ธานี59
ชัยภูมิ55
นนทบุรี47
อุดรธานี44
หนองคาย40
เชียงใหม่35
ขอนแก่น31
สุรินทร์23
🔺️ประจวบคีรีขันธ์21
อุบลราชธานี21
ระยอง20
หนองบัวลำภู18
เลย18
ตราด18
นครราชสีมา17
สกลนคร17
บุรีรัมย์12
นครพนม11
สุพรรณบุรี11
สระแก้ว10
กระบี่9
บึงกาฬ9
เพชรบุรี8
เชียงราย7
มุกดาหาร7
สกลนคร7
ตรัง6
🔺️อำนาจเจริญ5
ลำพูน5
จันทบุรี5
นครศรีธรรมราช5
🔺️สุโขทัย4
สมุทรสาคร4
ปัตตานี4
พิษณุโลก 4
ฉะเชิงเทรา3
ลำปาง3
🔺️สมุทรสงคราม2
🔺️สงขลา2
สระบุรี2
ปทุมธานี2
ชุมพร2
ระยอง2
อยุธยา2
อุตรดิตถ์2
สตูล1
ศรีสะเกษ1
กาญจนบุรี1
แม่ฮ่องสอน1
ยโสธร1
พิจิตร1
นครปฐม1
สุโขทัย1
เพชรบูรณ์1

สถานการณ์โลก : 30 ธ.ค.

  • WHO เตือนว่า โลกกำลังจะเผชิญกับสึนามิของผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากที่หลายประเทศในยุโรปมีจำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้น 11% จากสัปดาห์ก่อน และในขณะนี้ กำลังเผชิญการระบาดจากคู่แฝดสองสายพันธุ์คือ เดลต้า และโอมิครอน

    นอกจากนี้ การกักตุน และการเร่งฉีดบูสเตอร์โดสในประเทศที่ร่ำรวย ส่งผลต่อการควบคุมการระบาดในประเทศที่ยากจนกว่า ซึ่งจะส่งผลให้การระบาดของโควิด-19 นั้นยืดเยื้อออกไปอีก ไวรัสมีโอกาสที่จะกระจายตัวได้มากขึ้นและมีโอกาสกลายพันธุ์เพิ่มได้มากขึ้น
  • ฝรั่งเศส พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 208,000 ราย ทำสถิติสูงที่สุดเป็นวันที่สองติดต่อกัน และเป็นยอดผู้ป่วยเกิน 2 แสนราย/วัน เป็นครั้งแรกของประเทศ
  • สหราชอาณาจักร รายงานระบุว่า สถานการณ์การระบาดที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนของผู้ป่วยอาการหนักในไอซียู ยังถือว่าต่ำกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีน

    สำหรับในขณะนี้ แนวโน้มอาการของโรคมีความรุนแรงน้อยลง ผู้ป่วยหลายรายใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวสั้นลง ไม่ต้องให้ออกซิเจนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังคงเป็นรายงานเบื้องต้น จึงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

    โดยล่าสุด สหราชอาณาจักร พบผู้ป่วยโควิด–19 เพิ่มขึ้นอีก 183,037 ราย ทำสถิติสูงที่สุดอีกครั้ง ซึ่งทางการระบุว่า ในขณะนี้ 90% ของผู้ป่วยในเกาะอังกฤษ เป็นสายพันธุ์โอมิครอน
  • สหรัฐฯ ขอความร่วมมือประชาชน สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ในอาคาร เพื่อลดความเสี่ยงในการระบาด โดยระบุว่า เป็นหน้ากากชนิดใดก็ได้ แต่ขอให้ใส่

    นอกจากนี้ยังขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข้ารับวัคซีนด้วยเนื่องจากพบความเสี่ยงของผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน จะป่วยหนักมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วถึง 20 เท่า นอกจากนี้ ยังใช้มีโอกาสต้องเข้ารพ. สูงกว่าถึง 17 เท่า

    ซึ่งล่าสุด ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ของสหรัฐฯ อยู่ที่ +431,567 ราย ลดลงจากเมื่อวานนี้ราว1 หมื่นราย แต่ยังได้สูงกว่าการระบาดในระลอกก่อนหน้าที่นี้ CDC ของสหรัฐฯ คาดการว่า ในช่วงครึ่งเดือนแรกของ ม.ค.65 สหรัฐฯจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงถึงสัปดาห์ละกว่า 1 หมื่นราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสมจะพุ่งทะลุ 850,000 ราย
  • นิวซีแลนด์ ยืนยันการติดเชื้อในประเทศเคสแรก ในผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในเมืองโอ๊คแลนด์ หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยผลตรวจหาเชื้อต้นทาง-ปลายทางไม่พบเชื้อ รวมถึงในช่วงกักตัว 7 วันด้วยเช่นกัน

    หลังจากนั้นพบติดเชื้อในวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยผลการยืนยันสายพันธุ์ในภายหลังพบว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งในขณะนี้จากการตรวจสอบกลับไป ยังไม่พบผู้ติดเชื้อบนเครื่องบินในเที่ยวบินเดียวกันแต่อย่างใด และยังคงเร่งตรวจสอบหาที่มาของเชื้อต่อไป
  • อิตาลี พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 98,030 ราย สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดในอิตาลี
  • อิสราเอล พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เสียชีวิตรายแรก

Photo credit: Professor John Nicholls, Clinical Professor of Department of Pathology; and Professor Malik Peiris, Tam Wah-Ching Professor in Medical Science and Chair Professor of Virology, School of Public Health, HKUMed; and Electron Microscope Unit, HKU.

อ่านประเด็นข่าวโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนย้อนหลัง

รายงานการพบผู้ติดเชื้อในประเทศต่าง ๆ (เฉพาะยืนยันสายพันธุ์แล้ว)

ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 4 ม.ค. 65 – 08.00 น.

ประเทศ/เขตการปกครองสะสมเปลี่ยนแปลง
🇬🇧 ️สหราชอาณาจักร246,780
🇩🇰 ️เดนมาร์ก57,125+2,509
🇺🇸 ️สหรัฐอเมริกา33,120+4404
🇩🇪️ เยอรมนี30,325+13,577
🇳🇴️ นอร์เวย์16,312+4,184
🇨🇦 ️แคนาดา14,139
🇦🇹 ️ออสเตรีย7,144+4,850
🇫🇷 ฝรั่งเศส5,591+649
🇪🇪️ เอสโตเนีย2,497
🇮🇱 ️อิสราเอล2,090+349
🇦🇺 ️ออสเตรเลีย1,946+235
🇮🇳️ อินเดีย1,892+152
🇿🇦 ️แอฟริกาใต้1,894
🇸🇬️ สิงคโปร์1,813+187
🇸🇮️ สโลวีเนีย1,418
🇰🇷️ เกาหลีใต้1,318+111
🇪🇸 ️สเปน882+176
🇧🇪เ️บลเยียม828+42
🇸🇪 ️สวีเดน817+28
🇯🇴️ จอร์แดน802
🇨🇭️ ️สวิตเซอร์แลนด์781
🇯🇵️ ญี่ปุ่น750+55
🇨🇱 ️ชิลี684+52
🇱🇻️ ลัตเวีย644+187
🇮🇹 ️อิตาลี565+13
🇳🇱 เนเธอร์แลนด์537+46
🇦🇷️ อาร์เจนตินา454
🇱🇧️ เลบานอน433
🇧🇼 ️บอตสวานา382
🇲🇽 ️เม็กซิโก368+114
🇵🇪️ เปรู309
🇵🇹 ️โปรตุเกส302
🇱🇺️ ลักแซมเบิร์ก223 +168
🇹🇷️ ตุรกี221+21
🇧🇲 ️หมู่เกาะเบอร์มิวดา, UK212
🇧🇷️ บราซิล211
🇮🇸 ️ไอซ์แลนด์200
🇮🇷️ อิหร่าน194+35
🇫🇮️ ฟินแลนด์172
🇮🇩️ อินโดนีเซีย152+16
🇮🇪 ️ไอร์แลนด์144
🇬🇮️ ยิบรอลตาร์122
🇷🇺️ รัสเซีย*103
🇭🇰 ️ฮ่องกง102+7
🇨🇺️ คิวบา92+20
🇷🇴 ️โรมาเนีย92
🇳🇿️ นิวซีแลนด์91+1
🇹🇼️ ไต้หวัน*88+26
🇳🇬️ ไนจีเรีย83
🇵🇸️ ปาเลสไตน์*77
🇰🇭️ กัมพูชา*75+6
🇵🇰️ ปากีสถาน75
🇱🇹️ ลิธัวเนีย74
🇵🇱️ โปแลนด์72+26
🇨🇿 ️สาธารณรัฐเช็ก*69
🇬🇭️ กาน่า66
🇲🇾️ มาเลเซีย64+2
🇨🇾️ ไซปรัส63
🇭🇺️ ฮังการี61
🇬🇪️ จอร์เจีย56
🇨🇴️ โคลัมเบีย51+26
🇿🇼 ซิมบับเว50
🇬🇫 ️เฟรนช์เกียนา️49
🇱🇰️ ศรีลังกา*48
🇿🇲 ️แซมเบีย*46
🇺🇾️ อุรุกวัย44
🇰🇾️ หมู่เกาะเคย์แมน44
🇰🇪️ เคนยา38
🇲🇼️ มาลาวี34
🇲🇹️ มอลต้า34
🇬🇷 ️กรีซ*33
🇪🇨️ เอกวาดอร์*29
🇲🇦️ โมรอกโก*28
🇵🇦️ ปานามา26
🇸🇳 ️เซเนกัล *26
🇺🇬 ️ยูกันดา*25
🇻🇳️ เวียดนาม*24+4
🇨🇬 ️คองโก21
🇫🇷 ️เรอูว์นียง, ฝรั่งเศส*20
🇸🇰️ สโลวาเกีย18
🇳🇦 ️นามิเบีย18
🇨🇷️ คอสตาริกา*18
🇲🇿️ โมซัมบิก17
🇦🇴 ️แองโกลา16
🇩🇿️ แอลจีเลีย*16
🇹🇹️ ทรินิแดด15+3
🇨🇳️ จีน*15
🇱🇮 ️ลิกเตนสไตน์*14
🇲🇺 ️มอริเชียส*14
🇬🇳️ กินี14
🇵🇭️ ฟิลิปปินส์14+4
🇰🇼️ คูเวต*13
🇧🇬️ บัลแกเรีย12
🇧🇩 ️บังคลาเทศ*10
🇧🇦 ️บอสเนีย10
🇲🇻️ มัลดีฟส์*10
🇹🇳 ️ตูนีเซีย*10
🇴🇲️ โอมาน*9
โคโซโว9
🇲🇪️ มอนเตเนโกร8
🇧🇳️ บรูไน8
🇭🇷️ โครเอเชีย8
🇻🇪️ เวเนซุเอลา7
🇺🇦️ ยูเครน*6
🇷🇼️ รวันดา6
🇹🇬️ โตโก5
🇧🇾️ เบลารุส4
🇶🇦️กาตาร์*4
🇲🇲 ️เมียนมา4
🇪🇬️ อียิปต์*3
🇳🇵️ เนปาล*3
🇵🇾 ️ปารากวัย3
เซนต์คิตส์และเนวิส2
🇱🇾️ ลิเบีย2
🇫🇯️ ฟิจิ*2
🇧🇫️ บูร์กินา ฟาโซ2
เซนต์วินเซนต์&เกรนาดีนส์1
🇧🇧️ บาร์เบโดส1
🇨🇩 ️สาธารณรัฐคองโก*1
🇦🇼 ️อารูบา*1
🇸🇦️ ซาอุดิอาระเบีย*1
🇦🇪 ️สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์*1
🇦🇱️ แอลเบเนีย1
🇸🇱 ️เซียราลีโอน*1
🇧🇭️ บาห์เรน1
🇲🇰️ มาเซโดเนีย1
🇯🇲️ จาไมกา1
🇷🇸️ เซอร์เบีย1
🇹🇿️ แทนซาเนีย1
🇩🇴 ️โดมินิกัน1
🇨🇼️ กูราเซา1
ไทย1,780
หมายเหตุ – ในประเทศแอฟริกาใต้ไม่ได้ทำการตรวจหาเชื้อทุกเคส
ทำให้ยอดในขณะนี้เป็นยอดการตรวจเฉพาะที่ตรวจสายพันธุ์เท่านั้น
* ผู้ป่วยที่พบเป็นผู้ที่เดินทางนำเชื้อเข้าประเทศ ( Imported Case )

รวมเมนูด่วน เกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน