VOI WHO สายพันธุ์ B.1.621 สายพันธุ์ที่น่าจับตามอง สายพันธุ์มิว เชื้อโควิด-19 โควิด-19

รู้จัก โควิด-19 สายพันธุ์ “มิว” (B.1.621) ที่ WHO จัดเป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง

เนื่องจากการกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่คาดว่า อาจจะทำให้เชื้อหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้

Home / โควิด-19 / รู้จัก โควิด-19 สายพันธุ์ “มิว” (B.1.621) ที่ WHO จัดเป็นสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง

ประเด็นสำคัญ

  • องค์การอนามัยโลก เพิ่มเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.621 เข้ามาเป็น 1ใน 5 สายพันธุ์ที่น่าจับตามอง หรือ VOI
  • โดยได้ตั้งชื่อเรียกว่า “มิว” หรือ Mu ตามชื่อตัวเลขในอักษรกรีก
  • ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป ได้มีการจัดสายพันธุ์นี้อยู่ในรายการ สายพันธุ์ที่น่าจับตามอง หรือ VOI ของ EUก่อนหน้านี้แล้ว
  • เนื่องจากตำแหน่งของการกลายพันธุ์มีความเป็นไปได้ว่า เชื้อสายพันธุ์นี้จะหลบหนีภูมิคุ้มกันได้ เช่นเดียวกับสายพันธุ์ที่น่ากังวลตัวอื่น ๆ ก่อนหน้านี้
  • อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในขณะนี้ยังมีไม่มากนัก จึงยังคงต้องติดตามรายงานต่อไป

องค์การอนามัยโลกได้เพิ่มเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในสายพันธุ์กลายพันธุ์ B.1.621 หรือ “มิว” ขึ้นเป็น หนึ่งใน 5 สายพันธุ์ที่น่าจับตามองตัวล่าสุด หลังจากมีแนวโน้มที่ต้องเฝ้าระวังเพิ่มสูงขึ้น จากการกลายพันธุ์ที่มีรายงานการค้นพบตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา และมีการพบการระบาดเป็นระยะ ๆ ในแถบอเมริกาใต้และยุโรป

รู้จักสายพันธุ์ “มิว” B.1.621

สายพันธุ์กลายพันธุ์นี้ มีชื่อในครั้งแรกคือ B.1.621 และทางองค์การอนามัยโลกได้ตั้งชื่อว่า Mu หรือ มิว ตามลำดับตัวเลขในอักษรกรีก หลังจากที่สายพันธุ์นี้ถูกจัดเข้าอยู่ในกลุ่มของสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง หรือ Variant of interest (VOI) โดยเป็นตัวแรกในเกือบ 3 เดือนที่มีการจัดสายพันธุ์กลายพันธุ์ชนิดใหม่เข้ามาอยู่ในกลุ่ม VOI

สายพันธุ์นี้ถูกพบครั้งแรกในประเทศโคลัมเบีย เมื่อเดือนม.ค. 2564 มีต้นกำเนิดจากสายพันธุ์ B.1 และมีการกลายพันธุ์มาเป็น B.1.621 โดยมีการกลายพันธุ์ในตำแหน่ง R346K, E484K, N501Y, D614G, P681H โดย

  • ตำแหน่ง N501Y และ E484K นั้นตำแหน่งเดียวกับสายพันธุ์ Beta และ Gamma
  • ตำแหน่ง P681H ใกล้เคียงกับสายพันธุ์อัลฟ่า

ซึ่งจากการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์นี้ นักวิจัยมีความเชื่อว่า สายพันธุ์มิว มีความสามารถในการหลบหนีภูมิคุ้มกันได้ที ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีใช้งานักันนั่นเอง อย่างไรก็ตามยังคงจะต้องติดตามเพิ่มเติมถึงความสามารถที่แท้จริงของเชื้อกลายพันธุ์ในสายพันธุ์นี้

รายงานของสหราชอาณาจักร

หลังจากที่มีการพบครั้งแรกในประเทศโคลัมเบีย ก็มีรายงานการพบในประเทศสหรัฐฯ เพิ่มเติม ซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ โดยรายงานล่าสุดในสหรัฐฯของการพบการกระจายสายพันธุ์มิว หรือ B.1.621 อยู่ราว 37% ของการพบเชื้อสายพันธุ์นี้ทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับการติดเชื้อของสายพันธุ์อื่นในสหรัฐฯ แล้ว จะพบว่า มีผู้ติดเชื้อในสายพันธุ์มิว (B.1.621) นี้เพียง 1% ของผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐฯ เท่านั้น

ในขณะที่ประเทศโคลัมเบียที่มีการพบครั้งแรก มีการพบผู้ป่วยในสายพันธุ์แล้วราว 840 ราย แม้จะมีจำนวนน้อยกว่าสหรัฐฯ แต่เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยในประเทศแล้ว พบว่ากว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโควิด-19 ในโคลัมเบีย ติดเชื้อในสายพันธุ์นี้ ในขณะที่เอกวาดอร์ พบราว 10% ของผู้ป่วยในประเทศ

ส่วนในประเทศอื่น ๆ ที่มีรายงานพบแล้ว คือ สเปน, เม็กซิโก, อรูบา, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร, ออสเตรีย, โดมินิกัน,ชิลี, คอสตาริกา, เบลเยียม, โปรตุเกส, เยอรมนี, ฝรั่งเศส,เดนมาร์ก, โปแลนด์, สวีเดน,สโลวาเกีย และฟินแลนด์

สาเหตุที่องค์การอนามัยโลกจัดเข้ามาในกลุ่ม VOI

จากรายงานการพบในประเทศแถบยุโรปเพิ่มเติมในช่วงหลัง ทำให้มีรายงานที่ทำให้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป หรือ ECED มีความสนใจสายพันธุ์นี้เพิ่มขึ้น เช่นในเบลเยียม มีรายงานการพบเชื้อในผู้เสียชีวิตจำนวน 7 รายที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา และผู้เสียชีวิตทั้ง 7 รายได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว ก่อนจะติดเชื้อในสายพันธุ์เสียชีวิต

ทำให้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป ได้จัดให้สายพันธุ์ B.1.621 เป็นVariants of interest (VOI) ของยุโรป ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะตั้งชื่อและจัดเข้ามาในกลุ่ม VOI เสียอีก

ซึ่งจากรายงานในหลายประเทศในสหภาพยุโรป ค่อนข้างให้ความสนใจกับสายพันธุ์นี้ เนื่องจากจุด/ตำแหน่งของการกลายพันธุ์มีความคล้ายคลึงกับเชื้อในสายพันธุ์ที่ถูกจัดอยู่ใน VOI ก่อนหน้านี้ และจากรายงานผู้ติดเชื้อหลายเคสพบว่า เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว จึงทำให้มีความกังวลว่า เชื้อในสายพันธุ์ B.1.621 นี้จะมีความสามารถในการหลบหนีภูมิคุ้มกันได้ และนั่นจะกระทบต่อประสิทธิภาพวัคซีนที่มีใช้งานกันอยู่ในขณะนี้


อ้างอิง –

  • https://www.ecdc.europa.eu/en/covid-19/variants-concern
  • https://www.medrxiv.org/content/10.1101/2021.05.08.21256619v2.full-text
  • https://www.gov.uk/government/news/confirmed-cases-of-covid-19-variants-identified-in-uk