ข่าวต่างประเทศ สปป.ลาว เวียงจันท์ โควิด-19

เวียงจันทน์ ยกระดับคุมโควิด เหตุปชช.กลับจากไทยเพิ่ม-ฝ่าฝืน-สังสรรค์

สั่งล็อกดาวน์เข้มข้น ห้ามเข้าออก พื้นที่สีแดง ห้ามรวมกลุ่ม ฝ่าฝืนกักตัว-ปรับเงิน

Home / โควิด-19 / เวียงจันทน์ ยกระดับคุมโควิด เหตุปชช.กลับจากไทยเพิ่ม-ฝ่าฝืน-สังสรรค์

ประเด็นสำคัญ

  • เวียงจันท์ประกาศคำสั่ง ยกระดับควบคุมโควิด-19 เข้มข้นขึ้น
  • หลังพบแรงงานชาวลาวที่กลับจากไทยจำนวนมากขึ้น มีประชาชนบางส่วนไม่เคร่งครัด ฝ่าฝืนกฎ รวมกลุ่ม สังสรรค์
  • ล็อกดาวน์เข้มข้น พื้นที่สีแดง ห้ามเข้า-ออก
  • ผู้ฝ่าฝืนนำไปกักตัว และปรับเงิน

นายกเทศมนตรีนครหลวงเวียงจันทน์ เผยแพร่คำสั่งด่วนเพื่อกระชับข้อจำกัดเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในเวียงจันทน์

ประกาศดังกล่าวระบุว่าผู้อยู่อาศัยในเวียงจันทน์ต้องปฏิบัติตามคำสั่งว่าด้วยมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมาตรการใหม่ๆ ที่มีการบังคับใช้ตามคำสั่งดังกล่าว

คำสั่งระบุว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในท้องถิ่นระลอกใหม่นี้ มีสาเหตุมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในเหล่าประเทศเพื่อนบ้าน ปริมาณแรงงานที่เดินทางกลับจากไทย และการที่ประชาชนไม่เคร่งครัดในการปฏิบัติตามข้อจำกัดขณะร่วมงานสังสรรค์และการรวมกลุ่ม

คำสั่งดังกล่าวห้ามไม่ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สีแดงของเวียงจันทน์เดินทางเข้าสู่แขวงอื่นๆ และผู้ที่อาศัยในพื้นที่สีแดงของแขวงต่างๆ ก็ห้ามเข้าสู่นครหลวงเช่นกัน ยกเว้นผู้ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการเฉพาะกิจแห่งชาติด้านการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19

คำสั่งยังห้ามไม่ให้มีการจัดงานสังสรรค์และรวมกลุ่มกันทุกประเภทในทุกพื้นที่ ซึ่งผู้ที่ละเมิดกฎระเบียบดังกล่าวต้องเข้ารับการกักตัวที่ศูนย์กักตัวของรัฐหรือโรงแรมสำหรับกักตัว รวมถึงถูกปรับเงินค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของผู้ละเมิด นอกจากนั้นยังห้ามไม่ให้มีการจัดการประชุมที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 20 คนขึ้นไป และระหว่างการรวมตัวกันต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างทางสังคมตลอดเวลา

คำสั่งอนุญาตให้ร้านอาหารให้บริการแบบนั่งรับประทานที่ร้านได้ แต่ต้องบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและปิดให้บริการในเวลา 21.00 น. ส่วนศูนย์กีฬาในร่มและกลางแจ้งยังต้องระงับให้บริการต่อไป รวมถึงห้ามไม่ให้มีการสัญจรทางถนนตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. ยกเว้นยานพาหนะสำหรับการขนส่งสินค้า รถฉุกเฉิน และยานพาหนะของเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจโรคโควิด-19 หรือเจ้าหน้าที่รัฐบาล ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่

คำสั่งดังกล่าวระบุให้มีการปิดด่านท่าขาเข้าและพรมแดนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วเวียงจันทน์ และห้ามไม่ให้มีการคมนาคมขนส่งข้ามสะพานมิตรภาพ ยกเว้นยาพาหนะขนส่งสินค้าหรือผู้ที่ได้รับอนุญาตจากคณะทำงานเฉพาะกิจโรคโควิด-19

ข้อจำกัดที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นนี้ จะมีผลบังคับใช้จนกว่าจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในท้องถิ่นได้ โดยวันอังคาร (31 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของลาว รายงานพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จากต่างประเทศเพิ่ม 135 ราย และผู้ป่วยจากการติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 64 ราย

หากนับจนถึงวันอังคาร ลาวมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมอยู่ที่ 15,015 ราย มียอดผู้เสียชีวิต 14 ราย และมีผู้ป่วยที่รักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลได้แล้วรวมอยู่ที่ 10,018 ราย โดยลาวรายงานพบผู้ป่วยจำนวน 2 รายแรกของประเทศ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ปีก่อน


ที่มา – ซินหัว