โรคเกาต์ เกิดจากอะไร?
โรคเกาต์ เป็นโรคข้ออักเสบเฉียบพลันซึ่งเกิดจากการมีกรดยูริกสะสมมากกว่าปกติ แล้วไปตกตะกอนอยู่ตามข้อต่างๆ จึงทำให้เกิดอาการอักเสบขึ้นมา มักพบในเพศชายอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนผู้หญิงจะพบน้อยกว่า ซึ่งโรคเกาต์ควรใช้วิธีรักษาทั้งวิธีการใช้ยาและดูแลเรื่องอาหารควบคู่กันไปจะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์
อาการโรคเกาต์รักษาอย่างไรและห้ามกินอะไร
- งดการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เช่น อาหารทะเล หอย เนื้อแดงสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ตับ หัวใจ เนื้อไก่ กึ๋นไก่ เป็ด ห่าน ปลาดุก ปลาไส้ตัน กุ้งชีแฮ้ หอย ถั่วต่างๆ เห็ด กะปิ ชะอม ยอดตำลึง กระถิ่น แตงกวา ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ
- ควบคุมการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนปานกลาง เช่น หน่อไม้ ดอกกะหล่ำปลี หน่อไม้ฝรั่ง สะตอ ถั่วลันเตา ใบขี้เหล็ก เนื้อหมู เนื้อวัว ปลาหมึก ปลาแซลมอน ปู
- ควรรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนต่ำ เช่นข้าวขาว ขนมจีน ข้าวแดง ข้าวโอ๊ต พาสต้า มันฝรั่ง ข้าวโพด เกาลัด ผักยกเว้นส่วนยอด
- งดผลไม้รสหวานจัด เช่น องุ่น ลูกเกด ลำไย แตงโม และเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลฟรุ๊กโตส
- สามารถทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงได้ เนื่องจากสารพิวรีนจากผลไม้จะเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือดไม่มาก เช่น ส้ม กล้วย สตรอว์เบอร์รี่ แอปเปิ้ล เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า ไวน์ โดยเฉพาะเบียร์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายมีการขับกรดยูริกออกได้น้อยลง
- สามารถรับประทานนมได้ เช่น นมพร่องมันเนย นมขาดมันเนย ผลิตภัณฑ์จากนม โยเกิร์ตไขมันต่ำ น้ำเต้าหู้ เนย เนยเทียม
- ลดน้ำหนัก ผู้ป่วยบางรายที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนต้องลดน้ำหนักตัวลง และควรลดแบบช้าๆหากลดน้ำหนักเร็วเกินไปอาจทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้นและทำให้เกิดข้ออักเสบกำเริบได้
- ควรดื่มน้ำให้มากๆ แนะนำให้ดื่มน้ำวันละมากกว่า 2 ลิตร เพราะจะช่วยขับกรดยูริกออกไปทางปัสสาวะ และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วในทางปัสสาวะได้อีกด้วย
- ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหม เนื่องจากจะทำให้ข้ออักเสบกำเริบขึ้น ควรออกกำลังกายที่ไม่มีผลต่อการกระทบกระเทือนของต่อข้อ เช่น ว่ายน้ำ การปั่นจักรยานอยู่กับที่ การแกว่งแขน
เรียบเรียงโดย Health Mthai Team