วิตามินอี หรือ โทโคฟีรอล (Tocopherol) เป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ลดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งได้ และยังช่วยชะลอความแก่ได้อีกด้วย และนี่คือ 11 อาหารที่มีวิตามินอี ควรรับประทานเป็นประจำ!!
เมล็ดทานตะวัน
เมล็ดทานตะวัน 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอี 35.17 มิลลิกรัม วิตามินอีในเมล็ดทานตะวันช่วยป้องกันหัวใจวาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคต้อกระจก ป้องกันมะเร็ง รวมไปถึงช่วยบำรุงผิวและเส้นผมให้มีสุขภาพดี
น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอก 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอีสูงถึง 18 มิลลิกรัม น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์นั้นดีต่อสุขภาพ เพราะอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งจะช่วยบำรุงสมองและหัวใจให้แข็งแรง นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังมีวิตามินอีสูงและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอีกด้วย
อัลมอนด์
อัลมอนด์ 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอี 25.63 มิลลิกรัม อัลมอนด์อุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
น้ำมันคาโนลา
น้ำมันคาโนลาเป็นอีกหนึ่ง อาหารที่มีวิตามินอี หรือโทโคฟีรอลซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดและการอุดตันของเส้นเลือด ลดอาการซึมเศร้า อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย
พิสตาชิโอ
พิสตาชิโอ 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอี 22.6 มิลลิกรัม ถั่วพิสตาชิโอเป็นแหล่งของวิตามินอีซึ่งเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีส่วนช่วยลดไขมัน ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเลือด ป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจ
พีแคน
เป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมของวิตามินอี พีแคน 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอีสูงถึง 25 กรัม ซึ่งวิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ มีส่วนช่วยลดไขมัน ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเลือด อีกทั้งยังช่วยปกป้องผิวหนังจากอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
วอลนัท
อุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ถั่ววอลนัท 100 กรัม มีวิตามินอี 20.83 มิลลิกรัม มีส่วนช่วยลดไขมัน ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเลือด ป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจ
เฮเซลนัท
เฮเซลนัทปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินอีถึง 15 มิลลิกรัม เฮเซลนัทจึงดีต่อสุขภาพ ช่วยผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม เนื่องจากมีวิตามินอีสูง ซึ่งวิตามินอีทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วยปกป้องผิวจากโรคมะเร็งผิวหนังและช่วยในการชะลอวัย ลดการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีอีกด้วย
กีวี
ผลไม้เนื้อสีเขียว รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำ มีวิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ผลกีวี 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอี 1.46 มิลลิกรัม
อะโวคาโด
อะโวคาโด 100 กรัม มีปริมาณวิตามินอี 2.07 มิลลิกรัม อะโวคาโดยังมีวิตามินอีจึงช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวยเงางามและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้อีกด้วย
