Mazda มาสด้า มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ยอดขายรถยนต์

Mazda คว้ายอดขายสูงเกือบ 6 หมื่นคันในปี 2562 ลุยยอดขายใหม่ในปี 2563

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจประจำปี 2562 ที่ผ่านมา ยอดขายพุ่งสูงสุดเกือบ 6 หมื่นคัน มาสด้า 2 ยังแรงต่อเนื่องขึ้นทำเนียบคว้าแชมป์สองปีติดต่อกัน มั่นใจปี 2563 ตลาดรถยนต์จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง…

Home / AUTO / Mazda คว้ายอดขายสูงเกือบ 6 หมื่นคันในปี 2562 ลุยยอดขายใหม่ในปี 2563

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เผยความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจประจำปี 2562 ที่ผ่านมา ยอดขายพุ่งสูงสุดเกือบ 6 หมื่นคัน มาสด้า 2 ยังแรงต่อเนื่องขึ้นทำเนียบคว้าแชมป์สองปีติดต่อกัน มั่นใจปี 2563 ตลาดรถยนต์จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เน้นกลยุทธ์การบริหารงานแบบครบวงจรพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ เตรียมเสริมทัพรถใหม่อีกเพียบ ทั้งรถเก๋ง รถอเนกประสงค์ รถครอสโอเวอร์ และรถปิกอัพ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเหนือระดับเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เน้นกลยุทธ์การสร้างสายสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว ยกระดับคุณภาพบริการหลังการขายให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ หลังการปรับโฉมโชว์รูมและศูนย์บริการเสร็จสมบูรณ์ มั่นใจปีนี้ยอดขายมากกว่า 60,000 คัน และครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6%

Mazda
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในปี 2562 ที่ผ่านมา ถูกจับตามองเป็นอย่างยิ่งโดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่ายอดรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปี 2561 ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 1.04 ล้านคัน แม้จะมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกเข้ามากระทบ แต่ท้ายที่สุดตัวเลขรวมก็ทะลุ 1 ล้านคัน (ประมาณการ) ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ในส่วนของมาสด้าสามารถบรรลุยอดขายรวมได้สูงถึง 58,129 คัน ลดลงประมาณ 17.5% และครองส่วนแบ่งการตลาด 5.8% แบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 46,704 คัน รถอเนกประสงค์จำนวน 5,736 คัน โดยเฉพาะการเปิดตัว CX-8 Crossover 7 ที่นั่ง ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าแบบครอบครัวจนสร้างกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า รวมทั้งรถปิกอัพจำนวน 5,664 คัน และรถสปอร์ต MX-5 จำนวน 25 คัน

“ภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2562 ขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 2.5% โดยรวมต้องบอกว่า “ดีขึ้น” แต่ยังต่ำกว่าศักยภาพที่ควรจะเป็น ปัจจัยสำคัญเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองซึ่งแม้ว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ผลสำเร็จไปได้ด้วยดีแต่ก็ใช้ระยะเวลานานกว่าที่จะจัดการแต่งตั้งรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ทำให้โครงการสำคัญ ๆ ชะลอออกไป ไม่สามารถเดินต่อได้ จึงไม่มีกลไกมาช่วยส่งเสริม”

Mazda

วิสัยทัศน์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2563 นี้มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.8 – 3.0% ค่าเงินและเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ หากค่าเงินบาทเฉลี่ยที่ 30/ดอลลาร์ฯ ในปีนี้จะกระทบสินค้าเกษตร รถยนต์ และท่องเที่ยว การผลิตอาจลดลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน ด้านการท่องเที่ยว ปัญหานักท่องเที่ยวที่ลดลงจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เพราะประเทศไทยยังถือเป็นประเทศเป้าหมายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหลัก จากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อาเซียน รวมทั้งจากไทยเที่ยวไทย ประเด็นทางเศรษฐกิจไทย ปี 2563 จำเป็นต้องได้รับแรงหนุนจากภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อาทิ รัฐต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม การเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินและการคลัง การลงทุนโครงการของภาครัฐคือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง อาทิ ท่าอากาศยาน ทางหลวงพิเศษ รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าในเมือง

Mazda

สำหรับปี 2563 มาสด้ายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการสื่อสารวิสัยทัศน์ Sustainable zoom-zoom 2030 คือ การแก้ปัญหาที่ต้องเผชิญ เพื่อให้โลกของเรายังคงสวยงาม เพื่อผู้คนและสังคมให้น่าอยู่ตลอดไป โดยยังคงเน้นเรื่อง “ความสนุกในการขับขี่” หรือ “Joy of Driving” ซึ่งเป็นพื้นฐานที่เราไม่เคยเปลี่ยน โดยในปีนี้ Mazda Motor Corporation กำลังจะครบ 100 ปี ในวันที่ 30 มกราคม นี้ และทาง มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เตรียมจัดกิจกรรมไปพร้อมกันกับมาสด้าทั่วโลกตลอดทั้งปี 2020 และแน่นอนว่าเรากำลังเตรียมงานสำคัญเพื่อร่วมเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน

นโยบายเกี่ยวกับผู้จำหน่าย การปรับปรุงโชว์รูมทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ภายในปีงบประมาณ 2562 นี้ กิจกรรมส่งเสริมการขายจะถูกยึดถือเป็นนโยบายหลักเพื่อให้ดีลเลอร์ทั่วประเทศดำเนินการ ทุกคนต้องออกไปเจอลูกค้าด้วยตัวเอง เน้นสร้างทีมงานให้แข็งแกร่ง และดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด

Mazda

ด้านผลิตภัณฑ์ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่ม Crossover SUV ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์​และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น และครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่ง รถอเนกประสงค์ และรถปิกอัพ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ทั้งกลุ่มคนโสด คู่สมรส และกลุ่มครอบครัว ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

และนี่คือยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของมาสด้าในปี 2563 ต่อยอดสู่ความสำเร็จ เพื่อให้มาสด้าเป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ลูกค้าไว้วางใจอย่างยั่งยืน