2020 4Runner Venture Edition suv Toyota 4Runner รถยนต์ออฟโรด รถยนต์อเนกประสงค์

Toyota 4Runner Venture Edition พร้อมพิชิตเส้นทางสุดโหดทุกอุปสรรค

Toyota ได้ประกาศความพร้อมในการเปิดตัวของ 2020 Toyota 4Runner รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัพเกรดครั้งใหญ่มาพร้อมกับระบบ Active Safety System TSS-P ที่จะมีในทุกรุ่นรวมถึงจอทัชสกรีนขนาด 8นิ้วรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay เเละ…

Home / AUTO / Toyota 4Runner Venture Edition พร้อมพิชิตเส้นทางสุดโหดทุกอุปสรรค

Toyota ได้ประกาศความพร้อมในการเปิดตัวของ 2020 Toyota 4Runner รุ่นใหม่ที่ได้รับการอัพเกรดครั้งใหญ่มาพร้อมกับระบบ Active Safety System TSS-P ที่จะมีในทุกรุ่นรวมถึงจอทัชสกรีนขนาด 8นิ้วรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay เเละ Android Auto รวมถึงการเชื่อมต่อ Amazon Alexa ทังหมดนี้อยู่ใน 2020 4Runner Venture Edition

Toyota 4Runner Venture Edition

4Runner Venture Edition คือรถยนต์ SUV ขนาดกลางพร้อมผจญภัยไปทุกที่ในเส้นทางที่ทุรกันดาร สร้างบนพื้นฐานของรุ่น TRD Off-Road Premium แต่ได้รับการตกแต่งภายนอกเพิ่มเติมในส่วนของราวหลังคาของ Yakima Megawarrior ที่ให้พื้นที่เก็บสัมภาระบนหลังคาเพิ่มในขยนาดความยาว 52นิ้ว กว้าง 48นิ้ว เเละสูง6.5นิ้ว นอกจากนี้ยังใช้ล้อของชุดเเต่ง TRD ขนาด 17นิ้วสี Gunmetal, กระจกมองข้างสีดำ, มือจับประตูเเละสปอยเลอร์หลังสีดำเพิ่มความดุดัน

Toyota 4Runner Venture Edition

เพื่อง่ายต่อการขับเเละควบคุมรถในเส้นทางสุดหฤโหด 4Runner Venture Edition ยังมาพร้อมกับระบบ Crawl control ซึ่งจะปรับความเร็วลดลงโดยอัตโนมัติด้วยแรงฉุดจากเครื่องยนต ปรับการกระจายแรงบิดจากห้องเกียร์ไปยังล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 สามารถลุยผ่านเส้นทางที่เป็นโขดหิน, ทางขรุขระ, หน้าฝาลาดชันเเละสภาพพื้นผิวถนนที่ลื่นซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับความเร็วได้ตามความเหมาะสมถึง 5ระดับตามสภาพพื้นผิวขณะขับขี่

Toyota 4Runner Venture Edition

ระบบ Crawl Control ช่่วยให้ผู้ขับขี่สามารถพิชิตเส้นทางอันเเสนสุดโหดให้กลายเป็นเรื่องง่ายโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบเบรกหรือคันเร่ง นอกจากนี้ 2020 Toyota 4Runner ยังมาพร้อมกับระบบป้องกันการลื่นไถลของรถเมื่อขับบนพื้นผิวที่ลื่นด้วยหิมะ, น้ำเเข็งหรือฝน ระบบจะกระจายกำลังถ่ายไปยังล้อที่สัมผัสพื้นผิวที่ลื่น เเละ Multi-terrain Monitor หน้าจอแสดงระดับองศาการเอียงของตัวรถเวลาลุยทางออฟโรด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมพวงมาลัยบนเส้นทางออฟโรดได้ง่ายยิ่งขึ้น