CES 2019 HONDA Honda Autonomous Work Vehicle Honda Developer Studio Honda Xcelerator ข่าวรถยนต์ ฮอนด้า ฮอนด้า อินโนเวชันส์

Honda เสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ภายในงาน CES 2019

ฮอนด้า จัดแสดงนวัตกรรม ได้แก่ เทคโนโลยีเพื่อการเคลื่อนที่ (Mobility) โรโบติกส์ (Robotics) และการจัดการพลังงานสุดล้ำ (Energy Management) อีกทั้งเสนอแนวคิดของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ในงานแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยี และสินค้าอิเลกทรอนิคส์ เพื่อผู้บริโภคระดับโลก…

Home / AUTO / Honda เสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ภายในงาน CES 2019

ฮอนด้า จัดแสดงนวัตกรรม ได้แก่ เทคโนโลยีเพื่อการเคลื่อนที่ (Mobility) โรโบติกส์ (Robotics) และการจัดการพลังงานสุดล้ำ (Energy Management) อีกทั้งเสนอแนวคิดของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ในงานแสดงนวัตกรรม เทคโนโลยี และสินค้าอิเลกทรอนิคส์ เพื่อผู้บริโภคระดับโลก หรืองาน CES 2019 (The Consumer Electric Show 2019) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 11 มกราคม 2562 ซึ่งครั้งนี้ เทคโนโลยีที่จัดแสดง มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับคุณภาพและเพิ่มศักยภาพการใช้ชีวิต เพื่อสร้างสรรค์โลกที่สะอาด ปลอดภัย และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยมีการสาธิตเทคโนโลยีการเชื่อมต่อภายในรถยนต์ผ่านรถยนต์ ฮอนด้า พาสสปอร์ต โฉมใหม่ ปี 2019 และครั้งแรกของการเผยโฉมต้นแบบยนตรกรรมออฟโร้ดขับเคลื่อนอัตโนมัติ  Honda Autonomous Work Vehicle ที่ผ่านการทดสอบการใช้งานจริง ซึ่งเป็นพาหนะต้นแบบรุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากความฝันของทีมวิศวกรฮอนด้า

นวัตกรรมของฮอนด้าที่จัดแสดงในงานนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่พร้อมนำเสนอคุณค่าใหม่และยกระดับการใช้ชีวิต และเผยให้เห็นวิสัยทัศน์ในการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในด้านเทคโนโลยี เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยผู้ที่สนใจร่วมเป็นพันธมิตร สามารถมาเยี่ยมชมบูทฮอนด้า หมายเลข #7900 ภายในงาน ณ บริเวณ North Hall ของ Las Vegas Convention Center

ผลิตภัณฑ์ต้นแบบและแนวคิดทางเทคโนโลยี ที่ฮอนด้านำมาจัดแสดงในงาน CES 2019 ประกอบด้วย

Honda Autonomous Work Vehicle

ต้นแบบยนตรกรรมออฟโร้ดขับเคลื่อนอัตโนมัติ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงาน

ฮอนด้าจะแสดงการทดสอบในสภาวะการใช้งานจริงของ Honda Autonomous Work Vehicle ต้นแบบยนตรกรรมออฟโร้ดขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ผสานคุณสมบัติของรถ ATV (All-Terrain Vehicle) ของฮอนด้า และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติอันล้ำสมัยเข้าด้วยกัน ซึ่งได้รับการออกแบบโดยศูนย์วิจัยและพัฒนา ฮอนด้า อาร์ แอนด์ ดี ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน สำหรับหน่วยงานราชการและธุรกิจต่างๆ เพื่อใช้ในงานก่อสร้าง เกษตรกรรม ภาระกิจค้นหาและช่วยชีวิต ตลอดจนการดับเพลิง  

SAFE SWARM™สร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้

SAFE SWARM™ คือ แนวคิดที่แสดงให้เห็นถึงความฝันของฮอนด้าในการสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นจริง ทำให้การจราจรลื่นไหลและปลอดภัย ผ่านการเชื่อมต่อเทคโนโลยีในรถยนต์ที่สามารถสื่อสารและเชื่อมโยงถึงกัน SAFE SWARM™ ใช้เทคโนโลยี Vehicle-to-Everything (V2X) เพื่อให้รถยนต์สามารถติดต่อสื่อสารกับรถยนต์คันอื่นที่อยู่รอบข้าง และแชร์ข้อมูลสำคัญ อาทิ ตำแหน่งและความเร็วของรถ ซึ่งข้อมูลต่างๆ นี้ จะช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์หรือระบบขับขี่อัตโนมัติสามารถนำข้อมูลมาประมวลผลร่วมกับเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในรถ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลภายใต้สภาพแวดล้อม สภาพการจราจรรอบตัว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในสถานการณ์ที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ 

โรโบติกส์ เพื่อยกระดับ และเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิต

ฮอนด้าได้เปิดตัว Honda RaaS (Robotics as a Service) Platform ซึ่งเป็นแนวคิดแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์สำหรับฟังก์ชั่นการทำงานทั่วไป เช่น การเก็บและแชร์ข้อมูล การควบคุมการสื่อสาร การเปลี่ยนแปลงสถานะ และการร่วมมือกันระหว่างหุ่นยนต์ ผ่านอินเทอร์เฟซหรือแพ็คเกจ API*2 และ SDK*3  โดยฮอนด้ามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกิดการบูรณาการของบริการโรโบติกส์ ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์หุ่นยนต์ ระบบ และแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งพัฒนาโดยฮอนด้าและพันธมิตร โดยฮอนด้ากำลังมองหาความร่วมมือจากผู้พัฒนาอุปกรณ์หุ่นยนต์และผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านโรโบติกส์เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นได้จริง

 

นอกจากนี้ ทางฮอนด้ายังเผยโฉม Honda Omni Traction Drive System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัว ที่มาพร้อมระบบล้อขับเคลื่อนรอบทิศทาง ซึ่งพัฒนามาจากการค้นคว้าและวิจัยด้านโรโบติกส์ของฮอนด้า ซึ่งอยู่ในหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ของฮอนด้า อาซิโม (ASIMO) ซึ่งช่วยให้ ยูนิ-คับ (UNI-CUB) พาหนะส่วนบุคคลสามารถเคลื่อนที่ได้รอบทิศทางอย่างเป็นธรรมชาติ

Wireless Vehicle-to-Grid ลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมสร้างคุณค่าใหม่

ฮอนด้าเตรียมเผยโฉม Wireless Vehicle-to-Grid (V2G) ระบบบริหารจัดการพลังงานแบบสองทางที่สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สาย  Wireless Vehicle-to-Grid ของฮอนด้า จะช่วยสร้างสมดุลระหว่างความต้องการใช้ไฟฟ้าและการผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ โดยจะทำการจ่ายไฟเข้าสู่รถในช่วงเวลาที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าสูงกว่าการบริโภคไฟฟ้า และปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากรถสู่กริดไฟฟ้าเมื่อปริมาณการบริโภคไฟฟ้ามีสูงกว่าการผลิต ฮอนด้ามีความสนใจที่จะร่วมมือกับบริษัทด้านพลังงานต่างๆ ทั้งบริษัทรายใหญ่ที่เป็นผู้รวบรวมความต้องการใช้ไฟฟ้า และผู้ผลิตไฟฟ้า เพื่อให้ระบบนี้สามารถนำไปใช้งานจริงได้ในสังคม

ฮอนด้า อินโนเวชันส์ พร้อมเดินหน้าสู่ความร่วมมือใหม่ๆ   

ฮอนด้า อินโนเวชันส์ ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพและพันธมิตรชั้นนำเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการอันล้ำสมัยผ่านสองโครงการนวัตกรรมแบบเปิด Honda Developer Studio และ Honda Xcelerator

ในงาน CES 2019 ครั้งนี้  Honda Developer Studio ได้นำรถยนต์ ฮอนด้า พาสสปอร์ต โฉมใหม่ปี 2019 มาใช้ในการสาธิตประสบการณ์การขับขี่แบบ Honda Dream Drive ที่เหนือชั้นกว่าเดิม โดย Honda Developer Studio ได้ร่วมมือกับ DreamWorks Animation สร้างสรรค์ Honda Dream Drive ขึ้น ซึ่งเป็นการจำลองประสบการณ์แบบเสมือนจริง (Virtual Reality – VR) ที่สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของรถยนต์ และได้จัดแสดงในงาน CES 2017 ที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้น มีการต่อยอดแพล็ตฟอร์ม Honda Dream Drive โดยเพิ่มฟีเจอร์และฟังก์ชั่นใหม่ ๆ รวมทั้งการจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ สำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

Honda Dream Drive – สำหรับผู้ขับขี่ ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากการต่อยอดแนวคิดเทคโนโลยีการชำระเงินในรถยนต์ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2017 เป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจองร้านอาหาร จ่ายค่าสินค้าและบริการ ทั้งค่าน้ำมัน บัตรชมภาพยนตร์ และค่าที่จอดรถ และแชร์ตำแหน่งที่อยู่ของผู้ขับ โดยทั้งหมดนี้สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ผ่านระบบกระเป๋าเงินอัจฉริยะที่ติดตั้งอยู่ในรถฮอนด้า 

Honda Dream Drive – สำหรับผู้โดยสาร ประกอบด้วย เกมแบบมิกซ์เรียลลิตี้ ภาพยนตร์ และแอปพลิเคชันด้านการเดินทาง รวมทั้งการควบคุมวิทยุและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องโดยสาร ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ

ในอนาคต แพลตฟอร์ม Honda Dream Drive ยังได้เตรียมเปิดตัวแนวคิดระบบสะสมคะแนนสำหรับลูกค้า โดยฮอนด้าพัฒนาประสบการณ์ Honda Dream Drive ด้วยความร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมค้าปลีกและเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งรายละเอียดจะเปิดเผยในงาน CES 2019

Honda Xcelerator และ Noveto จะสาธิตเทคโนโลยีระบบเสียงสามมิติซึ่งพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยี Noveto Smart Audio ของ Noveto โดยสามารถส่งสัญญาณเสียงไปยังหูแต่ละข้างของผู้ฟัง พร้อมกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกที่สัมผัสได้สู่ผู้ขับขี่ โดยที่ไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้ขับรถเกิดความตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง โดยเตือนว่ามีสิ่งกีดขวางที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างขัดเจน จากการจับสัญญาณผ่านเซ็นเซอร์ในรถยนต์ รวมทั้งช่วยให้ระบบนำทางในรถยนต์ทำงานได้แม่นยำยิ่งขึ้น

สำหรับผลงานที่ Honda Xcelerator พัฒนาร่วมกับ Perceptive Automata จะช่วยทำให้การใช้รถใช้ถนนปลอดภัยและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น สำหรับทั้งผู้ขับขี่และพาหนะที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Vehicle)  Perceptive Automata จะทำให้พาหนะที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ มีสัญชาตญาณเหมือนมนุษย์ ในการเข้าใจสภาวะทางจิตใจของผู้เดินถนน ผู้ขับขี่จักรยาน และผู้ขับขี่รถยนต์ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์จากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งในรถยนต์ โดยเทคโนโลยีนี้ จะช่วยให้การใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ร่วมงาน CES จะมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับความร่วมมือในโครงการ Honda Xcelerator เหล่านี้เพิ่มเติมผ่านสื่ออินเทอร์แอ็คทีฟในงาน